การศึกษาพระคัมภีร์อย่างเป็นระบบในสถาบันศาสนศาสตร์ (Seminary) เป็นสิ่งที่ดีมากสำหรับผู้ที่มีใจแสวงหาน้ำพระทัยพระเจ้าอย่างตั้งใจจริง ความจริงควรเกิดจากหัวใจที่เห็นคุณค่าพระเยซูมากจนตระหนักในการแสวงหาน้ำพระทัยเพื่อจะปรนนิบัติพระองค์ได้ดีขึ้น และการรู้พระคัมภีร์มากขึ้นก็ควรช่วยให้เรารักพระเจ้าและพี่น้องมากขึ้น
อย่างไรก็ดี ระบบการศึกษาออกแบบให้นักศึกษาเรียนรู้อย่างรอบด้านและลงลึกตามหลักวิชาการ ซึ่งเมื่อศึกษาจนครบหลักสูตรที่ออกแบบมาให้แล้ว ก็จะรับรองด้วยวุฒิบัตรไม่ต่างจากการเรียนในสถาบันการศึกษาทั่วไป การรับรองวิทยฐานะการการศึกษา (Accredition) จะช่วยให้หลักสูตรมีคุณภาพและรักษามาตรฐานไว้เป็นอย่างดี
แต่เราต้องไม่หลงประเด็นในการเรียนพระคัมภีร์เหมือนกับการศึกษาทั่วไปที่เรียนเพื่อให้ได้ความรู้ทางวิชาการและรับวุฒิบัตรโดยหลงลืมว่าทำไมเราถึงเข้ามาเรียนพระคัมภีร์อย่างเป็นระบบในสถาบันพระคริสตธรรม
สดุดี 119:18 ขอทรงเปิดตาข้าพระองค์ เพื่อข้าพระองค์จะเห็นสิ่งอัศจรรย์จากธรรมบัญญัติของพระองค์
สิ่งที่น่าคิดจากหนังสือเล่มนี้
1. พระคัมภีร์มาจากการดลใจของพระเจ้า เมื่อเราศึกษาพระคัมภีร์ การดลใจนี้ต้องยิ่งช่วยให้เรารักและรู้จักพระเจ้าพระผู้สร้างมากขึ้น
2. การลงลึกในพระวจนะทำให้เกิดความพึงพอใจในความหมาย ยิ่งขุดลึกยิ่งพึงพอใจ ขณะเดียวกันก็สร้างระยะห่างความเข้าใจจากผู้ที่ใช้พระคัมภีร์โดยไม่เข้าใจความหมายอย่างเดียวกับที่เราศึกษา ซึ่งหากมีการสนทนาแสดงความเห็นกัน ก็อาจกลายเป็นการทะเลาะเบาะแว้งหรือเมินเฉย สิ่งนั้นไม่ใช่พระประสงค์พระเจ้าอย่างแน่นอน
3. การศึกษาในสถาบันพระคัมภีร์บ่อยครั้งถูกใช้ "เพื่อชุบตัวผู้รับใช้" ให้ดูมีความรู้ที่คนอื่นจะมาถึงในระดับเดียวกับเขาได้ยาก หากใครคิดแบบนั้นย่อมสร้างกับดักที่อันตรายต่อตัวเอง เพราะชีวิตควรถูกสร้างขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ใช่หยุดเมื่อเรียนพระคัมภีร์จบจากสถาบันพระคริสตธรรม
4. การได้รับการสร้างอยากครบถ้วนในสถาบันพระคริสตธรรมไม่ได้หมายถึงเราแข็งแรงฝ่ายจิตวิญญาณแล้ว แท้จริง เรายังต้องพึ่งพระคุณต่อไป
5. ชีวิตอธิษฐานยังคงเป็นดังลมหายใจของผู้ศึกษาพระคัมภีร์หรือไม่ อย่าลืมว่ายิ่งศาสนศาสตร์ของเราเป็นเหมือนไม้ที่แห้งแล้งมากเพียงใด ไม้ท่อนนั้นย่อมถูกจุดติดไฟง่ายจนไหม้เป็นเถ้าถ่านได้เช่นกัน
"ยังมีอีกมากมายที่ควรค่าต่อการอ่านครับ"
การเรียนพระคัมภีร์อย่างเป็นระบบในสถาบันพระคัมภีร์จะเป็นอันตรายเมื่อความเป็นคริสเตียนของคุณถูกพักไว้ก่อน หมายถึงคุณไม่อยากสามัคคีธรรมกับพี่น้องในโบสถ์ ไม่คิดว่าการเฝ้าเดี่ยวหรือการอธิษฐานเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับคุณ หรือไม่คิดว่าบทบาทชีวิต เป็นลูกที่ดี เป็นสามี หรือพ่อที่ดี หรือแม้กระทั่งเป็นคริสเตียนที่ดีเป็นสิ่งสำคัญ เราต้องกลับใจหากเป็นแบบนั้น
"How to Stay Christian in Seminary คุณยังเป็นคริสเตียนขณะศึกษาอยู่ในสถาบันพระคริสตธรรมได้อย่างไร" เขียนโดย David Mathis และ Jonathan Parnell หนังสือปี 2014 (ฉบับภาษาอังกฤษ ยังไม่มีแปลไทย) ความหนา 80 หน้า ระดับความยาก: ง่าย เหมาะสำหรับนักศึกษาพระคัมภีร์หรือผู้ที่ตั้งใจจะศึกษาพระคัมภีร์อย่างเป็นระบบในสถาบันพระคริสตธรรม หนังสือเล่มนี้ผมให้ 7/10 ครับ
#BookReview #HowtoStayChristianinSeminary #รีวิวโดยกนก #กนกลีฬหเกรียงไกร #KanokLeelahakriengkrai

ความคิดเห็น