หากเราคาดหวังการพัฒนางานรับใช้ใดใดให้ดีขึ้นเรื่อยๆ เป็นเรื่องปกติที่จะมีคำแนะนำจากพี่น้องในชุมชน ซึ่งอาจเป็นผู้นำหรือผู้เชี่ยวชาญในเรื่องนั้นๆ เพื่อในที่สุดงานรับใช้นั้นจะเป็นที่ถวายเกียรติแด่พระเจ้า และเป็นที่หนุนใจพี่น้องเป็นอันมากได้
การนมัสการก็เช่นกัน หากเราตั้งใจจะพัฒนาทีมนมัสการ ทั้งการนำ การ้องเพลง การเล่นดนตรี นอกจากจะต้องมีการฝึกซ้อมที่ดี การเล่นที่มีความตั้งใจอย่างเต็มที่ ยังต้องมีการประเมินผลที่ดีสนับสนุนด้วย เพื่อทั้งหมดจะเกิดการเสริมสร้างพัฒนาบรรยากาศการนมัสการขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นที่หนุนใจพี่น้องในคริสตจักรได้เป็นอย่างดี
คำแนะนำสำหรับผู้ให้คำแนะนำ1. เป็นแบบอย่างก่อนเสมอ
สุภาษิต 29:18-19 ที่ที่ไม่มีนิมิต ประชาชนก็ปล่อยตัว แต่คนที่รักษาธรรมบัญญัติย่อมเป็นสุข สักแต่ใช้คำพูดเท่านั้นจะสั่งสอนคนรับใช้ไม่ได้ เพราะแม้เขาจะเข้าใจ แต่เขาก็ไม่เชื่อฟัง
เพราะเราต้องตระหนักว่าการพูดอย่างเดียวไม่สามารถเปลี่ยนอะไรได้ดีไปกว่าแบบอย่างชีวิตของเรา เช่น การฝึกซ้อมอย่างมีวินัย การศึกษาดนตรีหรือทักษะการนำนมัสการจนเกิดความเชี่ยวชาญ การพัฒนาการร้องเพลงด้วยความตั้งใจและเห็นผลเป็นที่ประจักษ์ เป็นต้น
2. ให้คำแนะนำที่เป็นคุณแก่ผู้ฟัง
เอเฟซัส 4:29 อย่าให้คำเลวร้ายออกจากปากของท่านทั้งหลาย แต่จงกล่าวคำดีๆ ที่เสริมสร้างและที่เหมาะกับความต้องการ เพื่อจะได้เป็นคุณแก่คนที่ได้ยิน
เป็นคุณหมายถึงเกิดความซาบซึ้งในพระคุณพระเจ้า (grace) ยังหมายถึงการมอบสิ่งดีแก่ผู้อื่นโดยเห็นประโยชน์ของผู้อื่นเป็นสำคัญ ซึ่งเกิดจากการกล่าวคำดีๆ เสริมสร้าง เหมาะกับความต้องการ เป็นต้น
3. พูดด้วยใจถ่อมสุภาพให้อภัยเสมอ
สุภาษิต 15:33 ความยำเกรงพระยาห์เวห์จะสอนให้เกิดปัญญา และความถ่อมตัวมาก่อนเกียรติ
โคโลสี 3:12-13 เพราะฉะนั้นในฐานะเป็นพวกที่พระเจ้าทรงเลือก พวกที่บริสุทธิ์ และพวกที่ทรงรัก จงสวมใจเมตตา ใจกรุณา ใจถ่อม ใจสุภาพอ่อนโยน ใจอดทน จงอดทนต่อกันและกัน และถ้าใครมีเรื่องราวต่อกัน ก็จงให้อภัยกัน องค์พระผู้เป็นเจ้าทรงให้อภัยพวกท่านอย่างไร ท่านก็จงทำอย่างนั้นด้วย
คำแนะนำสำหรับผู้ฟัง
1. ฟังด้วยใจเปิด
สดุดี 141:5 ขอให้คนชอบธรรมตี และตักเตือนข้าพระองค์ด้วยความเมตตา น้ำมันดีอย่างนั้น อย่าให้ศีรษะข้าพระองค์ปฏิเสธเลย เพราะข้าพระองค์ยังอธิษฐานต่อสู้ความอธรรมของเขาทั้งหลายอยู่
หากมีคำแนะนำที่เป็นประโยชน์จริงๆ แล้วเราเปิดใจฟังไม่ต่อต้าน เราเองจะเป็นผู้ที่ได้รับประโยชน์ การฟังด้วยใจเปิดจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมาก
2. ฟังแล้วนำไปปรับปรุงให้ดีขึ้น
สุภาษิต 19:20 จงฟังคำแนะนำและรับคำสั่งสอน เพื่อเจ้าจะได้ปัญญาในภายหลัง
ฟังแม้จะทำใจยากที่รับฟังบางอย่าง แต่ขอให้ระลึกว่า หากเราฟังด้วยใจเปิด เราจะเกิดปัญญา รู้ว่าควรปรับปรุงเปลี่ยนแปลงเพื่อจะทำได้ดีขึ้นได้อย่างไร
สุภาษิต 15:32 คนที่เพิกเฉยต่อคำสั่งสอนก็ดูหมิ่นตนเอง แต่คนที่สนใจคำตักเตือนก็ได้ความเข้าใจ
หากเราต้องการการพัฒนาให้ดีขึ้น การให้แนะนำและการฟังเพื่อปรับปรุงเป็นสิ่งจำเป็น หลีกเลี่ยงไม่ได้ อย่างไรก็ตามหากเป็นคำเตือนที่เป็นส่วนตัวจริงๆ ยังคงต้องเลือกคุยส่วนตัว นอกจากเขาจะไม่ฟังจึงค่อยขยายแวดวงผู้รับฟังเพื่อให้เกิดการยอมรับเปลี่ยนแปลง ไม่ใช่ด้วยการทำร้ายจิตใจกัน
มัทธิว 18:15-16 หากพี่น้องของท่านคนหนึ่งทำผิดต่อท่าน จงไปหาและชี้ความผิดต่อเขาสองต่อสองเท่านั้น ถ้าเขาฟังท่าน ท่านจะได้พี่น้องคืนมา แต่ถ้าเขาไม่ฟังท่าน จงพาอีกคนหนึ่งหรือสองคนไปด้วย เพื่อให้คำพูดทุกคำได้รับการยืนยันด้วยปากของสองสามคนเพื่อทุกคำจะเป็นหลักฐานได้
ความคิดเห็น