คริสตจักร City Harvest (CHC) เป็นคริสตจักรที่ใหญ่ที่สุดในสิงคโปร์ ผู้ก่อตั้งและศิษยาภิบาลคือ คอง ฮี (Kong Hee) และภรรยาคือ โฮ โหยว ซัน (Ho Yeow Sun) อาคารที่ใหญ่โตโอ่อ่าของคริสตจักร และสมาชิกที่เข้ามาอย่างล้นหลาม เรียกว่าต่อคิวเข้าโบสถ์เหมือนเข้าห้างตอนจัดเซลกันเลยทีเดียว นับเป็นปรากฏการณ์ที่ชาวคริสต์ทั้งโลกจับตาดูอย่างตื่นเต้น
ด้วยความตื่นเต้นของความสำเร็จในงานพระเจ้า ศิษยาภิบาลได้สร้างโครงการ Crossover Project ซึ่งจะสนับสนุนภรรยาของตนเข้าสู่วงการเพลงเพื่อเป็นสะพานเชื่อมไปสู่การประกาศเรื่องราวพระเจ้าในอนาคต เรื่องนี้สมาชิกในคริสตจักรตกลงตามนั้นและมีการโอนเงินให้โครงการนี้ต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปีจนยอดรวมสูงถึง 50 ล้านเหรียญสิงคโปร์ จนทำให้หน่วยงานราชการของสิงคโปร์ คือ the Office of the Commissioner of Charities (COC) และ the Commercial Affairs Department (CAD) of the Singapore Police ต้องเข้ามาตรวจสอบบัญชีคริสตจักร และพบว่ามีความตั้งใจหลีกเลี่ยงจำนวนเงินดังกล่าวในทางบัญชี และมีการนำเงินที่สมาชิกตั้งใจถวายเพื่อสร้างคริสตจักรโอนมาใช้ในโครงการดังกล่าว จนมาสู่การฟ้องร้องที่ยาวนานและสรุปจบในวันที่ 7 เมษายน 2017
ผลการสอบสวนจบลงที่ข้อหาที่หลากหลายแต่ไปในทางเดียวกันคือนำเงินคริสตจักรไปใช้อย่างผิดวัตถุประสงค์และผิดต่อความไว้วางใจของสมาชิกในองค์กร
คนที่ถูกตัดสินว่าผิดและต้องรับโทษมี 6 คน ถูกจำคุก 5 คนแรกเริ่มวันที่ 21 เมษายน 2017 อีกคนขอความเห็นใจขอเลื่อนเป็นเริ่มวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2018 แต่ในเดือนนั้นถูกจับเพราะพยายามหลบหนีไปมาเลเซีย จึงโดนโทษเพิ่ม ระหว่างนั้นมีการเดินเรื่องขอความเห็นใจจากศาล และทั้ง 6 คน ได้รับการลดโทษ สรุปโทษของแต่ละคนดังนี้ (ปัจจุบันทุกคนออกมาจากคุกแล้ว)
Kong Hee (ศิษยาภิบาล) จำคุก 8 ปี ลดโทษเหลือ 3 ปี 6 เดือน
Tan Ye Peng (รองศิษยาภิบาล) จำคุก 5 ปี 6 เดือน ลดโทษเหลือ 3 ปี 2 เดือน
Serina Wee (ผู้จัดการฝ่ายการเงิน) จำคุก 21 เดือน ลดโทษเหลือ 7 เดือน
John Lam (กรรมการฝ่ายการเงิน) จำคุก 3 ปี ลดโทษเหลือ 1 ปี 6 เดือน
Chew Eng Han (ผู้จัดการกองทุน) จำคุก 6 ปี ลดโทษเหลือ 3 ปี 4 เดือน
Sharon Tan (ผู้จัดการฝ่ายการเงิน) จำคุก 21 เดือน ลดโทษเหลือ 7 เดือน
อะไรที่เราเรียนรู้จากเรื่องนี้ได้บ้าง
1. ไม่ใช่ทุกอย่างที่ผู้นำคิด และคริสตจักรสนับสนุนจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฏหมายเสมอไป
2. การลงรายการบัญชีด้วยความตั้งใจหลีกเลี่ยงเพื่อให้ถูกตามกฏหมาย เป็นการกระทำที่ไม่สัตย์ซื่อ จะอ้างเรื่องการใช้สติปัญญาหรือฉลาดเหมือนงูไม่ได้
3. การถูกจำคุกด้วยข้อหาลักษณะนี้ ไม่สามารถอ้างว่าเป็นการถูกข่มเหงโดยอำนาจรัฐเพราะเหตุความชอบธรรมไม่ได้ เพราะเราต้องไม่ลืมว่าอำนาจรัฐถูกมอบโดยพระเจ้าเพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่งเสริมความถูกต้อง จัดการกับปัญหาสังคมด้วย เรื่องนี้ไม่เข้าข่ายในลักษณะนั้น
การทำผิดในเรื่องความไม่ซื่อสัตย์ อาจจะได้รับโทษไปในทางกฏหมายเท่าที่กฎหมายกำหนด แต่ความไม่ซื่อสัตย์เป็นเรื่องของลักษณะชีวิตที่ต้องขัดเกลา หากการจำคุกเป็นเหตุให้เกิดการเรียนรู้ก็ถือว่าเขาได้รับบทเรียนราคาแพง แต่การควบคุมความประพฤติก่อนจะกลับมาจับเงินใหม่เป็นสิ่งที่คริสตจักรทั้งหมดต้องพิจารณาให้รอบคอบ ศิษยาภิบาลที่ทำผิดเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มากนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังผิดต่อพระเจ้า ผิดต่อตัวเอง และผิดต่อความไว้วางใจของพี่น้องในคริสตจักรด้วย
