อารมณ์เป็นส่วนหนึ่งที่บ่งบอกความเป็นมนุษย์ของเรา แต่ยังไม่พอ การรู้เท่าทันอารมณ์สำคัญกว่ามาก
ชีวิตที่ประสบความสำเร็จไม่ได้หมายความว่าอารมณ์จะไม่มีส่วนเกี่ยวข้องเลย การรักษาความเย็นชาไม่รู้ร้อนรู้หนาว หรือทำตัวเฉยเมย ไม่ได้ช่วยทั้งตัวเราเองและทีมงานให้ก้าวไปสู่การทำงานที่มีประสิทธิภาพร่วมกัน เพราะหัวหน้างานที่ไร้อารมณ์และหัวหน้างานที่เจ้าอารมณ์ มีผลเสียพอกันในการสร้างขวัญกำลังใจให้ทีมงาน
"แค่เราคลั่งงานให้น้อยลง สุขภาพของเราจะดีขึ้น" อันนี้ผมเห็นด้วยเลย ประสบการณ์ตรงหลายครั้ง บางทีเราคิดไปว่าถ้าเราพักร้อน บริษัทจะพังแน่ เป็นความเชื่อที่ผิดเลยครับ ฉะนั้นอย่าบ้างานเกิน
แรงบันดาลใจในการทำงานเป็นเรื่องของอารมณ์และเหตุผล บางทีการได้กาแฟสักแก้วก็ช่วยสร้างแรงบันดาลใจดีๆ ได้ แต่ถ้าไม่ได้ผล ลองจิบกาแฟพร้อมดูรายการจ่ายในบัตรเครดิตก็ได้ คีย์บอร์ดสั่นเลยไหมครับ
การทำงานเป็นทีมสำคัญมาก เพราะความคิดดีๆ จะเกิดขึ้นได้จากผลของทีมที่มีประสิทธิภาพ ยกเว้นเราจะทำงานคนเดียวจริงๆ หากทีมมีความรู้สึกปลอดภัยที่จะนำเสนอความคิดบางอย่างออกไป ฉะนั้นผู้นำที่ดีต้องสร้างบรรยากาศการทำงานเป็นทีมที่เมื่อมีใครนำเสนอความคิดหรือตั้งคำถาม ต้องไม่ทำให้เขารู้สึกโง่ ไม่เมินเฉยจนเขากลัวและไม่กล้านำเสนออะไรแล้ว ที่สำคัญคือหยุดพูดแทรกคนอื่น อันนี้ไม่รวมถึงพวกคนงี่เง่า คนที่อะไรก็ค้านตลอด และคนที่ขี้เกียจนะครับ
สรุปว่าหนังสือเล่มนี้อ่านสนุก นำไปใช้ประโยชน์ได้เลย มีภาพประกอบสวยงามเข้าใจง่าย มีข้อมูลงานวิจัยจิตวิทยาสังคมที่ update
"ทำงานกับคนต้องใช้อารมณ์ให้เป็น No Hard Feelings" เขียนโดย ลิส ฟอสเลียน และมอลลี่ เวสต์ ดัฟฟี่ ฉบับที่ผมอ่านเป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 6 ปี 2566 ถือว่ายังใหม่อยู่ หนังสือหน้า 284 หน้า ระดับความยาก: ปานกลาง เหมาะสำหรับทุกคนที่ทำงานเป็นทีม (อยู่แล้ว) โดยเฉพาะเหล่าหัวหน้าทีมทั้งหลาย ลองหามาอ่านดูครับ
ความคิดเห็น