Toxic People คนที่เป็นพิษในความสัมพันธ์ เราจะบริหารจัดการอย่างไร

คน Toxic หรือคนที่เป็นพิษในความสัมพันธ์ (Toxic Relationship) เป็นคนละอย่างกับคนที่ป่วยทางจิตเวช แต่เป็นคนที่สร้างความลำบากใจมากมายในทางลบแก่ชุมชนทั้งท่าที คำพูด และการกระทำ จนถึงขั้นมีความต้องการทำลายอีกฝ่ายให้ได้ เมื่อการเอาตัวเองเป็นศูนย์กลางสำคัญที่สุดสำหรับเขา ความหวังว่าเขาจะรับฟังอาจเป็นสิ่งที่ยากที่สุดก็เป็นได้


คน Toxic จะมีพฤติกรรมบางอย่างที่ทำให้คนรอบข้างลำบากใจ เช่น อาจจะชอบบงการ ไม่ยอมขอโทษ พูดแง่ลบ ชอบทปกป้องตัวเอง ฯลฯ พฤติกรรมเป็นพิษหรือ Toxic สามารถเกิดขึ้นทุกแห่งที่มีชุมชนไม่เว้นแม้แต่คริสตจักร แต่หากมองในแง่ดีไม่มีใครต้องการให้ตัวเองเป็นที่เกลียดชัง เขาอาจจะไม่ตั้งใจก็ได้ และหลายครั้งพฤติกรรม Toxic ไม่ได้เป็นการทำบาปโดยตรง แต่ในแง่หนึ่งเป็นผลของความบาปที่แสดงออกผ่านการกระทำบางอย่างที่สร้างปัญหา

อย่างไรก็ตามยังพอมีวิธีบริหารจัดการอย่างน้อยก็จิตใจของเราเองเพื่อดูแลปัญหา Toxic นี้

1. เปิดใจต่อตัวเองเพื่อพิจารณาว่าเรา Toxic เองหรือเปล่า

ยากมากที่ใครจะพูดว่าตัวเองเป็นสาเหตุของความสัมพันธ์ที่เป็นพิษ หรือ Toxic Relationship อาจจะต้องลองถามเพื่อนสนิท หรือคู่ชีวิตด้วยความจริงใจดู

มัทธิว 7:3 ทำไมท่านมองเห็นผงในตาพี่น้องของท่าน แต่กลับมองไม่เห็นไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตาของท่าน?

หากเราตั้งใจจริงที่จะระมัดระวังชีวิตในทางพระเจ้า เราควรเปิดใจรับเพื่อนเข้ามาในชีวิต และให้บางคนที่จะสามารถสะท้อนตัวเราได้โดยที่เราเต็มใจ ไม่รู้สึกโกรธเขากลับ อาจเป็นคู่ชีวิตที่ตั้งใจจริงในการพัฒนาชีวิตในทางพระเจ้า ตกลงกันจริงๆ ว่าจะพูดกันด้วยความจริงใจและไม่โกรธกัน แน่นอนอาจเกิดความไม่พอใจเมื่อถูกเตือนบ้าง แต่ความตั้งใจนี้จะทำให้เรานำประเด็นต่างๆ กลับมาคิดปรับปรุงตัวเองตามหลักพระคัมภีร์

2. เข้าใจจังหวะ ไม่เอาตัวไปอยู่ในเกมของพวก Toxic

บางคนชอบเอาเรื่องของคนอื่นมาพูดนินทา หรือชอบวิจารณ์แง่ลบในทุกเรื่อง เขาต้องการให้เราฟังความเห็นของเขาโดยไม่สนใจการแก้ปัญหานั้นๆ ไม่ว่าจะพูดเพื่อสนุกปากหรือตั้งใจหาพวก มาดร้าย โจมตี หรืออื่นๆ เราต้องตั้งสติไม่เอาตัวเองเข้าไปมีส่วนร่วมด้วย เช่น ขออนุญาตไม่ฟัง ไม่ให้ความเห็นใดทั้งสิ้น ไม่ตอบไลน์ในเรื่องนั้นๆ ไม่เขียนคอมเม้นท์ตอบโต้กันไปมาในสื่อโซเชี่ยล

บางทีการโต้ตอบทันทีอาจจะได้เพียงความสะใจโดยไม่ได้ช่วยให้เกิดความเข้าใจที่ดีได้เสมอไป ทางที่ดีเราควรทิ้งจังหวะสักหน่อย ตระหนักรู้เท่าทันเกมของคน Toxic ไม่เล่นเกมของเขา รอเวลาให้ประตูของเขาเปิด แล้วค่อยเข้าไปเพื่อช่วยแก้ความคิดของเขาในจังหวะที่เหมาะสม

1 โครินธ์ 13:4-6 ความรักนั้นก็อดทนนานและมีใจปรานี ความรักไม่อิจฉา ไม่อวดตัว ไม่หยิ่งผยอง ไม่หยาบคาย ไม่เห็นแก่ตัว ไม่ฉุนเฉียว ไม่ช่างจดจำความผิด ไม่ชื่นชมยินดีในความอธรรม แต่ชื่นชมยินดีในความจริง

ความรักที่ถูกต้องที่อาจารย์เปาโลกล่าวไว้ ทำให้เราต้องแยกแยะด้วยว่าประเด็นต่างๆ ที่คน Toxic พูด ถูกหรือผิดอย่างไร ไม่ใช่เห็นด้วยคล้อยตามไปหมดทุกเรื่อง

