อ้างอิงข้อมูลจาก Pew Research 2011 กลุ่มที่เชื่อเรื่องบัพติศมาในพระวิญญาณและพูดภาษาแปลกๆ ทั้งโลก (รวม Pentacost และ Charismatic) มีจำนวน 584 ล้านคน คิดเป็น 26.7% ของจำนวนชาวคริสต์ทั้งหมด
ไม่มีข้อมูลเรื่องการเติบโตในสถิตินี้ แต่หากเริ่มนับที่ต้นศตวรรษที่ 20 ตั้งแต่กำเนิดกลุ่ม Pentacost และ Charismatic กลุ่มนี้ถือเป็นกลุ่มที่เติบโตสูงที่สุดในโลก คือเติบโตจากไม่เคยมีมาก่อนมาเป็น 584 ล้านคน
แต่อย่าเพิ่งตกใจครับ ผมคิดว่าเป็นการแปรข้อมูลทางสถิติที่ไม่สามารถตีความแบบนั้นได้สักทีเดียวครับ เราต้องแปรผลแค่ว่า Pentacost และ Charismatic มีจำนวน 584 ล้านคน คิดเป็น 26.7% ของจำนวนชาวคริสต์ทั้งหมด เอาแค่นั้นครับ ตัวแปรในการวัดอัตราการเติบโตยังต้องมาอีกระดับหนึ่งครับ
การพูดภาษาแปลกๆ มีประเด็นที่น่าจะพิจารณาอะไรบ้าง
1. การได้รับพระวิญญาณที่นำมาซึ่งการบังเกิดใหม่กับการบัพติศมาในพระวิญญาณบริสุทธิ์สามารถมองเป็นเรื่องเดียวกันได้ เพราะพระวิญญาณบริสุทธิ์ทรงเป็นผู้ประทานความรอด การได้รับพระวิญญาณฯ เข้ามาในชีวิตหมายถึงประสบการณ์เต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณฯ ซึ่งเป็นความหมายของการบัพติศมาในพระวิญญาณ
ทิตัส 3:5–6 พระองค์ก็ทรงช่วยเราให้รอด ไม่ใช่เพราะความชอบธรรมที่เราทำเอง แต่ด้วยพระเมตตาของพระองค์โดยผ่านการชำระให้บังเกิดใหม่และสร้างใหม่ของพระวิญญาณบริสุทธิ์ พระวิญญาณองค์นี้แหละที่พระเจ้าประทานให้แก่เราอย่างบริบูรณ์ผ่านทางพระเยซูคริสต์พระผู้ช่วยให้รอดของเรา
2. ของประทานจากพระเจ้าทั้งสิ้นเป็นโดยพระคุณ ไม่ว่าเราจะมองว่าการพูดภาษาแปลกๆ เป็นหมายสำคัญ หรือของประทานการเผยพระวจนะก็ตาม ทั้งหมดล้วนมาโดยพระคุณ โดยพระวิญญาณองค์เดียวกัน ฉะนั้นการพูดหรือไม่พูดภาษาแปลกๆ จะต้องไม่ทำให้เกิดการแบ่งแยก เปรียบเทียบ เหลื่อมล้ำ หรือไม่เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันในพระวรกาย
เอเฟซัส 4:3 จงพยายามรักษาความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันที่มาจากพระวิญญาณนั้น โดยมีสันติภาพเป็นเครื่องผูกพัน
เอเฟซัส 4:7 แต่ว่าพระคุณนั้นประทานแก่เราแต่ละคนตามขนาดที่พระคริสต์ประทาน
3. การพูดภาษาแปลกๆ หรือไม่นั้นจะเน้นผลของการใช้ภาษาแปลกๆ ว่าทำให้คริสตจักรเจริญขึ้นหรือไม่ ซึ่งจะไม่เป็นประโยชน์หากมุ่งแต่จะพูดโดยไม่คำนึงถึงการเสริมสร้างกันและกัน
1 โครินธ์ 14:9 ท่านทั้งหลายก็เป็นเช่นนั้น คือในการพูดภาษาแปลกๆ ถ้าท่านไม่ใช้ถ้อยคำที่เข้าใจได้ คนจะเข้าใจคำพูดนั้นได้อย่างไร? สิ่งที่ท่านพูดนั้นจะหายไปกับสายลม
1 โครินธ์ 14:26 เพราะฉะนั้น พี่น้องทั้งหลายจะว่าอย่างไร? เมื่อพวกท่านมาชุมนุมกัน แต่ละคนก็มีเพลงสดุดี มีคำสอน มีคำวิวรณ์ มีการพูดภาษาแปลกๆ มีการแปลภาษาแปลกๆ จงทำทุกสิ่งเพื่อให้เขาเจริญขึ้น
4. งานรับใช้ที่สะท้อนความรักนั้นสำคัญมากกว่าการพูดภาษาแปลกๆ
1 โครินธ์ 13:1 แม้ข้าพเจ้าจะพูดภาษาแปลกๆ ที่เป็นภาษามนุษย์หรือทูตสวรรค์ได้ แต่ไม่มีความรัก ข้าพเจ้าเป็นเหมือนฆ้องหรือฉาบที่กำลังส่งเสียง
5. ชีวิตที่ประกอบด้วยพระวิญญาณ คือความชื่นชมยินดี ความรัก ความเชื่อฟังพระเจ้า เป็นสิ่งพระเจ้าคาดหวังจากผู้ที่มีพระวิญญาณ
เอเฟซัส 5:18–20 และอย่าเมาเหล้าองุ่นซึ่งจะทำให้เสียคน แต่จงเต็มเปี่ยมด้วยพระวิญญาณ จงปราศรัยกันด้วยเพลงสดุดี เพลงนมัสการ และเพลงฝ่ายจิตวิญญาณ คือร้องเพลงและสดุดีจากใจของพวกท่านถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า จงขอบพระคุณพระเจ้าคือพระบิดาอยู่เสมอสำหรับทุกสิ่งทุกอย่าง ในพระนามของพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเรา
ความคิดเห็น