The Broken Ladder เมื่อบันไดหัก มองสังคมเหลื่อมล้ำผ่านแว่นจิตวิทยา

งานวิจัยมากมายได้สะท้อนความจริงว่า แท้จริงสังคมที่มีความเหลื่อมล้ำมากทำร้ายสังคมมากกว่า สังคมที่มีความร่ำรวยมากหรือจนมาก แต่บันไดความเหลื่อมล้ำไม่ห่างกันจนเกินไป

การผสมของสังคมที่มีระยะห่างของรายได้ความแตกต่างกันมากจนเกินไปจะก่อให้เกิดปัญหามากมาย เช่น การเปรียบเทียบ ความเครียด อาชญากรรม ความรุนแรงทางการเมือง เป็นต้น

อย่างไรก็ตามสังคมภายใต้เศรษฐกิจทุนนิยมแข่งขันสูงย่อมดีกว่าสังคมที่อะไรก็เท่าๆ กัน ของเศรษฐกิจระบอบคอมมิวนิสต์ซึ่งเป็นเพียงอุดมการณ์ที่ไม่อยู่ในโลกของความเป็นจริง แม้รัสเซียและจีนยังต้องปรับตัวให้เป็นระบอบผสมผสานทุนนิยมเข้าไปภายใต้การควบคุมบางอย่างเพื่อให้เศรษฐกิจเดินหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ความยากจนหรือร่ำรวยเป็นทั้งจริงและภาพลวงตา

ความจนจริงๆ มีตัววัดบางอย่าง เช่น รายได้เท่าไรถือว่ายากจน หากผ่านตัววัดนี้ขึ้นมาแล้ว ก็ไปสู่ตัววัดของความพอมีพอกิน จนถึงความร่ำรวย

ประเทศอังกฤษเมื่อ 200 ปีที่แล้ว เสื้อลินินและรองเท้าหนังเป็นขนบธรรมเนียมในที่สาธารณะ หากใครไม่มีใส่ จะรู้สึกอับอายมาก แม้คนที่ยากจนที่สุดยังจำเป็นต้องหามาให้ได้ ปัจจุบันคงหนีไม่พ้นสมาร์ทโฟน แนวคิดนี้กำลังบอกว่าสถานะความยากจนหรือร่ำรวยไม่ใช่เป็นเพียงสถานะการเงินของแต่ละคนเท่านั้นแต่ยังเป็นสถานะที่มีการเปรียบเทียบกับผู้อื่นด้วย

นักวิชาการเสนอทฤษฎี "เส้นแห่งความยากจน" ด้วยวิธีคำนวณต้นทุนอาหาร 3 มื้อโดยแยกระดับต้นทุนเป็น ระดับสูง กลาง ประหยัด แล้วเอาต้นทุนระดับกลางมาคำนวณต้นทุนเป็นจำนวนเงินต่อวัน "ใครมีรายได้ต่อวันต่ำกว่าเส้นนี้คือ ยากจน"

ความจนแต้มของชีวิตจะบีบให้เรามองอะไรแคบๆ

งานวิจัยของ Jay Belsky, Margo Wilson และ Martin Daly, Mitch Callan และคณะ, และ Ralph Carter นักจิตวิทยาต่างเวลาแต่ยืนยันผลการวิจัยด้านสังคมศาสตร์คล้ายกันพบว่า "ความสามารถในการมองการณ์ไกลของคนเรามีปัจจัยสภาพแวดล้อมการใช้ชีวิตประกอบด้วย" คนเราจะมีลูกเร็ว และมาก ในสภาพแวดล้อมที่แร้นแค้น แต่สภาพที่อุดมสมบูรณ์จะมีลูกช้าและน้อย คือในสภาพที่ไม่มีอะไรจะเสียแล้วจะใช้ชีวิตเหมือนวันสุดท้าย มีเพศสัมพันธ์กับคนไปทั่ว ใช้ชีวิตแบบไม่สนใจอะไรทั้งนั้น

การเงินก็เช่นกัน คนที่ไม่มีอะไรจะเสียจะหาเงินใช้เงินแบบเฉพาะหน้า กล้าเสี่ยง ส่วนคนที่อยู่ในสภาพอุดมสมบูรณ์จะมองการณ์ไกล ใช้ชีวิตแบบไม่เสี่ยง

ความจนแต้มของชีวิตจะบีบให้เรามองอะไรแคบๆ คนที่ไม่มีอะไรจะเสียมักจะยอมเสี่ยงเพราะหวังว่าอยากจะหลุดพ้นจากความลำบาก และผลของการตัดสินใจมักไม่ประสบความเสร็จ กลับยิ่งด่ำดึงลงมากเข้าไปอีก

ที่สำคัญ "ความรู้สึก" ร่ำรวยหรือยากจน อาจจะไม่เป็นจริงตามนั้นก็ได้ หากแต่เป็นสภาพการเปรียบเทียบกับคนใกล้ตัว ความเหลื่อมล้ำนี้แหล่ะจะกำหนดพฤติกรรมในลักษณะข้างต้น

สังคมเหลื่อมล้ำอาจเป็นประเด็นที่ต้องอาศัยความร่วมมือของทุกฝ่ายเพื่อลงมาแก้ปัญหา เช่น นโยบายภาครัฐ ความไหวตัวของผู้นำในองค์กรต่างๆ จนถึงความมีสติของคนในสังคม อย่างน้อยเมื่อเรารู้เท่าทัน เราจะไม่ตกหลุมพรางของจิตวิทยาจนอาจสร้างปัญหามากมายกับตัวเองตลอดจนสังคม

"The Broken Ladder เมื่อบันไดหัก มองสังคมเหลื่อมล้ำผ่านแว่นจิตวิทยา" เขียนโดย Keith Payne ศาสตราจารย์ทางจิตวิทยา พิมพ์ในปี 2565 ความหนา 280 หน้า ระดับความยาก: ปานกลาง เหมาะสำหรับผู้ที่สนใจงานด้านสังคมศาสตร์และการเหลื่อมล้ำ หนังสือเต็มไปด้วยงานวิจัยมากมายซึ่งจะช่วยตอบคำถามความเหลื่อมล้ำในสังคมได้ดียิ่งขึ้น แนะนำให้ลองหามาอ่านดูนะครับ


ความคิดเห็น