โดยกนก ลีฬหเกรียงไกร
การอัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงช่วยกู้อิสราเอลชนชาติของพระเจ้าจากศัตรูมีอยู่มากมายในพระคัมภีร์ และเป็นการช่วยกู้ที่เหนือความคาดหมายซึ่งทำให้คนอิสราเอลต้องสารภาพว่าการช่วยกู้นี้มาจากพระเจ้าไม่ใช่ความสามารถของตนเองเพื่อไม่ให้ใจของเขาหยิ่งผยองขึ้น อวดอ้างว่าชัยชนะนั้นๆ มาด้วยกำลังของเขาเอง เช่น ภัยพิบัติ 10 ประการของพระเจ้าที่ทำให้ฟาโรห์จำใจต้องปล่อยอิสราเอลออกไปจากอียิปต์ (อพยพ 7-12) การพังทลายของกำแพงเมืองเยรีโคด้วยเหตุผลที่ยากที่จะอธิบายได้ (โยชูวา 6) การรบในศึกช่วยชาวกิเบโอนที่กิลกาลพระเจ้าทรงช่วยโยชูวารบกับคนคานาอันด้วยลูกเห็บหนักเหมือนก้อนหินใหญ่จากฟ้าตกใส่ศัตรู พระคัมภีร์บรรยายไว้ว่า “ผู้ที่ตายด้วยลูกเห็บนั้นก็มากกว่าผู้ที่ประชาชนอิสราเอลฆ่าเสียด้วยดาบ” (โยชูวา 10:11) จำนวนนักรบของกิเดโอนเพียง 300 คน ต่อกรกับกองทัพมีเดียนที่มีจำนวนมากมาย พระเจ้าทรงทำการอัศจรรย์ให้ทหารมีเดียนฆ่าฟันกันเองและแตกกระจัดกระจายกลับไปยังที่ของตน (ผู้วินิจฉัย 6-8) ผู้วินิจฉัยแซมสันคนเดียวสามารถกำราบกองทัพฟิลิสเตียได้ในช่วงหนึ่งและวินิจฉัยอิสราเอลอยู่ 20 ปี (ผู้วินิจฉัย 15:20) และอีกหลายเรื่องในพระคัมภีร์เดิมก่อนเหตุการณ์ของดาวิดและโกลิอัทครั้งนี้ หลายอย่างพออธิบายเหตุผลได้ซึ่งมักจะเป็นเรื่องของจังหวะและความลงตัวที่พระเจ้านำมาให้เจอกัน หลายเรื่องก็ไม่สามารถอธิบายเหตุผลให้เป็นที่พอใจได้จึงต้องยอมรับเป็นเรื่องการอัศจรรย์ของพระเจ้าที่ไม่เข้าใจ แต่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจังหวะหรือเป็นสิ่งที่ไม่เข้าใจ ล้วนเป็นมาจากพระเจ้าเพื่อคนของพระเจ้าจะเคารพยำเกรงและไว้วางใจในพระองค์
พระธรรม 1 ซามูเอล 17 ได้บรรยายถึงเหตุการณ์การรบของดาวิดและโกลิอัทอย่างน่าตื่นเต้นน่าประทับใจในการช่วยกู้ของพระเจ้าต่ออิสราเอลอีกครั้ง เป็นเหตุการณ์ที่เหลือเชื่อ ไม่น่าจะเป็นไปได้ที่คนตัวเล็กๆ อย่างดาวิด จะสามารถเอาชนะนักรบตัวยักษ์อย่างโกลิอัทได้ พระคัมภีร์ตอนนี้บรรยายถึงความได้เปรียบอย่างเหลือเชื่อของนักรบโกลิอัทที่แข็งแกร่งกว่านักรบอิสราเอลในทุกๆ เรื่อง ไม่ว่าจะเป็นรูปร่างที่ใหญ่โต สูง 3 เมตรกว่า เขาสวมหมวกทองสัมฤทธิ์ที่ศีรษะ และสวมเสื้อเกราะที่ทำเป็นเกล็ดๆ เสื้อเกราะนั้นหนักประมาณ 57 กิโลกรัมเป็นทองสัมฤทธิ์ สวมสนับแข้งทองสัมฤทธิ์ และมีทวนทองสัมฤทธิ์แขวนที่บ่า