3. บางครั้งความรักอาจหมายถึงการจำกัดขอบเขตเขา

หากคนคนเดียวที่ Toxic ลากเอากำลังใจของทั้งทีมดำดิ่งลงไปหมด เราอาจต้องจำกัดพื้นที่ความสัมพันธ์ของเขาเพื่อเขาจะมีเวลาพักสงบและทบทวนการกระทำของเขาเองเพื่อประตูใจเขาจะเปิดและถึงเวลาที่เราจะเข้าไปในจังหวะที่เหมาะสม

สุภาษิต 15:23 คนที่มีคำตอบเหมาะๆ ในปากย่อมยินดี คำเดียวที่ถูกกาลเทศะก็ดีจริงๆ

การจำกัดขอบเขต หมายถึงขอบเขตที่เขาสามารถส่งอิทธิพลในการทำร้ายผู้อื่น บางครั้งหมายถึงการแยกเขาออกไปจากทีมเป็นการชั่วคราวเพื่อให้เขาใช้เวลาไตร่ตรองทบทวนชีวิตในทางพระเจ้า เมื่อเขาพร้อมที่จะพูดคุย ให้เราเข้าไปพูดคุยตกลงกติกาในความสัมพันธ์ แล้วช่วยให้เขากลับมาในทีมงาน ให้เขาตั้งตัวได้อย่างมั่นคงในความตั้งใจที่เขามีเพื่อพระเจ้า

กาลาเทีย 6:1 พี่น้องทั้งหลาย แม้จับใครที่ละเมิดประการใดได้ พวกท่านซึ่งอยู่ฝ่ายพระวิญญาณ จงช่วยคนนั้นด้วยใจสุภาพอ่อนโยนให้เขากลับตั้งตัวใหม่ โดยคิดถึงตัวเอง เกรงว่าท่านจะถูกทดลองด้วย

4. ไม่มีใครสมบูรณ์ที่สุด เราทุกคนต้องการพระเยซูคริสต์เพื่อฉุดเราขึ้นมา

คนที่ช่วยฉุดคน Toxic ขึ้นมาอาจไม่ใช่คุณก็ได้ แต่คือพระเยซูคริสต์ที่รักและปรารถนาดีต่อทุกคนเสมอ 

ในเชิงจิตวิทยา พระเจ้าของคน Toxic อาจเป็นเพียงมโนภาพที่สูงส่งที่เขาสามารถพูดคุยความในใจได้ นั่นก็ดีประมาณหนึ่งเพราะอย่างน้อยเขาก็มีบางคนที่ยอมรับและกล้าเปิดตัวตนของเขา และในความเป็นจริง พระเจ้าทรงเป็นมากกว่ามโนภาพในใจ แต่ฤทธานุภาพของพระองค์สามารถช่วยเขาได้จริงๆ พระองค์จะฉุดเขาขึ้นมาจากความไม่สมบูรณ์หรือสภาพ Toxic นี้เหมือนที่ทรงฉุดเราขึ้นมาแล้วเช่นกัน

อย่างไรก็ตาม ความต้องการการช่วยเหลือขึ้นอยู่กับแต่ละคนด้วย ส่วนนี้ไม่สามารถบังคับใจกันได้ บางคนใช้เวลาไม่นานก็เปิดใจยอมรับความจริงว่าสิ่งที่เขาแสดงออกเป็นพิษต่อความสัมพันธ์กับผู้คน บางคนใช้เวลานานเป็นเดือนเป็นปี หรือบางคนก็อาจไม่ยอมรับอะไรเลยตลอดชีวิตของเขา

ลูกา 5:31-32 พระ​เยซู​ตรัส​ตอบ​พวก​เขา​ว่า “คน​สบาย​ไม่​ต้อง​การ​หมอ แต่​คน​เจ็บ​ป่วย​ต้อง​การ เรา​ไม่​ได้​มา​เพื่อ​เรียก​คน​ชอบ​ธรรม แต่​มา​เรียก​คน​บาป​ให้​กลับ​ใจ​ใหม่”

อ.ประยูร ลิมะหุตะเศรณี และอ.ศิรินันท์ กิตติเวทางศ์ ให้แนวทางการดูแลคน Toxic ในรายการ Christian Life Talk

ในคริสตจักรปกติจะไม่ค่อยมีปัญหาเรื่องนี้ เพราะโดยทั่วไปพี่น้องคริสเตียนมักจะรักห่วงใยผู้อื่น เราไม่ค่อยพบคนที่ตั้งใจจะปะทะกันอยู่ตลอดเวลา อย่างไรก็ตามก็อาจมีคนประเภทที่มักสร้างปัญหาอยู่บ่อยๆ ซึ่งนั่นเป็นนิยามของคำว่า Toxic ในความหมายนี้ แต่ก็มีน้อยมาก สิ่งที่คริสตจักรควรทำคือสร้างบรรยากาศตามแบบพระคัมภีร์ เปิดพื้นที่ปลอดภัยให้พี่น้องได้เปิดใจพูดคุยกัน สารภาพบาปต่อกัน แนะนำเสริมสร้างกัน แต่หากไม่ไหวจริงๆ การเข้าใจวิธีการบริหารจัดการคน Toxic ก็ควรนำมาพิจารณา

ความคิดเห็น