การอดอาหารอธิษฐานที่พระเจ้าทรงสดับ

การอดอาหารอธิษฐานในพระคัมภีร์เป็นประเพณียิวที่ทำเป็นเรื่องปกติชีวิตโดยเฉพาะช่วงที่ตั้งใจอธิษฐานต่อพระเจ้าเพื่อจุดประสงค์บางอย่าง พระเยซูไม่ได้ตำหนิการอดอาหารอธิษฐาน แต่ตรัสเหมือนเป็นเรื่องปกติที่ทำกัน เพียงแต่เตือนให้ระมัดระวังท่าทีไม่ให้เป็นการทำศาสนกิจเพื่ออวดอ้างต้องการการยอมรับจากมนุษย์ ไม่ใช่แสวงหาพระเจ้าอย่างแท้จริง

มัทธิว 6:16–18 "เมื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​ถือ​อด​อาหาร อย่า​ทำ​หน้า​เศร้า​หมอง​เหมือน​พวก​คน​หน้า​ซื่อ​ใจ​คด เพราะ​พวก​เขา​ทำ​หน้า​ให้​มอม​แมม เพื่อ​จะ​ให้​คน​เห็น​ว่า​เขา​ถือ​อด​อาหาร เรา​บอก​ความ​จริง​แก่​พวก​ท่าน​ว่า พวก​เขา​ได้​บำ​เหน็จ​ของ​เขา​แล้ว แต่​ท่าน​เมื่อ​ถือ​อด​อาหาร จง​ล้าง​หน้า​และ​เอา​น้ำ​มัน​ชโลม​ศีรษะ เพื่อ​คน​ทั้ง​หลาย​จะ​ไม่​รู้​ว่า​ท่าน​ถือ​อด​อาหาร แต่​ให้​ปรา​กฏ​แก่​พระ​บิดา​ของ​ท่าน ผู้​สถิต​ใน​ที่​ลับ และ​พระ​บิดา​ของ​ท่าน ผู้​ทอด​พระ​เนตร​เห็น​ใน​ที่​ลับ​จะ​ประ​ทาน​บำ​เหน็จ​แก่​ท่าน

การอดอาหารอธิษฐาน (Fasting and Praying) อาจทำได้โดยอดอย่างสมบูรณ์ทั้งอาหารและน้ำ อดแต่อาหารไม่อดน้ำ หรืออดอาหารบางประเภท โดยกำหนดช่วงเวลาเริ่มและจบไว้ล่วงหน้าเพื่อแสดงความตั้งใจ และที่สำคัญมีการกำหนดช่วงเวลาที่เราจะอธิษฐานไว้อย่างเจาะจงด้วย

อย่างไรก็ดี สิ่งที่สำคัญมากกว่านั้นคือท่าทีของเราในการอดอาหารอธิษฐาน เราจะรักษาท่าทีในการอดอาหารอธิษฐานอย่างไรเพื่อให้พระเจ้าทรงสดับ?

1.ยำเกรงพระเจ้าในวิถีชีวิต (อิสยาห์ 1:15; ฮีบรู 5:7)

ฮีบรู 5:7 ในระหว่างที่พระคริสต์ประทับในโลก พระองค์ทรงถวายคำอธิษฐาน และคำร้องขอด้วยเสียงดังและน้ำพระเนตรไหล ต่อพระเจ้าผู้ทรงสามารถช่วยพระองค์ให้พ้นจากความตายได้ และพระเจ้าทรงสดับเนื่องจากความยำเกรงของพระคริสต์

ความยำเกรงพระเจ้า ทำให้เราระมัดระวังชีวิตที่ดำเนินในความบริสุทธิ์ แสดงออกในการเชื่อฟังพระเจ้า นำพระวจนะไปใช้ในชีวิตจริงด้วยความเคารพในพระเจ้า

2. กลับใจจากบาปด้วยสุดหัวใจ (โยเอล 2:12–13)

โยเอล 2:12–13 พระยาห์เวห์ตรัสดังนี้ว่า "ถึงกระนั้นก็ดี บัดนี้ พวกเจ้าจงกลับมาหาเราด้วยสุดใจ ด้วยการอดอาหาร การร้องไห้ และการโอดครวญ จงฉีกใจของพวกเจ้า ไม่ใช่ฉีกเสื้อของเจ้า" จงกลับมาหาพระยาห์เวห์พระเจ้าของพวกท่าน เพราะว่าพระองค์ทรงเปี่ยมด้วยพระคุณและพระกรุณา พระองค์กริ้วช้าและบริบูรณ์ด้วยความรักมั่นคง และเปลี่ยนพระทัยไม่ลงโทษ

การกลับใจเป็นท่าทีที่ตัดสินใจอย่างรุนแรงที่จะไม่อยู่ในบาปอีกต่อไป เหมือนที่พระคัมภีร์ตอนนี้ให้ภาพเหมือนฉีกใจ ไม่ใช่ฉีกเสื้อที่เป็นวิธีแสดงความเสียใจของยิวในพระคัมภีร์

3. หันจากพฤติกรรมบาปทั้งปวง (อิสยาห์ 1:16–17; 58:3–4)

อิสยาห์ 58:3–4 "ทำไมพวกข้าพระองค์อดอาหาร แต่พระองค์ไม่ทอดพระเนตร? ทำไมพวกข้าพระองค์ถ่อมตัวลง แต่พระองค์ไม่สนพระทัย?" นี่แน่ะ ในวันที่เจ้าอดอาหารนั้น เจ้าทำตามใจเจ้า และบีบบังคับคนงานทั้งหมดของเจ้า นี่แน่ะ เจ้าอดอาหารเพียงเพื่อวิวาทและต่อสู้ และเพื่อต่อยด้วยหมัดอธรรม การอดอาหารอย่างเจ้าในวันนี้ จะไม่ทำให้เสียงของเจ้าได้ยินไปถึงที่สูง

ความยำเกรงพระเจ้า การกลับใจจากบาป การทิ้งพฤติกรรมบาป เป็นท่าทีที่พระคัมภีร์เน้นมากกว่าความสามารถในการอดอาหารอธิษฐาน เราจึงควรกลับมาพิจารณาชีวิตที่ดำเนินในวิถีชอบธรรมจำเพาะพระพักตร์พระเจ้า มากกว่าการอดอาหารอธิษฐานหรือการทำอะไรบางอย่างได้ในการรับใช้พระเจ้า

ช่วงเวลาแห่งการอธิษฐาน 40 วัน ซึ่งสมัยนี้วงการคริสเตียนเริ่มนิยมกำหนดไว้ทุกปีในแต่ละช่วง เช่น ช่วงก่อนวันอีสเตอร์ หรือช่วงก่อนวันคริสต์มาส 40 วัน ให้เราลองพิจารณาและตัดสินใจว่าจะเข้าร่วมอย่างไรและอย่างเข้าใจ เพื่อประสบการณ์ฝ่ายวิญญาณของเราจะเพิ่มพูนขึ้นจากความตั้งใจนี้ครับ

ความคิดเห็น