ส่วนด้ามหอกของเขานั้นเหมือนไม้กระพั่นทอผ้า ปลายหอกเป็นเหล็กหนักประมาณ 7 กิโลกรัม มีคนถือโล่นำหน้าเขา เป็นนักรบที่เก่งกล้าสามารถที่กองทัพฟิลิสเตียภูมิใจ เมื่อกลับมามองที่ดาวิด เขาอาสารับคำท้าโกลิอัทด้วยความกล้าหาญและนี่ดูเหมือนเป็นสิ่งเดียวที่โดดเด่นเหมือนนักรบอิสราเอลทั้งปวงที่ไม่กล้าแม้แต่จะออกมาต่อกรกับโกลิอัท แต่นอกจากเรื่องความกล้าหาญดาวิดเหมือนไม่มีอะไรเทียบได้กับโกลิอัทเลย ดาวิดไม่ใช่คนรูปร่างใหญ่โต ไม่ได้ถืออาวุธแบบเดียวกับโกลิอัท ไม่ได้มีเสื้อเกราะอย่างดีหรือโล่ใหญ่นำหน้า ความจริงดาวิดไม่ถนัดในการใส่เสื้อเกราะ เขาใช้สลิงเป็นอาวุธ และดาวิดได้ทูลซาอูลด้วยความกล้าหาญว่า “ผู้รับใช้ของฝ่าพระบาทได้ฆ่าสิงโตและหมีนั้นมาแล้ว คนฟีลิสเตียผู้ไม่ได้เข้าสุหนัตนี้ก็เป็นเหมือนสัตว์เหล่านั้นตัวหนึ่ง ด้วยเขาได้ท้าทายกองทัพของพระเจ้าผู้ทรงพระชนม์อยู่” (1 ซามูเอล 17:36) ดาวิดเลือกก้อนหินเกลี้ยงจากลำธารมา 5 ก้อน จากนั้นเข้าปะทะกับโกลิอัท โกลิอัทไม่ได้ตั้งตัวอะไร เอาแต่หัวเราะเยอะเย้ยดาวิดที่ถือไม้ของผู้เลี้ยงแกะออกมา ดาวิดไม่กลัวพูดขู่กลับไปด้วยอำนาจที่ใหญ่กว่าอำนาจและพลกำลังที่ตัวโกลิอัทคิดว่าเหนือกว่าดาวิด คือใช้พระนามพระเจ้า “ท่านมาหาข้าด้วยดาบ ด้วยหอกและด้วยหอกซัด แต่ข้ามาหาท่านในพระนามแห่งพระยาห์เวห์จอมทัพ พระเจ้าแห่งกองทัพอิสราเอล ผู้ซึ่งท่านได้ท้าทาย” (1 ซมอ. 17:45) จากนั้นดาวิดหยิบก้อนหินจากย่ามออกมาก้อนหนึ่งเหวี่ยงใส่โกลิอัท เจาะเข้าไปที่หน้าผาก โกลิอัทล้มลง ดาวิดใช้โอกาสนี้ชักดาบโกลิอัทออกมาตัดหัวเขา ได้รับชัยชนะไปได้อย่างอัศจรรย์โดยพระนามพระเจ้าผู้ทรงช่วยกู้
พระเจ้าทรงได้รับเกียรติผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้ คนของพระเจ้าที่ไม่มีข้อได้เปรียบอะไรเมื่อเทียบกับจุดแข็งของโกลิอัทกลับรบชนะโกลิอัทได้อย่างอัศจรรย์ หากเราเจาะลึกเข้าไปในเรื่องความได้เปรียบ หนังสือเล่มนี้ให้รายละเอียดที่น่าสนใจในเชิงวิทยาศาสตร์ ความสามารถในการได้เปรียบเชิงแข่งขัน และการแพทย์
สลิง เป็นอาวุธโบราณที่ใช้อย่างเป็นเรื่องเป็นราวในอดีต การที่ดาวิดถือสลิงมาหาโกลิอัทจึงถือว่าดาวิดถือว่าเขาได้นำอาวุธลับที่มีความร้ายแรงออกมาแล้ว ผู้เชี่ยวชาญคำนวณไว้ว่าสลิงน่าจะสามารถเหวี่ยงหินออกไปได้ด้วยความเร็ว 34 กิโลเมตรต่อวินาที ในระยะปะทะกับโกลิอัทซึ่งน่าจะไม่เกิน 35 เมตร ก้อนหินในมือของผู้เชี่ยวชาญในการยิงแบบดาวิด จะสามารถพุ่งไปเจาะกะโหลกของโกลิอัทได้อย่างง่ายดาย เฮิร์ทเขียนไว้ว่า “ดาวิดน่าจะยิงโดนโกลิอัทภายในเวลาหนึ่งวินาทีเศษๆ ซึ่งเร็วจนโกลิอัทไม่ทันได้ป้องกันตัวและตกเป็นเป้านิ่ง”
