หีบพันธสัญญาเป็นสัญลักษณ์แห่งการทรงสถิตของพระเจ้าในสมัยพลับพลาและพระวิหาร ตัวหีบทำจากไม้กระถินเทศหุ้มด้วยทองคำทั้งด้านในและด้านนอก (อพย. 25:10-11) ฝาหีบเป็นทองคำสลักเครูบ (Cherubim) โค้งปีกเข้าหากันส่วนนี้เรียกพระที่นั่งกรุณา ถือเป็นที่ประทับของพระเจ้าที่จะอยู่เหนือระหว่างกลางเครูบ (อพย. 25:19-21)
โดยทั่วไปหีบแห่งสักขีพยานจะเคลื่อนไปกับประชากรอิสราเอลอยู่แล้ว โดยการเคลื่อนย้ายจะต้องมีการคลุมหีบ เพราะคนทั่วไปจะมองหีบตรงๆ ไม่ได้
กันดารวิถี 4:5-6 คือเมื่อจะเคลื่อนย้ายค่าย ให้อาโรนและลูกๆ ของเขาเข้าไปข้างในและปลดม่านกำบังออก แล้วนำมาคลุมหีบแห่งสักขีพยานไว้ จากนั้นเอาหนังอย่างดีคลุม และเอาผ้าสีฟ้าล้วนปูบนนั้น พร้อมทั้งสอดคานหาม
ชื่อเรียกของหีบในลักษณะต่างๆ
1. หีบแห่งสักขีพยาน (the ark of the testimony)
กันดารวิถี 7:89 เมื่อโมเสสเข้าไปในเต็นท์นัดพบเพื่อจะกราบทูลพระองค์ ท่านได้ยินพระสุรเสียงตรัสกับท่านมาจากพระที่นั่งกรุณา ซึ่งอยู่บนหีบแห่งสักขีพยานระหว่างเครูบทั้งสอง และพระองค์ทรงสนทนากับท่าน
2. หีบพันธสัญญา (the ark of covenant) หรือหีบพันธสัญญาแห่งพระยาห์เวห์ (the ark of the covenant of the LORD)
กันดารวิถี 10:33 เขาทั้งหลายก็ออกเดินจากภูเขาของพระยาห์เวห์เป็นระยะการเดินทางสามวัน หีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์นำหน้าเขาทั้งหลายไปสามวันเพื่อหาที่พักให้พวกเขา
โยชูวา 3:6 โยชูวาสั่งพวกปุโรหิตว่า “จงหามหีบพันธสัญญาไปข้างหน้าประชาชน” พวกเขาก็หามหีบพันธสัญญาเดินไปข้างหน้าประชาชน
3. ชื่ออื่นๆ
หีบแห่งพระยาห์เวห์ (the ark of the Lord) หีบแห่งฤทธานุภาพของพระองค์ และหีบแห่งอานุภาพของพระองค์ (the ark of your strength) ซึ่งมักใช้ในงานบทกวี (2 พศด. 6:41; สดด. 132:8)
โยชูวา 6:6 โยชูวาบุตรนูนจึงเรียกปุโรหิตมาสั่งว่า “จงยกหีบพันธสัญญาขึ้นหามไป ให้ปุโรหิตเจ็ดคนถือแตรเขาแกะเจ็ดคันเดินนำหน้าหีบแห่งพระยาห์เวห์”
โยชูวา 6:8 เมื่อโยชูวากล่าวแก่ประชาชนแล้ว ปุโรหิตเจ็ดคนที่ถือแตรเขาแกะเจ็ดคันเฉพาะพระพักตร์พระยาห์เวห์ก็เดินข้างหน้าเป่าแตรไป และมีหีบพันธสัญญาแห่งพระยาห์เวห์ตามเขามา
การใช้หีบเพื่อวัตถุประสงค์ในการสู้รบ
1. การตีเมืองเยรีโคอย่างอัศจรรย์
โยชูวา 6:9 และทหารถืออาวุธเดินอยู่หน้าปุโรหิตผู้เป่าแตร และกองระวังหลังก็เดินตามหีบ ส่วนแตรนั้นก็เป่าอยู่เรื่อยไป
ตอนนี้หีบ (มีการเรียกอย่างย่อ) มีการนำก่อนด้วยกองทหารถืออาวุธ และปุโรหิตเป่าแตร ตามด้วยกองทหารระวังหลัง คำสั่งของพระเจ้าผ่านมายังเยชูวาให้ทหารทั้งหมดประมาณ 40,000 คน (ยชว. 4:13) เดินรอบกำแพงเยรีโควันละ 1 ครั้งเป็นเวลา 6 วัน แล้วกลับเข้าค่าย ห้ามส่งเสียงเป็นอันขาด จากนั้นวันที่ 7 ให้เดิน 7 ครั้ง ครั้งที่ 7 ให้โห่ร้อง (a loud battle cry: shout ภาษาฮีบรูใช้คำว่า ruwa` และ truw`ah หมายถึงทำเสียงโห่)
