ข้อแนะนำในการเขียน DMin Dissertation สำหรับ AGST Alliance และ BBS
1. เลือกหัวข้อ และกำหนดคำถามงานวิจัย
ลองคิดไว้สัก 2-3 หัวข้อที่เราสนใจจริงๆ และเลือกสัก 1 หัวข้อที่เป็นไปได้ที่สุดในการทำวิจัย แล้วค่อยเขียน FOI (Focus of Interest)
2. ติดต่อและทำงานร่วมกับ Supervisor ทันที
เพื่อทบทวน Process การทำงาน และกำหนด Methodology งานวิจัยว่าควรเป็น Qantitative, Qualitative, หรือแบบผสม การทำงานกับ Supervisor ควรขออนุญาตนัดหมายเป็นกิจจะลักษณะ
3. เขียนและส่ง FOI
เมื่อเขียนโครงเรียบร้อยให้ส่ง FOI ให้ AGST/BBS และเมื่อผ่านให้เขียน Proposal ทันที ไม่ควรดึงเวลาออกไป เพราะเครื่องเริ่มติดแล้ว
4. เขียนและส่ง Proposal
เมื่อผ่านแล้วให้เริ่มบทที่ 1 ทันที เพราะบทที่ 1 คือการนำเนื้อหาจาก Proposal บางส่วนมาปรับใช้ได้
5. เขียนบทที่ 2
บทนี้เป็น Literature Review เน้นการอ่านหนังสือตามหัวข้อการทำวิจัย การใช้เวลาในบทนี้อาจจะต้องดู Timeline ให้ดี เพราะบางครั้งการอ่านหนังสืออาจเพลินและทำให้เราเขียนมากจนเกินไป หรือไม่ก็ใช้เวลานานเกินไป พยายามกำหนดเวลาตัวเองให้เขียนให้จบภายใน 2 เดือน เทคนิคคือสร้างไฟล์ Bibliography ขึ้นมาขณะอ่าน ใส่รายชื่อหนังสืออ้างอิง ค่อยๆ เติมเข้าไปโดยเรียงตามตัวอักษร
6. เขียนบทที่ 3-4 กระบวนการวิจัย และผลการวิจัย
ควรมีที่ปรึกษาต่างหากที่เป็นผู้เชี่ยวชาญด้านสถิติสำหรับ Quantitative reaearch หรือผู้เชี่ยวชาญในการทำ Model prove สำหรับ Qualitative research ควรหาผู้เชี่ยวชาญไว้ก่อน โดยการว่าจ้างอาจจะอยู่ที่ 3,000-5,000 บาท หรือตามแต่ตกลงกัน
7. เขียนบทที่ 5 ข้อเสนอ และคำแนะนำ
บทนี้เป็นความเห็นของผู้เขียนที่มาจากผลการทำวิจัย ให้เขียนประโยคลักษณะแสดงความเห็นจากการสำรวจ โดยระบุว่าอะไร อย่างไร ไม่ใช้คำกำกวม ควรนำผลการววิจัยมาสนับสนุน ไม่ต้องระบุค่า % เพราะผู้อ่านสามารถดูได้จากบทที่ 4
8. นัดหมายเพื่อขอคำแนะนำจาก Supervisor เมื่อจบแต่ละบท
พยายามนัดเพื่อขอคำแนะนำจาก Supervisor เมื่อจบแต่ละบท (เขียนเสร็จบทนั้นๆ ให้เสร็จเรียบร้อยก่อนปรึกษา) การนัดหมายวันเวลาสถานที่ล่วงหน้าจะช่วยให้เรามีวินัยในการเขียนงานอย่างต่อเนื่อง
9. ตรวจสอบขั้นสุดท้าย
