โดย กนก ลีฬหเกรียงไกร
ความถ่อมใจเป็นสิ่งที่พูดกันได้แต่ปฏิบัติยาก หลายครั้งเราพบว่า สถานการณ์ชีวิตก็เปิดเผยท่าทีภายในจิตใจของเรา ในตอนนี้เช่นกัน เปาโลหนุนใจให้พี่น้องฟิลิปปีรักกันและกัน อดทน และเห็นแก่ประโยชน์ของกันและกันโดยยกเอาแบบอย่างความถ่อมใจของพระเยซูคริสต์เพื่อให้ทุกคนตระหนักและประพฤติตาม
1. รู้จักตัวเองแต่ไม่อวดอ้าง (ข้อ 6)
ให้เราตระหนักว่าจุดแข็งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานเพื่อเป็นพรแก่ผู้อื่น ไม่ใช่รู้สึกภูมิใจ อวดอ้าง หรือคุยทับกัน ปัจจุบันบางคนใช้สื่อโซเชี่ยลเพื่ออวดอ้างความสามารถให้คนอื่นได้รู้ แต่พระเยซูไม่ทรงคิดแบบนั้น
2. ยอมลดตัวเองลงเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น (ข้อ 7)
ในการรับใช้พระเจ้า การดำเนินชีวิตในคริสตจักร ให้เราเลียนแบบพระเยซู อย่าถือตัว เราต้องสังเกตให้ดีว่าการแสดงออกของเราสามารถทำให้พี่น้องของเราเข้าถึงเราได้หรือเปล่า เพื่อประโยชน์ของพี่น้องเราควรปรับตัวบางอย่างไหม ท่าทีแบบนี้จะทำให้พระเจ้าพอพระทัยและยกเราขึ้นในที่สุด
3. ทำตามพระทัยพระบิดาจนสำเร็จ (ข้อ 5, 8)
ชีวิตของเราเช่นกัน เราต้องสนใจทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าเพื่อให้สิ่งนั้นเป็นที่ถวายเกียรติพระเจ้าสูงสุดแม้มนุษย์อาจไม่เข้าใจ ซึ่งในทางกลับกันเมื่อพระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จนั่นหมายถึงคนรอบข้างจะได้รับประโยชน์อย่างแน่นอน และเป็นประโยชน์ที่ยั่งยืนถาวรนิรันดร์
ใคร่ครวญเพื่อนำมาซึ่งการเรียนรู้และการเปลี่ยนแปลงชีวิต
1. เพื่อนของเราได้รับพรจากชีวิตเราในด้านใด และเราได้รับพรจากเพื่อนของเราในด้านใด ให้เราแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน
2. เราอยากเปลี่ยนแปลงชีวิตเราในเรื่องอะไรเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความถ่อมใจแบบพระเยซู
ความถ่อมใจเป็นสิ่งที่พูดกันได้แต่ปฏิบัติยาก หลายครั้งเราพบว่า สถานการณ์ชีวิตก็เปิดเผยท่าทีภายในจิตใจของเรา ในตอนนี้เช่นกัน เปาโลหนุนใจให้พี่น้องฟิลิปปีรักกันและกัน อดทน และเห็นแก่ประโยชน์ของกันและกันโดยยกเอาแบบอย่างความถ่อมใจของพระเยซูคริสต์เพื่อให้ทุกคนตระหนักและประพฤติตาม
ฟีลิปปี 2:5-8 จงมีจิตใจเช่นนี้ในพวกท่านเหมือนอย่างที่มีในพระเยซูคริสต์ ผู้ทรงสภาพเป็นพระเจ้า ไม่ทรงถือว่าความทัดเทียมกับพระเจ้าเป็นสิ่งที่จะต้องยึดไว้ แต่ทรงสละพระองค์เองและทรงรับสภาพทาส ทรงถือกำเนิดเป็นมนุษย์ และทรงปรากฏอยู่ในสภาพมนุษย์ พระองค์ทรงถ่อมพระองค์ลง ทรงยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณา กระทั่งมรณาบนกางเขนการแสดงออกถึงความถ่อมใจแบบพระเยซู