โยชูวา 6:16 ในครั้งที่เจ็ด เมื่อปุโรหิตเป่าแตร โยชูวาบอกประชาชนว่า “จงโห่ร้องขึ้นเถิด เพราะพระยาห์เวห์ทรงมอบเมืองนั้นให้ท่านแล้ว
ผลของการรบ อิสราเอลได้รับชัยชนะอย่างอัศจรรย์ กำแพงเยรีโคถล่มราบลงมาทั้งหมด อิสราเอลสามารถยึดเมืองเยรีโคสำเร็จ
โยชูวา 6:20 แล้วประชาชนก็โห่ร้อง และมีการเป่าแตร พอประชาชนได้ยินเสียงแตร เขาก็โห่ร้องดัง และกำแพงก็พังลงราบ ประชาชนจึงขึ้นไปในเมือง ทุกคนต่างตรงไปข้างหน้าตนและเข้ายึดเมืองนั้น
2. การรบกับฟีลิสเตียสมัยปุโรหิตเอลี
1 ซามูเอล 4:4-6 ประชาชนจึงใช้คนไปที่เมืองชิโลห์ และพวกเขานำหีบพันธสัญญาแห่งพระยาห์เวห์จอมทัพ ผู้ประทับเหนือเครูบมาจากที่นั่น บุตรทั้งสองของเอลี คือโฮฟนีและฟีเนหัส ก็อยู่กับหีบพันธสัญญาของพระเจ้าที่นั่น เมื่อหีบพันธสัญญาของพระยาห์เวห์มาที่ค่าย แล้วคนอิสราเอลทั้งสิ้นก็โห่ร้องเสียงดังจนแผ่นดินก้องไปด้วยเสียงนั้น และเมื่อพวกฟีลิสเตียได้ยินเสียงโห่ร้องเช่นนั้น เขาก็กล่าวว่า “เสียงโห่ร้องอึกทึกครึกโครมในค่ายของพวกฮีบรูนั้นหมายความว่าอะไรกัน” พอพวกเขาทราบว่าหีบพระยาห์เวห์มาที่ค่ายแล้ว
ผลของการรบ อิสราเอลพ่ายแพ้ หีบพันธสัญญาถูกยึดไป บุตรทั้งสองของเอลี คือโฮฟนีและฟีเนหัสตาย ทั้งนี้เป็นไปตามคำที่พระเจ้าตรัสผ่านซามูเอลเรื่องการลงโทษพงศ์พันธุ์เอลี (1 ซมอ. 3:13-14)
1 ซามูเอล 4:10-11 เพราะฉะนั้นพวกฟีลิสเตียจึงสู้รบและอิสราเอลก็พ่ายแพ้ ต่างก็หนีไปยังเต็นท์ของเขา ครั้งนั้นมีการฆ่าฟันกันหนักมาก เพราะทหารราบของอิสราเอลตายเสีย 30,000 คน และหีบของพระเจ้าถูกยึดไป และบุตรทั้งสองของเอลี คือโฮฟนีและฟีเนหัสก็ตายด้วย
เพิ่มเติม: การสู้รบด้วยเสียงนมัสการ (praise - halal) โดยไม่มีหีบพันธสัญาเกี่ยวข้อง
เกิดขึ้นในในสมัยกษัตริย์เยโฮชาฟัท แห่งยูดาห์ เมื่อศัตรูบุกจากตะวันออก คือคนโมอับและคนอัมโมนพร้อมกับคนภูเขาเสอีร์ ตอนนั้นยาฮาซีเอลบุตรเศคาริยาห์ ผู้เป็นบุตรเบไนยาห์ ผู้เป็นบุตรเยอีเอล ผู้เป็นบุตรมัทธานิยาห์ เขาเป็นคนเลวีเชื้อสายของอาสาฟ ได้เผยพระวจนะว่าพระเจ้าจะประทานชัยชนะโดยอิสราเอลไม่ต้องทำอะไร ให้ยืนประจำการและรอดูอย่างเดียว (2 พศด. 20:17) จากนั้นเลวีได้ร้องเพลงถวายพระยาห์เวห์นำหน้ากองทัพ ปรากฏว่าพระเจ้าส่งกองซุ่มมาโจมตีกองทัพศัตรูจนหมดสิ้นไป
2 พงศาวดาร 20:21 และเมื่อพระองค์ทรงปรึกษากับประชาชนแล้ว พระองค์ทรงแต่งตั้งพวกที่จะร้องเพลงถวายพระยาห์เวห์ และสรรเสริญพระองค์ผู้ทรงไว้ด้วยความบริสุทธิ์ ขณะเมื่อพวกเขาเดินนำหน้ากองทัพออกไปและร้องว่า “จงขอบพระคุณพระยาห์เวห์ เพราะความรักมั่นคงของพระองค์ดำรงอยู่เป็นนิตย์”
แต่ละเหตุการณ์มีวัตถุประสงค์และเหตุผลของแต่ละเหตุการณ์ แม้จะมีบางอย่างคล้ายกัน แต่เราควรพิจารณาเป็นเรื่อง ๆ อย่าจับแพะชนแกะ เอาเหตุการณ์มาผสมกันเพื่อสนับสนุนความเชื่อส่วนตัวครับ
ความคิดเห็น