เป็นช่วงเวลาหลังจากที่เกิดภัยพิบัติ ซึ่งอาจกินระยะเวลาตั้งแต่ไม่กี่วันไปจนถึงหลายปี ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของเหตุการณ์และขีดความสามารถในการฟื้นตัวของแต่ละคน
ภาวะนี้สามารถแบ่งออกเป็น 4 ด้านหลัก
1. ด้านสังคมและจิตใจ
ผู้ประสบภัยอาจเผชิญกับความเครียด ความเศร้าโศก หรือภาวะซึมเศร้า มีความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพจิต เช่น PTSD (Post-Traumatic Stress Disorder)
2. ด้านเศรษฐกิจ
ความเสียหายต่อทรัพย์สิน บ้านเรือ ราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอาจปรับตัวสูงขึ้น
3. ด้านสิ่งแวดล้อมและโครงสร้างพื้นฐาน
ระบบสาธารณูปโภค เช่น ไฟฟ้า น้ำประปา และถนน อาจถูกทำลายหรือใช้งานไม่ได้ การฟื้นฟูอาจใช้เวลานานและต้องใช้ทรัพยากรจำนวนมาก
4. ด้านสุขภาพและการช่วยเหลือทางการแพทย์
โรคระบาดอาจเกิดขึ้นจากน้ำเสีย อาหารปนเปื้อน หรือแหล่งอาศัยชั่วคราวที่แออัด การขาดแคลนยา เวชภัณฑ์ และบริการทางการแพทย์ ซึ่งเจ้าหน้าที่สาธารณสุขต้องรับภาระหนักในการดูแลและให้ความช่วยเหลือนี้
![]() |
เครดิตภาพ ABC News |
การรับมือกับภาวะหลังภัยพิบัติต้องอาศัยความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ได้แก่
1. ภาครัฐ
วางแผนและดำเนินการฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐาน
2. คริสตจักรและพี่น้องคริสเตียน
ช่วยเหลือเปิดอาคารให้เป็นแหล่งพักพิง ไม่ทำให้ผู้ประสบภัยต้องลำบากใจกับความเชื่อที่แตกต่าง แต่ให้การช่วยเหลือด้วยความจริงใจ
3. ประชาชนทั่วไป
มีส่วนร่วมในการช่วยเหลือและปรับตัวเพื่อฟื้นฟูชุมชน รักษาระเบียบ โอบอ้อมอารีย์เสมอ
การฟื้นตัวจากภัยพิบัติอาจใช้เวลานาน แต่หากมีการเตรียมพร้อมและการช่วยเหลือที่เหมาะสม ก็จะช่วยให้ชุมชนกลับมาเข้มแข็งได้เร็วขึ้น
ความคิดเห็น