วิธีการรบของดาวิดไม่ได้เลียนแบบวิธีการรบของโกลิอัท คือการรบแบบทหารราบที่ต้องมีอุปกรณ์ต่างๆ แบบทหารราบ เช่น ชุดเกราะ โล่ หมวกเหล็ก ดาบ ซึ่งอปุกรณ์ของโกลิอัทใหญ่โตกว่าของทหารราบทั่วๆ ไป แต่วิธีรบของดาวิดเป็นแบบพลสลิงที่ต้องใช้ทักษะการเข้าปะทะจากระยะไกล ความคล่องตัวที่ไม่จำเป็นต้องมีชุดเกราะหนักๆ ใส่ วิธีการรบไม่ได้รบแบบเข้าประชิด แต่ยิงสลิงจากระยะไกลและยิงได้อย่างแม่ยำจากการฝึกฝนอย่างชำนาญพุ่งเข้าไปเจาะหน้าผากที่ไม่มีเครื่องป้องกัน จุดแข็งของดาวิดจึงสามารถเอาชนะจุดแข็งของโกลิอัทได้อย่างง่ายดาย
ในเชิงการแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนลงความเห็นว่าลักษณะของโกลิอัทความจริงเขาป่วยเป็นโรคร้ายแรง มีรูปร่างท่าทางเหมือนคนเป็นโรคอะโครเมกาลี (acromegaly) ที่เกิดจากเนื้องอกในต่อมใต้สมองซึ่งทำให้ฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโตของมนุษย์ถูกผลิตออกมากมายเกินไป ทำให้ร่างกายใหญ่โตแต่ไม่สมประกอบ อาการที่พบได้ทั่วไปของผู้ป่วยเป็นโรคนี้ซึ่งตรงกับท่าทางของโกลิอัทคือปัญหาเรื่องสายตา เนื้องอกจะโตไปทับประสาทตาทำให้มองไม่ชัด เห็นภาพซ้อน จะเห็นได้จากการที่โกลิอัทต้องมีคนช่วยถือโล่นำหน้า เพราะเขาต้องอาศัยผู้นำทาง โกลิอัทมองเห็นไม้เท้าของดาวิดมีหลายอันทั้งๆ ที่ดาวิดถือมาแค่อันเดียว (1 ซามูเอล 17:43) โกลิอัทยังเคลื่อนไหวเชื่องช้าเพราะมองไม่ชัด ต้องใช้เวลานานกว่าจะพบว่ากติกาการต่อสู้ถูกเปลี่ยนไป ไม่ใช่การสู้แบบปะทะตัวต่อตัวในรูปแบบเดียวกัน
ปรากฏการณ์ไม้ซีกงัดไม้ซุงสามารถพบเห็นได้หลายครั้งในสังคมปัจจุบัน เป็นปรากฏการณ์การต่อสู้ที่ผู้ที่มีแต้มต่อเหนือกว่าไม่คิดว่าตัวเองจะพ่ายแพ้ ความจริงบางเรื่องไม่ถึงขนาดแพ้ชนะแต่เป็นเรื่องที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ทำให้ยักษ์ในวงการต่างๆ ถึงกับต้องล้มไป ตัวอย่างเช่นการเปลี่ยนแปลงของการถ่ายภาพดิจิตัลทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างโกดักต้องล่มสลาย แม้ว่าโกดักจะมีแผนกหนึ่งที่กำลังพัฒนากล้องดิจิตัลอยู่แล้วก็ตาม แต่ความประมาทไม่ระมัดระวังการเปลี่ยนแปลงทำให้กล้องดิจิตัลสามารถขึ้นมาแทนกล้องฟิลม์ได้อย่างสมบูรณ์, สื่อกระดาษทางแมกาซีน