โลกเรามีศาสนา (religion) เป็นความเชื่อที่มีหลักคำสอนอย่างเป็นระบบ มีพิธีกรรม และมีผู้ปฏิบัติ มีนิกาย (sect) คือความเชื่อย่อยในศาสนาหลักของชุมชน แต่ก็มีคำสอนอย่างเป็นระบบ มีพิธีกรรม และมีผู้ปฏิบัติเช่นกัน และลัทธิ (cult) ที่มีคำสอนอย่างเป็นระบบ มีพิธีกรรม และมีผู้ปฏิบัติ แต่ลัทธิจะพิเศษกว่าที่มีระบบการปกครองภายในที่ปิด หลักคำสอนและผู้นำไม่สามารถวิจารณ์ได้ มีสังคมที่แยกตัว อาจจำกัดสิทธิเสรีภาพจนถึงเป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติได้ แต่ทั้งหมดเป็นตัวตนในสังคมที่มนุษย์เราดำเนินอยู่ทุกยุคสมัย
ในระบบสังคมวิทยา มนุษย์เราอยู่ร่วมกันเป็นชุมชมกลุ่มก้อน มีวัฒนธรรม เผยแพร่ สงวน และหวงแหนในรูปแบบการใช้ชีวิต ขณะเดียวกันก็พร้อมที่จะต่อต้านความแตกต่างทุกรูปแบบจนถึงขั้นรบราฆ่าฟันแตกหัก ศาสนาและความเชื่อจึงยอมกันไม่ได้เพราะเป็นตัวตนของกลุ่มก้อนชุมชนที่พร้อมจะมีผู้สนับสนุนอยู่เบื้องหลังเสมอ ใครชูธงรบกับผู้ที่เห็นแตกต่างก็จะเป็นทั้งฮีโร่และศัตรูขึ้นอยู่กับว่าใครเป็นผู้สนับสนุนความเชื่อของเขา
"ผมว่าเราอย่าเป็นเหยื่อเรื่องประเภทนี้เลยดีกว่า"
จะเชื่ออะไรก็ดำเนินตามนั้นให้ดีไป รับ รัก รักษา และเผยแพร่อย่างเป็นธรรมชาติ สื่อสารให้ดี ใครไม่เห็นด้วยก็ถือเป็นเรื่องปกติเพราะทุกคนก็หวงแหนตัวตนทั้งนั้น ใครมากระทบแรงก็ตอบตามความคิดของเราไปที ไม่ต้องไปห่วงแทนใครหรือไปอะไรมากกว่านั้น อย่าลืมว่าพระเจ้าทรงครอบครอง มนุษย์ไม่ควรต้องฉุนเฉียวอารมณ์เสียทำหน้าที่เกินพระเจ้าด้วยความรู้สึกร้อนใจเหมือนเป็นเจ้าของคนเหล่านั้นแทนพระเจ้า
อ.เปาโลอัครทูต และนักประกาศตัวยง ให้คำแนะนำเรื่องสามีภรรยาที่มีความเชื่อไม่เหมือนกันไว้อย่างน่าสนใจ เรื่องนี้อาจมีบริบท แต่เราก็เห็นความคิดบางอย่างของการไว้วางใจพระเจ้าและให้โอกาสผู้คนในการตัดสินใจ
1 โครินธ์ 7:15 แต่ถ้าคนที่ไม่เชื่อจะแยกจากไป ก็ให้เขาแยกจากไปเถิด ในกรณีนี้ไม่จำเป็นที่พี่น้องชายและหญิงต้องถูกผูกมัด เพราะว่าพระเจ้าทรงเรียกเราให้อยู่อย่างสันติ
อย่างไรก็ตามในฐานะคริสเตียนที่ดี อ.เปาโลหนุนใจให้เราทำหน้าที่อย่างหนักแน่นในการประกาศข่าวประเสริฐ ซึ่งผมเชื่อว่าคริสเตียนทุกคนที่เข้าใจพร้อมที่จะประกาศข่าวประเสริฐอย่างแน่นอน
2 ทิโมธี 4:2 จงประกาศพระวจนะ จงทำอย่างขะมักเขม้นทั้งในขณะที่คนสนใจและไม่สนใจ จงชักชวน ตักเตือน และหนุนใจ ด้วยความอดทนและด้วยการสั่งสอนอย่างเต็มที่
ทั้งหมดจึงขึ้นอยู่มุมมองและวิธีการที่ใครคิดว่าเหมาะสม
ขอเจาะจงกับกลุ่มที่เชื่อว่าอยู่ใต้ร่มพระคุณพระเจ้าทางพระโลหิตพระเยซู ไม่ว่าใครจะอยู่ในระบบศาสนา (religion) นิกาย (sect) หรือลัทธิ (cult) ให้ตระหนักถึงความสัตย์ซื่อในการดำเนินตามพระคัมภีร์ มองพระคริสต์ให้ชัด มองพี่น้องในแง่บวก ไว้วางใจพระเจ้าหากคิดว่าเขาเดินผิดทาง มีโอกาสก็แนะนำกัน ไม่มีโอกาสก็อธิษฐานเผื่อ เน้นพระมหาบัญญัติและพระมหาบัญชาอย่างเต็มที่
พระเจ้าจะเป็นผู้เปิดเผยน้ำพระทัยของพระองค์ และจะทรงพาเราออกจากระบบศาสนา นิกายหรือลัทธิเพื่อรวมเป็นฝูงเดียวที่เป็นแกะของพระองค์ในที่สุด เราจะลืมปัจจัยพระเจ้าผู้ทรงเป็นเจ้าของแกะทั้งปวงไม่ได้ครับ
ความคิดเห็น