เลิกเป็นมนุษย์คิดเยอะ!

หนังสือหลายเล่มพูดถึงการมีกรอบความคิดที่ดี แต่เล่มนี้สอนให้เห็นมุมมองใหม่จากการขยายกรอบความคิดออกไปในประสบการณ์ประจำวัน หากผู้อ่านมีประสบการณ์ชีวิตบ้างพอควร เล่มนี้จะช่วยให้เราอยู่กับตัวเองและคนรอบข้างได้อย่างเข้าใจ

มุมมองของคนญี่ปุ่นต่อตัวเองและคนรอบข้างมักจะเน้นการเรียนรู้จักตัวเอง พยายามเข้ากับคนรอบข้างทางใดทางหนึ่ง (inclusivism) คิดเผื่อมากๆ โดยไม่สรุปกันง่ายๆ แต่จะพยายามหาทางเลือกที่อาจคิดผิดไปหากรู้สึกไม่สบายใจจากตัวเองและคนรอบข้าง เป็นอะไรที่ดูสุภาพและไม่ตัดสินเร็วเกินไป แง่หนึ่งดีแต่อีกแง่หนึ่งก็ดูจะกลายเป็นคนคิดมากและเก็บความรู้สึกมากเกินไป

ผมคิดว่าคนไทยกับคนญี่ปุ่นก็มีบางมุมที่คล้ายกันบ้าง เช่น สุภาพ เน้นการเติบโตจากภายใน ชอบมีกลุ่มมีพวกพ้อง พูดจาอ้อมค้อมระมัดระวังไม่ทำให้ใครเสียหน้า แต่ก็ต่างจากคนญี่ปุ่นด้วย เช่น บางครั้งก็คิดไม่ลึกพอทำให้ตัดสินคนอื่นง่าย ใจร้อนเกินไป บางทีการสุภาพก็คาดหวังคนอื่นต้องสุภาพต่างตอบแทนกัน หากไม่ทำตามนั้นก็จะเริ่มหัวเสีย เป็นต้น

หนังสือเล่มนี้ให้คำแนะนำดีๆ ที่ช่วยปัดกวาดความคิดที่ยุ่งเหยิงจนต้องกลับมาคิดใหม่ว่าจริงๆ ชีวิตก็ไม่ได้ยากอะไรขนาดนั้น เช่น

1. คุณค่าตัวเราเองหลายครั้งก็มองไม่ชัดด้วยตัวเอง ต้องเข้าไปปฏิสัมพันธ์กับผู้คนจะเข้าใจตัวเองมากขึ้น

2. หากเราลงมือทำอะไรสักอย่าง เราจะไม่เสียใจที่ไม่ได้ทำ แม้จะทำออกมาดีหรือไม่ก็ตาม ความเสียใจที่จะติดอยู่กับเรานานกว่านั้นคือเสียใจที่ไม่ได้ทำต่างหาก

3. ลองตั้งเป้าระดับความสัมพันธ์ที่ดีกับคนรอบข้างต้องไปถึงจุดที่สามารถทะเลาะกับเขาได้โดยไม่เสียความรู้สึก หมายถึงเสนอความเห็นเชิงลึกที่แตกต่างอย่างสบายใจได้

4. การมองอนาคตทำให้เรามีความหวัง แต่ก็ระวังว่าจะกังวลใจไปด้วย

5. เวลารู้สึกขาดแรงบันดาลใจ ก็หัดช่างมันบ้าง ทำสิ่งที่ควรทำต่อไป อย่าหยุดเพราะไม่มีแรงบันดาลใจ เดี๋ยวผลงานและความคืบหน้าจะทำให้เราเห็นก้าวต่อไปเอง

เป็นแค่ตัวอย่างเท่านั้นนะครับ ยังมีอีกมากเลยในหนังสือเล่มนี้

"เลิกเป็นมนุษย์คิดเยอะ!" เขียนโดยบาบะ เคสุเกะ หนังสือปี 2024 ความหนา 186 หน้า ระดับความยาก: ปานกลาง เหมาะสำหรับผู้ที่มีประสบการณ์ชีวิตมาระดับหนึ่ง ทีแรกคิดว่าอ่านง่าย แต่กลับมีประเด็นหลายเรื่องต้องขบคิดกันพอสมควร ลองหามาอ่านครับ

#BookReview #เลิกเป็นมนุษย์คิดเยอะ #รีวิวโดยกนก #กนกลีฬหเกรียงไกร #kanokleelahakriengkrai