หนังสือพิมพ์ หรือโทรทัศน์ ถูกท้าทายด้วยสื่อออนไลน์ที่ผู้ชมสามารถเข้าถึงเวลาใดก็ได้และผู้ลงโฆษณาสามารถรู้จำนวนผู้ชมโฆษณาได้อย่างแท้จริง, โลกค้าปลีกที่ยิ่งใหญ่กำลังถูก E-commerce ท้าทายและสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน, การศึกษาในระบบที่กำลังถูกตั้งคำถามจากสังคมว่าปริญญาที่ได้รับมาใช้ประโยชน์ไม่ได้จริงเมื่อต้องแลกกับเวลาและทรัพยากร ทำให้ผู้คนเข้าสู่การศึกษาในระบบคอร์สสั้นๆ ผ่านทางออนไลน์หรือ MOOC ( Massive Open Online Course) จากสถาบันที่เขาเชื่อมั่น เป็นต้น
ในมุมมองของการรับใช้พระเจ้า ยักษ์ตัวใหญ่หรือโกลิอัทอาจหมายถึงการเอาชนะใจของผู้คนเพื่อนำเขามาสู่ความรอด จุดได้เปรียบของโลกอาจเป็นระบบเศรษฐกิจ เทคโนโลยี ปรัชญาและการศึกษา จุดอ่อนของคริสตจักรจริงๆ ก็มีมากมายเพราะเราเป็นชุมชนที่ไม่ได้สมบูรณ์ไปเสียทุกเรื่อง แต่จุดแข็งของคริสตจักรคือข้อเสนอที่ยื่นให้โลกในเรื่องความรอดทางพระเยซูคริสต์ ความอบอุ่น ความรักกันและกันของพี่น้องในคริสตจักร บทเรียนของดาวิดและโกลิอัทคงเป็นลักษณะสนามรบที่ออกแบบมาเพื่อเสริมความได้เปรียบของดาวิด รูปแบบการรับใช้พระเจ้าจึงเป็นสิ่งที่ต้องขบคิดกันต่อไป
แม้เราจะสามารถสืบเสาะหาเหตุผลของชัยชนะของดาวิดที่มีต่อโกลิอัทอย่างสมเหตุสมผล ได้ข้อคิดเรื่องการการได้เปรียบเชิงการแข่งขันหากเราเปลี่ยนมุมมองใหม่ วิธีใหม่ หรือใช้จุดแข็งที่ได้เปรียบในสนามรบแบบเดิม แต่เราสามารถอธิบายได้ว่าพระเจ้าทรงนำทั้งสองเข้ามาหากันเพื่อสร้างปรากฏการณ์ที่สำแดงพระคุณแก่ดาวิดและอิสราเอล นำโกลิอัทที่มีจุดแข็งอย่างหนึ่งและจุดอ่อนอย่างหนึ่งมาพบกับดาวิดที่มีจุดอ่อนอย่างหนึ่งและจุดแข็งอีกอย่างหนึ่งที่สามารถปราบจุดอ่อนของโกลิอัทได้อย่างง่ายดายภายใต้กฏกติกาใหม่ ไม่ใช่สนามรบแบบเดิมๆ ที่คาดหวังว่าจะปะทะแบบตัวต่อตัวโดยใช้อาวุธเหมือนๆ กัน ชัยชนะของดาวิดทำให้กองทัพอิสราเอลฮึกเหิม ทำให้ทุกคนตระหนักว่าการช่วยกู้มาจากพระเจ้า ดาวิดได้สร้างวีรกรรมที่ยิ่งใหญ่ต่อหน้าทหารอิสราเอลและปราบความหยิ่งผยองของฟิลิสเตียได้อย่างราบคาบ เป็นเหตุการณ์ที่ร้อยเรียงนำดาวิดไปสู่การเป็นกษัตริย์อิสราเอลตามที่ได้รับการเจิมตั้งผ่านซามูเอลในเวลาต่อมา เป็นปรากฏการณ์ของชัยชนะ “จุดแข็ง” ของคนที่เหนือกว่า ด้วย “จุดอ่อน” ที่เรามี
ที่มา: Malcolm Gladwell. กลยุทธ์ล้มยักษ์ (David and Goliath), 2013.