1. รู้จักตัวเองแต่ไม่อวดอ้าง (ข้อ 6)
ฟีลิปปี 2:6 ทรงสภาพเป็นพระเจ้า ไม่ทรงถือว่าความทัดเทียมกับพระเจ้าเป็นสิ่งที่จะต้องยึดไว้พระเยซูรู้ว่าทรงเป็นพระเจ้าแต่ไม่ถือว่าเป็นสิ่งที่ต้องยึดเหนี่ยวไว้ ทรงสามารถสละได้เพื่อประโยชน์ของผู้อื่น เราทุกคนมีจุดเด่นหรือจุดแข็งที่แตกต่างกัน
ให้เราตระหนักว่าจุดแข็งเหล่านั้นเป็นสิ่งที่พระเจ้าประทานเพื่อเป็นพรแก่ผู้อื่น ไม่ใช่รู้สึกภูมิใจ อวดอ้าง หรือคุยทับกัน ปัจจุบันบางคนใช้สื่อโซเชี่ยลเพื่ออวดอ้างความสามารถให้คนอื่นได้รู้ แต่พระเยซูไม่ทรงคิดแบบนั้น
2. ยอมลดตัวเองลงเพื่อประโยชน์ของผู้อื่น (ข้อ 7)
ฟีลิปปี 2:7 แต่ทรงสละพระองค์เองและทรงรับสภาพทาส ทรงถือกำเนิดเป็นมนุษย์ และทรงปรากฏอยู่ในสภาพมนุษย์พระเยซูทรงยอมรับสภาพทาส ทรงถือกำเนิดเป็นมนุษย์ และทรงปรากฏอยู่ในสภาพมนุษย์ การลดตัวเองลงของพระเยซูนั้นเพื่อประโยชน์แก่เรา
ในการรับใช้พระเจ้า การดำเนินชีวิตในคริสตจักร ให้เราเลียนแบบพระเยซู อย่าถือตัว เราต้องสังเกตให้ดีว่าการแสดงออกของเราสามารถทำให้พี่น้องของเราเข้าถึงเราได้หรือเปล่า เพื่อประโยชน์ของพี่น้องเราควรปรับตัวบางอย่างไหม ท่าทีแบบนี้จะทำให้พระเจ้าพอพระทัยและยกเราขึ้นในที่สุด
3. ทำตามพระทัยพระบิดาจนสำเร็จ (ข้อ 5, 8)
ฟีลิปปี 2:5 จงมีจิตใจเช่นนี้ในพวกท่านเหมือนอย่างที่มีในพระเยซูคริสต์ ฟีลิปปี 2:8 พระองค์ทรงถ่อมพระองค์ลง ทรงยอมเชื่อฟังจนถึงความมรณา กระทั่งมรณาบนกางเขนพระเยซูทรงตอบสนองต่อพระประสงค์พระบิดามากกว่าความต้องการของมนุษย์ พระประสงค์ของพระบิดานำมาซึ่งประโยชน์สูงสุดแก่เรา ความต้องการของมนุษย์อาจนำมาซึ่งการยกย่องของมนุษย์ที่ได้รับประโยชน์ต่อพระเยซู แต่อาจไม่ยั่งยืน ความถ่อมใจแบบพระเยซูไม่ได้หมายถึงทำอะไรตามใจผู้คน แต่ทรงทำทุกสิ่งตามพระทัยพระบิดา
ชีวิตของเราเช่นกัน เราต้องสนใจทำตามพระประสงค์ของพระเจ้าเพื่อให้สิ่งนั้นเป็นที่ถวายเกียรติพระเจ้าสูงสุดแม้มนุษย์อาจไม่เข้าใจ ซึ่งในทางกลับกันเมื่อพระประสงค์ของพระเจ้าสำเร็จนั่นหมายถึงคนรอบข้างจะได้รับประโยชน์อย่างแน่นอน และเป็นประโยชน์ที่ยั่งยืนถาวรนิรันดร์
ใคร่ครวญเพื่อนำมาซึ่งการเรียนรู้และการเปลี่ยนแปลงชีวิต
1. เพื่อนของเราได้รับพรจากชีวิตเราในด้านใด และเราได้รับพรจากเพื่อนของเราในด้านใด ให้เราแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกัน
2. เราอยากเปลี่ยนแปลงชีวิตเราในเรื่องอะไรเพื่อเป็นการแสดงออกถึงความถ่อมใจแบบพระเยซู
ความคิดเห็น