ปี ค.ศ.1406 รัชศกหย่งเล่อปีที่ 4 จักรพรรดิหมิ่งเฉิงจู่ (จูตี้) จักรพรรดิองค์ที่ 3 ของราชวงศ์หมิง มีบัญชาให้สร้างพระราชวังต้องห้ามโดยใช้ฐานของพระราชวังของราชวงศ์หยวน (มงโกล) ที่เป่ยจิง โดยให้ยึดตามแบบพระราชวังที่เมืองนานจิงแต่เนรมิตให้ใหญ่โตกว่ามาก
การสร้างพระราชวังใช้ช่างฝีมือแสนคน แรงงานมากกว่าล้านคน ต่อมาในปี ค.ศ.1644 ราชวงศ์ชิง (แมนจู) ยกทัพ 60,000 เอาชนะทัพ 400,000 ของราชวงศ์หมิง บุกไปเรื่อยๆ จนถึงเป่ยจิง ยึดศูนย์อำนาจของจักรวรรดิได้สำเร็จคือพระราชวังต้องห้าม ปกครองทั่วใต้หล้าผ่านสถานที่แห่งนี้
จริงๆ ราชวงศ์หมิงก็มิใช่ถูกทําลายจากแมนจูแต่เพียงอย่างเดียว เพราะแท้จริงแล้วเหตุที่จักรพรรดิองค์สุดท้าย “เฉิงจง” ต้องทรงปลงพระชนม์ตนเองก็มาจากกบฏชาวฮั่นภายใต้การนําของ “หลี่จื้อเฉิง” และหลังจากกบฏได้อำนาจมาเพียงไม่นานก็ถูกราชวงศ์ชิงทำลายอย่างง่ายดายเพราะขาดเอกภาพไปเสียแล้ว
ความงดงามวิจิตรตระการตาแฝงไว้ซึ่งสัญลักษณ์มากมาย พระราชวังต้องห้ามเป็นผลของการสะสมความรู้ที่มีการลองผิดลองถูกกว่า 2,000 ปี จนกระทั่งเกิดแนวคิดที่สมบูรณ์ที่สุด
ส่วนหน้าของพระราชวังเป็นพื้นที่ของขุนนางเข้าออกเป็นพันๆ ทุกวัน ส่วนหลังกินพื้นที่ 1 ใน 3 เป็นที่ตั้งของฝ่ายใน หวงไทโฮ่ว หวงโฮ่ว (พระมเหสี) หวงกุ้ยเฟย นางสนม นางกำนัล ขันที และคนรับใช้ (ซูลา) มากมาย คาดว่าพื้นที่ตรงนี้สมัยราชวงศ์หมิง มีผู้อาศัยมากถึง 40,000 คน แต่สมัยราชวงศ์ชิงลดลงเหลือ 6,000 คน ซึ่งยังถือว่าแออัดพอควร แต่เทียบไม่ได้กับสมัยหมิงซึ่งมีคนอดตายอยู่บ่อยๆ เพราะเสบียงแจกจ่ายได้ไม่ทั่วถึง
ร้อยเรื่องราววังต้องห้าม เป็นหนังสือที่ทำให้เราเข้าใจแนวคิดการสร้างพระราชวัง ตำแหน่งการวางพื้นที่ใช้สอยต่างๆ ประวัติศาสตร์ที่แฝงอยู่ในแต่ละที่ เรื่องราวสำคัญๆ ที่เกิดขึ้นตลอด 600 ปีในวังต่างๆ ที่ตั้งอยู่ตลอดพื้นที่ยิบย่อยเรียงรายอยู่ภายในพระราชวังต้องห้ามอันมหึมานี้
ส่วนหน้าของพระราชวังเป็นพื้นที่ของขุนนางเข้าออกเป็นพันๆ ทุกวัน ส่วนหลังกินพื้นที่ 1 ใน 3 เป็นที่ตั้งของฝ่ายใน หวงไทโฮ่ว หวงโฮ่ว (พระมเหสี) หวงกุ้ยเฟย นางสนม นางกำนัล ขันที และคนรับใช้ (ซูลา) มากมาย คาดว่าพื้นที่ตรงนี้สมัยราชวงศ์หมิง มีผู้อาศัยมากถึง 40,000 คน แต่สมัยราชวงศ์ชิงลดลงเหลือ 6,000 คน ซึ่งยังถือว่าแออัดพอควร แต่เทียบไม่ได้กับสมัยหมิงซึ่งมีคนอดตายอยู่บ่อยๆ เพราะเสบียงแจกจ่ายได้ไม่ทั่วถึง
ร้อยเรื่องราววังต้องห้าม เป็นหนังสือที่ทำให้เราเข้าใจแนวคิดการสร้างพระราชวัง ตำแหน่งการวางพื้นที่ใช้สอยต่างๆ ประวัติศาสตร์ที่แฝงอยู่ในแต่ละที่ เรื่องราวสำคัญๆ ที่เกิดขึ้นตลอด 600 ปีในวังต่างๆ ที่ตั้งอยู่ตลอดพื้นที่ยิบย่อยเรียงรายอยู่ภายในพระราชวังต้องห้ามอันมหึมานี้
ผมเคยไปพระราชวังต้องห้าม 3 ครั้ง มีไกด์นำไป 2 ครั้ง เมื่ออ่านหนังสือเล่มนี้จบพบว่าสิ่งที่ไกด์นำเที่ยวนำเที่ยวเป็นเพียงตำแหน่งเส้นตรงเหนือใต้ของพระราชวังต้องห้ามเท่านั้น ซึ่งมีพื้นที่อีก 2 ใน 3 ที่ไม่ได้เข้าไป น่าจะเพราะความจำกัดของเวลา ครั้งหน้าถ้ามีโอกาสไปเองจะเจาะอีก 2 ปีกแนวเหนือใต้ซึ่งซ่อนความยิ่งใหญ่ที่แท้จริงของเมืองต้องห้ามแห่งนี้
"ร้อยเรื่องราววังต้องห้าม" เขียนโดย จ้าวกว่างเซา เล่มที่ผมอ่านเป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 ปี 2560 ความหนา 320 หน้า ระดับความยาก: ปานกลางถึงยาก ขนาดของหนังสือจัดว่าใหญ่กว่าปกติ แต่ถ้าเทียบกับไซส์หนังสือแบบพกพาอาจจะมีความหนาประมาณ 600 หน้าเลยทีเดียว หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับทุกคนที่ชื่นชอบโบราณสถานพระราชวังกู้กง และเรื่องราวลึกซึ้งของแต่ละวังที่อยู่ภายในเมืองลึกลับแห่งนี้
"ร้อยเรื่องราววังต้องห้าม" เขียนโดย จ้าวกว่างเซา เล่มที่ผมอ่านเป็นฉบับพิมพ์ครั้งที่ 2 ปี 2560 ความหนา 320 หน้า ระดับความยาก: ปานกลางถึงยาก ขนาดของหนังสือจัดว่าใหญ่กว่าปกติ แต่ถ้าเทียบกับไซส์หนังสือแบบพกพาอาจจะมีความหนาประมาณ 600 หน้าเลยทีเดียว หนังสือเล่มนี้เหมาะสำหรับทุกคนที่ชื่นชอบโบราณสถานพระราชวังกู้กง และเรื่องราวลึกซึ้งของแต่ละวังที่อยู่ภายในเมืองลึกลับแห่งนี้
ความคิดเห็น