การอัศจรรย์ที่พระเจ้าทรงช่วยกู้อิสราเอลชนชาติของพระเจ้าจากศัตรูมีอยู่มากมายในพระคัมภีร์ และเป็นการช่วยกู้ที่เหนือความคาดหมายซึ่งทำให้คนอิสราเอลต้องสารภาพว่าการช่วยกู้นี้มาจากพระเจ้าไม่ใช่ความสามารถของตนเองเพื่อไม่ให้ใจของเขาหยิ่งผยองขึ้น อวดอ้างว่าชัยชนะนั้นๆ มาด้วยกำลังของเขาเอง เช่น ภัยพิบัติ 10 ประการของพระเจ้าที่ทำให้ฟาโรห์จำใจต้องปล่อยอิสราเอลออกไปจากอียิปต์ (อพยพ 7-12) การพังทลายของกำแพงเมืองเยรีโคด้วยเหตุผลที่ยากที่จะอธิบายได้ (โยชูวา 6) การรบในศึกช่วยชาวกิเบโอนที่กิลกาลพระเจ้าทรงช่วยโยชูวารบกับคนคานาอันด้วยลูกเห็บหนักเหมือนก้อนหินใหญ่จากฟ้าตกใส่ศัตรู พระคัมภีร์บรรยายไว้ว่า “ผู้ที่ตายด้วยลูกเห็บนั้นก็มากกว่าผู้ที่ประชาชนอิสราเอลฆ่าเสียด้วยดาบ” (โยชูวา 10:11) จำนวนนักรบของกิเดโอนเพียง 300 คน ต่อกรกับกองทัพมีเดียนที่มีจำนวนมากมาย พระเจ้าทรงทำการอัศจรรย์ให้ทหารมีเดียนฆ่าฟันกันเองและแตกกระจัดกระจายกลับไปยังที่ของตน (ผู้วินิจฉัย 6-8) ผู้วินิจฉัยแซมสันคนเดียวสามารถกำราบกองทัพฟิลิสเตียได้ในช่วงหนึ่งและวินิจฉัยอิสราเอลอยู่ 20 ปี (ผู้วินิจฉัย 15:20) และอีกหลายเรื่องในพระคัมภีร์เดิมก่อนเหตุการณ์ของดาวิดและโกลิอัทครั้งนี้ หลายอย่างพออธิบายเหตุผลได้ซึ่งมักจะเป็นเรื่องของจังหวะและความลงตัวที่พระเจ้านำมาให้เจอกัน หลายเรื่องก็ไม่สามารถอธิบายเหตุผลให้เป็นที่พอใจได้จึงต้องยอมรับเป็นเรื่องการอัศจรรย์ของพระเจ้าที่ไม่เข้าใจ แต่ทั้งหมดไม่ว่าจะเป็นเรื่องของจังหวะหรือเป็นสิ่งที่ไม่เข้าใจ ล้วนเป็นมาจากพระเจ้าเพื่อคนของพระเจ้าจะเคารพยำเกรงและไว้วางใจในพระองค์
รูปปั้นดาวิดโดย ไมเคิล เองเจลโล (Michelangelo) |
พระเจ้าทรงได้รับเกียรติผ่านเหตุการณ์ครั้งนี้ คนของพระเจ้าที่ไม่มีข้อได้เปรียบอะไรเมื่อเทียบกับจุดแข็งของโกลิอัทกลับรบชนะโกลิอัทได้อย่างอัศจรรย์ หากเราเจาะลึกเข้าไปในเรื่องความได้เปรียบ หนังสือเล่มนี้ให้รายละเอียดที่น่าสนใจในเชิงวิทยาศาสตร์ ความสามารถในการได้เปรียบเชิงแข่งขัน และการแพทย์
David's Sling |