ตรวจสอบภาษา การจัดหน้า ประกอบไฟล์เข้าด้วยกันหากเขียนแยกไฟล์ ตรวจสอบความเรียบร้อยขั้นสุดท้าย จากนั้นส่งงาน แล้วรอคำแนะนำจากคณะกรรมการตรวจ Dissertation ประมาณ 1-2 เดือน คณะกรรมการอาจมีความเห็นเป็นการให้ผ่านโดยไม่ต้องแก้ไข แก้ไขบางส่วน แก้ไขส่วนใหญ่ หรือไม่ให้ผ่าน (ส่วนใหญ่จะให้แก้ไขตามคำแนะนำ) สำหรับการตรวจสอบภาษาอังกฤษเราสามารถจ้างเจ้าของภาษาได้ในอัตราประมาณ 5,000-10,000 บาท หรือตามแต่ตกลงกัน
10. แก้ไขแล้วกลับไปยังคณะกรรมการ
เมื่อแก้ไขงานเสร็จ อาจมีการส่งกลับไปมาจนเรียบร้อย ใช้เวลาประมาณ 1 เดือนต่อรอบการส่ง ขั้นตอนนี้เราต้องใจเย็นสักหน่อยเพราะเมื่อส่งไปอาจเงียบไปนานพอควร
ผมกำลังส่ง Dissertation ให้ AGST Alliance / BBS ทางอีเมล กระบวนการหลังจากนั้นยังมีอีกมากครับ |
ถ่ายรูปร่วมกับ ศจ.ดร.อานุภาพ วิชิตนันทน์ Supervisor งานวิจัย และคุณพีท |
1. หากเราเพิ่มการฝึกฝนการใช้โปรแกรม Word Processor จะช่วยให้งานของเราเร็วขึ้นมาก การทำ Dissertation ปัจจุบันควรฝึกฝนทำเอง ไม่แนะนำให้จ้างคนพิมพ์หรือคนจัดหน้าให้
2. การแก้งาน จะต้องมีเอกสารการแก้ไขแนบทุกครั้ง โดยระบุประเด็นที่แก้ แก้แล้วเป็นอะไร และระบุหน้าที่แก้ไข เพื่อคณะกรรมการตรวจรับจะสะดวกในการตรวจสอบ
3. ปัจจุบันไม่ต้องกังวลเรื่องความหนาของ Dissertation แต่ต้องดูจำนวนหน้าขั้นต่ำที่ระบุไว้ในเอกสารคำแนะนำในการเขียน Dissertation และเน้นการเขียนให้มีคุณภาพ ตรงประเด็น เราเขียนหัวข้ออะไร พบอะไร มีข้อแนะนำอะไร ไม่เขียนซ้ำไปซ้ำมา บทที่สำคัญมากคือบทที่ 5 จำเป็นต้องมีความหนาเท่ากับหรือมากกว่าใน Dissertation Guideline แต่สิ่งสำคัญคือประเด็นชัดเจนมีคุณภาพ
4. หากเราเข้าใจกระบวนการแล้ว ควรลงมือเขียน ติดจุดไหนศึกษาเพิ่มในจุดนั้น ปัญหาที่พบบ่อยคือผู้เขียนเกิดความลังเลในหัวข้อ หรือกังวลในกระบวนการเขียน เครียด ไม่แน่ใจ คำแนะนำที่ดีที่สุดคือรวบรวมความคิดแล้วลงมือทำ
5. ควรมี Turabian ติดตัวไว้ หากสงสัยใน Format ให้เปิดดู ปรับตาม แล้วทำงานต่อ
2 เล่มนี้ควรมีติดตัวไว้ ช่วยได้มากเรื่องการหาหัวข้อและการจัดรูปแบบ |
ขอหนุนใจนักศึกษาปริญญาระดับเอกให้อดทน ความอดทนของเราจะทำให้เราได้รับศักดิ์ศรีในนิรันดร์ คุณสมบัติความอดทนอย่างเดียวกันจะช่วยให้พี่น้องผ่านงานอื่นๆ ที่ยากไปได้เช่นกัน ขอเป็นกำลังใจให้ทุกท่านสามารถเขียนดุษฎีนิพนธ์ ยอมรับการตรวจสอบอย่างเข้มข้น และจบปริญญาเอกได้ครับ
2 โครินธ์ 4:17
เพราะว่าความยากลำบากชั่วคราวและเล็กน้อยของเรา จะทำให้เรามีศักดิ์ศรีนิรันดร์มากมายอย่างไม่มีที่เปรียบ
ความคิดเห็น