พระเยซูนอกจากทรงเป็นนักเล่าเรื่องแล้ว พระองค์ยังทรงเป็นนักยิงคำถามที่คมจนบาดลึกไปถึงจิตวิญญาณ บางครั้งก็ท้าทายสติปัญญา บางครั้งก็ถึงขนาดน่าตกใจ และหลายครั้งไม่ได้ต้องการคำตอบใดใด แต่กระตุ้นผู้ฟังให้ใคร่ครวญและกลับใจ
หนังสือคำถามประหลาดของพระเยซูประกอบไปด้วยเรื่องราว 12 เรื่องที่ก่อให้เกิดคำถามที่น่าสนใจ และคำตอบที่แปลกประหลาดอัศจรรย์ใจ 12 คำถาม สำหรับผมอาจจะมากกว่านั้นเยอะ
ครั้งหนึ่งหญิงที่เป็นโรคโลหิตตกเดินทางมาหาพระเยซูด้วยความเชื่อว่าพระองค์จะรักษาเขาให้หายได้ เพราะเธอเป็นโรคนี้มา 12 ปีแล้ว หมอก็รักษาไม่หาย อายก็อาย ทั้งยังสูญเสียอิสรภาพทางสังคมอีกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในสังคมยิวสมัยนั้น เมื่อเธอสามารถแทรกมาท่ามกลางฝูงชนจนสัมผัสชายเสื้อพระเยซูได้ เธอรับการรักษาอย่างอัศจรรย์ แต่มากไปกว่านั้นพระเยซูหยุดแล้วถาม "ใครแตะต้องเสื้อของเรา" แท้จริงพระองค์ต้องการดึงหญิงคนนี้ออกมาต่อหน้าชุมชนเพื่อให้เธอได้รับคืนอิสรภาพในสังคมเพราะหายจากโรคโลหิตตกแล้ว พระองค์ทรงรักษาโรคและฟื้นฟูจิตใจและสังคมให้เธอไปด้วยกัน
อีกตอนหนึ่งคุณพ่อพาลูกชายที่มีผีเข้ามาหวังให้พระเยซูช่วยรักษา คุณพ่ออาจจะผิดหวังจากสาวกของพระองค์ที่วางมือขับผีไม่ออก เมื่อมาถึงพระองค์ก็พูดออกไปว่า "ถ้าท่านสามารถช่วยได้ก็โปรดสงสารเราเถิด" พระเยซูจึงถามกลับไป "ถ้าช่วยได้อย่างนั้นหรอ" พ่อรีบขอโทษขอโพยพระเยซู สารภาพว่าขอเชื่อและขอร้องพระองค์ให้พระเยซูช่วยในส่วนที่ยังขาดในความเชื่อด้วย พระองค์ทรงขับผีออกและให้บทเรียนที่ช่วยกระตุ้นมุมมองความเชื่อแก่คุณพ่อคนนั้น
พระเยซูไม่สนใจว่าเราเชื่อมากขนาดไหนเป็นสาระสำคัญสูงสุด แต่พระองค์สนใจว่าเราเชื่ออะไรและเชื่อวางใจในใครต่างหาก เพราะหากเราสามารถพึ่งพาขนาดของความเชื่อของเราเองได้ แสดงว่าเรายังพึ่งพาตัวเองอยู่ แต่ความจริงแล้วทั้งหมดอยู่ที่พระองค์ไม่ใช่อยู่ที่เรา
"มีอีกหลายเรื่องมากมายที่ผู้เขียนอธิบายได้อย่างลึกซึ้งทั้งแง่คิดและเรื่องราวที่น่าประทับใจ"
"คำถามประหลาดของพระเยซู" เขียนโดยศาสนาจารย์ นายแพทย์ ฟีลิป ยอง (แปลโดยอาจารย์ทองหล่อ วงศ์กำชัย) เล่มที่ผมอ่านเป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 ปี 2023 ความหนา 150 หน้า ระดับความยาก: ง่าย เหมาะสำหรับคริสเตียนทุกคนที่รักในการศึกษาพระคัมภีร์โดยเฉพาะอย่างยิ่งเรื่องราวเกี่ยวกับพระราชกิจสำคัญๆ ของพระเยซูขณะทรงปรนนิบัติมวลชน ลองหามาอ่านดูครับ
ความคิดเห็น