วิธีการรบของดาวิดไม่ได้เลียนแบบวิธีการรบของโกลิอัท คือการรบแบบทหารราบที่ต้องมีอุปกรณ์ต่างๆ แบบทหารราบ เช่น ชุดเกราะ โล่ หมวกเหล็ก ดาบ ซึ่งอปุกรณ์ของโกลิอัทใหญ่โตกว่าของทหารราบทั่วๆ ไป แต่วิธีรบของดาวิดเป็นแบบพลสลิงที่ต้องใช้ทักษะการเข้าปะทะจากระยะไกล ความคล่องตัวที่ไม่จำเป็นต้องมีชุดเกราะหนักๆ ใส่ วิธีการรบไม่ได้รบแบบเข้าประชิด แต่ยิงสลิงจากระยะไกลและยิงได้อย่างแม่ยำจากการฝึกฝนอย่างชำนาญพุ่งเข้าไปเจาะหน้าผากที่ไม่มีเครื่องป้องกัน จุดแข็งของดาวิดจึงสามารถเอาชนะจุดแข็งของโกลิอัทได้อย่างง่ายดาย
ในเชิงการแพทย์ ผู้เชี่ยวชาญหลายคนลงความเห็นว่าลักษณะของโกลิอัทความจริงเขาป่วยเป็นโรคร้ายแรง มีรูปร่างท่าทางเหมือนคนเป็นโรคอะโครเมกาลี (acromegaly) ที่เกิดจากเนื้องอกในต่อมใต้สมองซึ่งทำให้ฮอร์โมนที่ช่วยในการเจริญเติบโตของมนุษย์ถูกผลิตออกมากมายเกินไป ทำให้ร่างกายใหญ่โตแต่ไม่สมประกอบ อาการที่พบได้ทั่วไปของผู้ป่วยเป็นโรคนี้ซึ่งตรงกับท่าทางของโกลิอัทคือปัญหาเรื่องสายตา เนื้องอกจะโตไปทับประสาทตาทำให้มองไม่ชัด เห็นภาพซ้อน จะเห็นได้จากการที่โกลิอัทต้องมีคนช่วยถือโล่นำหน้า เพราะเขาต้องอาศัยผู้นำทาง โกลิอัทมองเห็นไม้เท้าของดาวิดมีหลายอันทั้งๆ ที่ดาวิดถือมาแค่อันเดียว (1 ซามูเอล 17:43) โกลิอัทยังเคลื่อนไหวเชื่องช้าเพราะมองไม่ชัด ต้องใช้เวลานานกว่าจะพบว่ากติกาการต่อสู้ถูกเปลี่ยนไป ไม่ใช่การสู้แบบปะทะตัวต่อตัวในรูปแบบเดียวกัน
ปรากฏการณ์ไม้ซีกงัดไม้ซุงสามารถพบเห็นได้หลายครั้งในสังคมปัจจุบัน เป็นปรากฏการณ์การต่อสู้ที่ผู้ที่มีแต้มต่อเหนือกว่าไม่คิดว่าตัวเองจะพ่ายแพ้ ความจริงบางเรื่องไม่ถึงขนาดแพ้ชนะแต่เป็นเรื่องที่ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ทำให้ยักษ์ในวงการต่างๆ ถึงกับต้องล้มไป ตัวอย่างเช่นการเปลี่ยนแปลงของการถ่ายภาพดิจิตัลทำให้บริษัทยักษ์ใหญ่อย่างโกดักต้องล่มสลาย แม้ว่าโกดักจะมีแผนกหนึ่งที่กำลังพัฒนากล้องดิจิตัลอยู่แล้วก็ตาม แต่ความประมาทไม่ระมัดระวังการเปลี่ยนแปลงทำให้กล้องดิจิตัลสามารถขึ้นมาแทนกล้องฟิลม์ได้อย่างสมบูรณ์, สื่อกระดาษทางแมกาซีน หนังสือพิมพ์ หรือโทรทัศน์ ถูกท้าทายด้วยสื่อออนไลน์ที่ผู้ชมสามารถเข้าถึงเวลาใดก็ได้และผู้ลงโฆษณาสามารถรู้จำนวนผู้ชมโฆษณาได้อย่างแท้จริง, โลกค้าปลีกที่ยิ่งใหญ่กำลังถูก