 |
| คริสตจักรมีผู้เข้าร่วมนมัสการสัปดาห์ละ 16,202 คน (ตัวเลขจาก CHC 2018) |
 |
| เริ่มจากซ้ายบน วนตามเข็มนาฬิกา Kong Hee, Tan Ye Peng, Serina Wee, John Lam, Chew Eng Han และ Sharon Tan ภาพจาก The Strights Times, Feb 1, 2018 |
คนที่ถูกตัดสินว่าผิดและต้องรับโทษมี 6 คน ถูกจำคุก 5 คนแรกเริ่มวันที่ 21 เมษายน 2017 อีกคนขอความเห็นใจขอเลื่อนเป็นเริ่มวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2018 แต่ในเดือนนั้นถูกจับเพราะพยายามหลบหนีไปมาเลเซีย จึงโดนโทษเพิ่ม ระหว่างนั้นมีการเดินเรื่องขอความเห็นใจจากศาล และทั้ง 6 คน ได้รับการลดโทษ สรุปโทษของแต่ละคนดังนี้ (ปัจจุบันทุกคนออกมาจากคุกแล้ว)
Kong Hee (ศิษยาภิบาล) จำคุก 8 ปี ลดโทษเหลือ 3 ปี 6 เดือน
Tan Ye Peng (รองศิษยาภิบาล) จำคุก 5 ปี 6 เดือน ลดโทษเหลือ 3 ปี 2 เดือน
Serina Wee (ผู้จัดการฝ่ายการเงิน) จำคุก 21 เดือน ลดโทษเหลือ 7 เดือน
John Lam (กรรมการฝ่ายการเงิน) จำคุก 3 ปี ลดโทษเหลือ 1 ปี 6 เดือน
Chew Eng Han (ผู้จัดการกองทุน) จำคุก 6 ปี ลดโทษเหลือ 3 ปี 4 เดือน
Sharon Tan (ผู้จัดการฝ่ายการเงิน) จำคุก 21 เดือน ลดโทษเหลือ 7 เดือน
อะไรที่เราเรียนรู้จากเรื่องนี้ได้บ้าง
1. ไม่ใช่ทุกอย่างที่ผู้นำคิด และคริสตจักรสนับสนุนจะเป็นสิ่งที่ถูกต้องตามกฏหมายเสมอไป
2. การลงรายการบัญชีด้วยความตั้งใจหลีกเลี่ยงเพื่อให้ถูกตามกฏหมาย เป็นการกระทำที่ไม่สัตย์ซื่อ จะอ้างเรื่องการใช้สติปัญญาหรือฉลาดเหมือนงูไม่ได้
3. การถูกจำคุกด้วยข้อหาลักษณะนี้ ไม่สามารถอ้างว่าเป็นการถูกข่มเหงโดยอำนาจรัฐเพราะเหตุความชอบธรรมไม่ได้ เพราะเราต้องไม่ลืมว่าอำนาจรัฐถูกมอบโดยพระเจ้าเพื่อให้เกิดความเป็นระเบียบเรียบร้อย ส่งเสริมความถูกต้อง จัดการกับปัญหาสังคมด้วย เรื่องนี้ไม่เข้าข่ายในลักษณะนั้น
การทำผิดในเรื่องความไม่ซื่อสัตย์ อาจจะได้รับโทษไปในทางกฏหมายเท่าที่กฎหมายกำหนด แต่ความไม่ซื่อสัตย์เป็นเรื่องของลักษณะชีวิตที่ต้องขัดเกลา หากการจำคุกเป็นเหตุให้เกิดการเรียนรู้ก็ถือว่าเขาได้รับบทเรียนราคาแพง แต่การควบคุมความประพฤติก่อนจะกลับมาจับเงินใหม่เป็นสิ่งที่คริสตจักรทั้งหมดต้องพิจารณาให้รอบคอบ ศิษยาภิบาลที่ทำผิดเรื่องนี้ถือเป็นเรื่องใหญ่มากนอกจากจะผิดกฎหมายแล้ว ยังผิดต่อพระเจ้า ผิดต่อตัวเอง และผิดต่อความไว้วางใจของพี่น้องในคริสตจักรด้วย
อย่างไรก็ตามเมื่อพี่น้องกลับใจ ยอมรับการพิสูจน์ชีวิต ทุกคนพร้อมให้อภัยและชื่นชมยินดี แต่เราทุกคนไม่จำเป็นต้องจ่ายราคากับบทเรียนราคาแพงนี้หากเรารับฟังคำเตือนสติจากพระเจ้าหรือใครสักคนที่ดูแลปกคลุมฝ่ายจิตวิญญาณของเรา
อ้างอิง:
อ้างอิง:
- The Straits Times Singapore.
- City Harvest Church official website.
- Gaye, Wlemongar Artemus. Rethinking Nation-Building: A Christian SocioEthical and Theo-Political Task for Appropriating the Common Good. [Doctoral Dissertation], Loyola University Chicago, 2012.
- Mothanaprakoon, Ezra. Έκκλησια And Καισαρ: A New Testament Perspective on the Relationship of the Church to the Civil Government with Reference to Thailand. [Doctoral Dissertation], Asia Baptist Graduate Theological Seminary, 2007.
- Keele, Jeffrey Thomas. Korean Democratization and the Roles of Churches. [Doctoral Dissertation], University of California, Berkeley, 2003.
ความคิดเห็น