พระคัมภีร์ให้คำแนะนำอย่างไรต่อการรับมือกับสถานการณ์วิกฤติ
1. ศึกษาข่าวสารที่มีความสำคัญต่อความอยู่รอด
ปฐมกาล 42:2 ยาโคบพูดต่อไปว่า “นี่แน่ะ พ่อได้ยินว่ามีข้าวในอียิปต์ พวกเจ้าจงลงไปที่นั่น ซื้อข้าวมาให้พวกเรา เพื่อพวกเราจะได้มีชีวิตต่อไปและไม่ตาย”
- ยาโคบแม้จะอยู่คานาอัน แต่เขารู้ข่าวสารที่อียิปต์และรู้ว่าที่นั่นมีอาหารอย่างเพียงพอเพื่อความอยู่รอดท่ามกลางความกันดารในคานาอัน จริงๆ ก็ทั้งโลก
2. วาระและโอกาสจะมาถึงทุกคน ให้เราฝากทุกสิ่งไว้กับพระเจ้า
ปัญญาจารย์ 9:11 ข้าพเจ้าได้เห็นภายใต้ดวงอาทิตย์อีกว่า คนวิ่งเร็วไม่ชนะในการแข่งขันเสมอไป หรือคนเก่งกาจไม่ชนะสงครามเสมอไป นอกจากนี้ คนมีปัญญาไม่มีอาหารเสมอไป หรือคนฉลาดไม่ร่ำรวยเสมอไป หรือคนรอบรู้ไม่ได้รับความโปรดปรานเสมอไป แต่วาระและโอกาสมีมาถึงเขาทุกคน
สุภาษิต 24:3-5 โดยปัญญา บ้านจึงถูกสร้างขึ้น และโดยความเข้าใจ มันก็ถูกสถาปนาไว้ โดยความรู้ ห้องทั้งหลายก็เต็มไปด้วยทรัพย์ล้ำค่าและน่าชื่นชมทั้งสิ้น คนมีปัญญาย่อมมีอำนาจมาก และคนมีความรู้ก็มีกำลังมากขึ้น
- ปัญญามาจากความยำเกรงพระเจ้า ความถ่อมใจจะนำหน้าเกียรติ คนที่ถ่อมใจเรียนรู้จะเข้าใจหลายสิ่งหลายอย่าง
4. ไม่เกียจคร้าน
สุภาษิต 10:4 มือที่เกียจคร้านทำให้ยากจน แต่มือที่ขยันขันแข็งทำให้มั่งคั่ง
4.2 ความเกียจคร้าย ส่งผลเสียต่อสภาพความเป็นอยู่ของเราด้วย
ปัญญาจารย์ 10:18 เพราะความขี้เกียจ หลังคาจึงทรุดพังลง และเพราะความเกียจคร้านเรือนจึงรั่วเฉอะแฉะ
สุภาษิต 20:4 คนเกียจคร้านไม่ไถนาในหน้านา เขาจะมองหาพืชผลในฤดูเกี่ยวแต่ไม่พบอะไรเลย
4.2 ความเกียจคร้านสามารถสร้างกรอบความคิดแง่ลบได้
สุภาษิต 22:13 คนเกียจคร้านพูดว่า “มีสิงโตอยู่ข้างนอก ข้าจะถูกฆ่ากลางลานเมือง”
5. อย่าเป็นทาสของเงิน
1 ทิโมธี 6:9 ส่วนพวกที่อยากร่ำรวยก็ตกอยู่ในการล่อลวงและติดกับดักของความอยากมากมายที่โง่เขลาและอันตราย ซึ่งฉุดคนเราให้ลงไปสู่ความพินาศและความย่อยยับ
1 ทิโมธี 6:6-8 อันที่จริง การอยู่ในทางพระเจ้าพร้อมกับมีความพอใจก็เป็นประโยชน์อย่างใหญ่หลวง เพราะว่าเราไม่ได้เอาอะไรเข้ามาในโลกเช่นไร เราก็เอาอะไรออกไปจากโลกไม่ได้เช่นกัน ถ้ามีอาหารและเสื้อผ้า เราก็ควรพอใจในสิ่งเหล่านั้น
6. วางใจในพระเจ้า พระเจ้าทราบดีในความเป็นอยู่และสถานการณ์ของเรา
มัทธิว 6:33 แต่พวกท่านจงแสวงหาแผ่นดินของพระเจ้า และความชอบธรรมของพระองค์ก่อน แล้วพระองค์จะทรงเพิ่มเติมสิ่งทั้งปวงนี้ให้
7. พระเจ้าจะให้บางคนมั่งคั่งเพื่อเป็นพรต่อพี่น้อง
2 โครินธ์ 9:11 โดยทรงให้ท่านทั้งหลายมั่งคั่งขึ้นในทุกสิ่ง เพื่อบริจาคด้วยใจกว้างขวางอยู่เสมอ และจะทำให้เกิดการขอบพระคุณพระเจ้าผ่านเรา
1 ทิโมธี 6:17-19 ส่วนพวกที่มั่งคั่งในชีวิตนี้ จงกำชับพวกเขาไม่ให้เย่อหยิ่ง หรือมุ่งหวังในทรัพย์ที่ไม่ยั่งยืน แต่ให้มุ่งหวังในพระเจ้าผู้ประทานทุกสิ่งแก่เราอย่างบริบูรณ์ เพื่อให้เราได้ชื่นชม จงกำชับพวกเขาให้ทำการดี ให้ทำการดีมากๆ ให้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และแบ่งปัน การทำเช่นนี้เป็นการสะสมทรัพย์ที่เป็นรากฐานอันดีสำหรับตนในภายหน้า เพื่อพวกเขาจะยึดมั่นในชีวิต คือชีวิตที่แท้จริงนั้น
![]() |
ชุมชนของพระเจ้าควรเป็นที่แห่งการช่วยเหลือ แสดงน้ำใจ ให้สิ่งที่จำเป็นแก่กันและกัน ขณะเดียวกันพระคัมภีร์สอนให้เราไม่เอาเปรียบชุมชนโดยอยู่ในสภาพที่เกียจคร้าน แบมือขออยู่เรื่อยไปโดยไม่ทำอะไร คริสตจักรไม่ควรอนุญาตให้สมาชิกยืมเงินกันและกัน แต่ขอให้เรามีน้ำใจตั้งงบประมาณส่วนตัวแล้วให้พี่น้องที่ขัดสนไปเลย และยิ่งดีหากจะเป็นการลับ เพื่อให้พี่น้องเกิดการขอบพระคุณพระเจ้ามากกว่าการแสวงหาการช่วยเหลือจากมนุษย์
อย่างไรก็ดีทั้งหมดนี้ไม่ใช่กฎตายตัว เพราะสถานการณ์แต่ละคนไม่เหมือนกัน คริสตจักรควรยืดหยุ่นได้ด้วยความรัก แต่พยายามรักษาระเบียบไว้ตามความเหมาะสม
ความคิดเห็น