E-commerce ท้าทายและสำเร็จมากขึ้นเรื่อยๆ ในปัจจุบัน, การศึกษาในระบบที่กำลังถูกตั้งคำถามจากสังคมว่าปริญญาที่ได้รับมาใช้ประโยชน์ไม่ได้จริงเมื่อต้องแลกกับเวลาและทรัพยากร ทำให้ผู้คนเข้าสู่การศึกษาในระบบคอร์สสั้นๆ ผ่านทางออนไลน์หรือ MOOC ( Massive Open Online Course) จากสถาบันที่เขาเชื่อมั่น เป็นต้น
ในมุมมองของการรับใช้พระเจ้า ยักษ์ตัวใหญ่หรือโกลิอัทอาจหมายถึงการเอาชนะใจของผู้คนเพื่อนำเขามาสู่ความรอด จุดได้เปรียบของโลกอาจเป็นระบบเศรษฐกิจ เทคโนโลยี ปรัชญาและการศึกษา จุดอ่อนของคริสตจักรจริงๆ ก็มีมากมายเพราะเราเป็นชุมชนที่ไม่ได้สมบูรณ์ไปเสียทุกเรื่อง แต่จุดแข็งของคริสตจักรคือข้อเสนอที่ยื่นให้โลกในเรื่องความรอดทางพระเยซูคริสต์ ความอบอุ่น ความรักกันและกันของพี่น้องในคริสตจักร บทเรียนของดาวิดและโกลิอัทคงเป็นลักษณะสนามรบที่ออกแบบมาเพื่อเสริมความได้เปรียบของดาวิด รูปแบบการรับใช้พระเจ้าจึงเป็นสิ่งที่ต้องขบคิดกันต่อไป
แม้เราจะสามารถสืบเสาะหาเหตุผลของชัยชนะของดาวิดที่มีต่อโกลิอัทอย่างสมเหตุสมผล ได้ข้อคิดเรื่องการการได้เปรียบเชิงการแข่งขันหากเราเปลี่ยนมุมมองใหม่ วิธีใหม่ หรือใช้จุดแข็งที่ได้เปรียบในสนามรบแบบเดิม แต่เราสามารถอธิบายได้ว่าพระเจ้าทรงนำทั้งสองเข้ามาหากันเพื่อสร้างปรากฏการณ์ที่สำแดงพระคุณแก่ดาวิดและอิสราเอล นำโกลิอัทที่มีจุดแข็งอย่างหนึ่งและจุดอ่อนอย่างหนึ่งมาพบกับดาวิดที่มีจุดอ่อนอย่างหนึ่งและจุดแข็งอีกอย่างหนึ่งที่สามารถปราบจุดอ่อนของโกลิอัทได้อย่างง่ายดายภายใต้กฏกติกาใหม่ ไม่ใช่สนามรบแบบเดิมๆ ที่คาดหวังว่าจะปะทะแบบตัวต่อตัวโดยใช้อาวุธเหมือนๆ กัน ชัยชนะของดาวิดทำให้กองทัพอิสราเอลฮึกเหิม ทำให้ทุกคนตระหนักว่าการช่วยกู้มาจากพระเจ้า ดาวิดได้สร้างวีรกรรมที่ยิ่งใหญ่ต่อหน้าทหารอิสราเอลและปราบความหยิ่งผยองของฟิลิสเตียได้อย่างราบคาบ เป็นเหตุการณ์ที่ร้อยเรียงนำดาวิดไปสู่การเป็นกษัตริย์อิสราเอลตามที่ได้รับการเจิมตั้งผ่านซามูเอลในเวลาต่อมา เป็นปรากฏการณ์ของชัยชนะ “จุดแข็ง” ของคนที่เหนือกว่า ด้วย “จุดอ่อน” ที่เรามี
ที่มา: Malcolm Gladwell. กลยุทธ์ล้มยักษ์ (David and Goliath), 2013.
ความคิดเห็น