ซึมเศร้า ไบโพลาร์ โรคจิตเวชที่ไม่ควรมองข้ามในยุคนี้

โรคจิตเวช หรือโรคทางจิตเวช คือปัญหาที่เกี่ยวกับจิตใจ เกิดจากความผิดปกติของสมองที่ควบคุมเรื่องความคิด อารมณ์ และพฤติกรรม เช่น โรคซึมเศร้า โรคไบโพล่าร์ โรคจิตเภท โรควิตกกังวล โรคแพนิค โดยศาสตร์ความรู้เกี่ยวกับโรค และการรักษาเรียกว่าจิตเวชศาสตร์ และแพทย์ที่ศึกษาเฉพาะทางด้านนี้เรียกว่าจิตแพทย์

ปี 2017 WHO (World Health Organization) ระบุว่ามีผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ทั่วโลกประมาณ 280 ล้านคน โดย 3.8% ของประชากรโลกเคยมีประสบการณ์ในโรคนี้ มีการฆ่าตัวตายเพราะโรคซึมเศร้ามากกว่า 700,000 คน ต่อปี

สำหรับประเทศไทย กระทรวงสาธารณสุข รายงานไว้ในปี พ.ศ. 2551 พบผู้ป่วย 1.5 ล้านคน ปี 2564 ผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเป็น 2.3 ล้านคน เพิ่มเป็น 1.5 เท่าโดยประมาณ

โรคทางอารมณ์ (Mood Disorder) เป็นหนึ่งในโรคจิตเภทซึ่งเกี่ยวข้องกับอารมณ์ พบบ่อยและรบกวนผู้ป่วยตลอดจนคนใกล้ชิด ผู้ป่วยมีทั้งซึมเศร้า (Depression) คึกคัก (Mania หรือ Hypomania) และไบโพลาร์ (Bipolar diorder)

ซึมเศร้า (Depression)

อาการของโรคซึมเศร้า ได้แก่ เศร้า หดหู่ ซึม เบื่อหน่าย หงุดหงิด ฉุนเฉียว อ่อนไหวง่าย ขัดแย้งกับคนอื่นง่าย รู้สึกสิ้นหวัง ดูถูกตนเอง อาจมีอาการวิตกกังวล เครียด นั่งไม่ติด สมาธิลดลง ไม่อยากทำอะไร ไม่อยากอาหาร นอนไม่หลับ เหนื่อยล้า อ่อนเพลีย หมดแรง ขาดความมั่นใจในตัวเอง การตัดสินใจแย่ลง รู้สึกหมดหวัง และมีความคิดอยากตายหรืออยากฆ่าตัวตาย

คึกคักเป็นพิเศษ (Mania หรือ Hypomania)

จะอารมณ์ดีมาก รื่นเริง แต่ก็จะหงุดหงิดง่าย คิดหลายเรื่องในเวลาไล่เลี่ยกัน เป็นจอมโปรเจ็ก พลังงานเหลือล้น แต่สมาธิจะไม่ดี

ไบโพลาร์ หรือโรคสองขั้ว (Bipolar diorder)

เป็นความผิดปกติทางอารมณ์สองขั้ว คือซึมเศร้า และคึกคักเป็นพิเศษ ระยะพุ่งพล่านหรือเรียกว่า "มาเนีย" (Manic Episode) มีอาการคิดเร็ว ทำเร็ว มั่นใจในตัวเอง นอนน้อย เพราะอยากออกไปทำกิจกรรมต่าง ๆ อารมณ์พุ่งพล่าน ใช้เงินเยอะ ซึ่งอาจทำให้ผู้ป่วยและคนรอบข้างเข้าใจว่าเป็นแค่นิสัย "ไฮเปอร์" ไม่ใช่เรื่องผิดปกติ และอาจเป็นแบบนี้อยู่นานหลายสัปดาห์หรือเป็นเดือน เข้าสู่ระยะซึมเศร้า (Depressive Episode) ผู้ป่วยจะมีอาการตรงข้ามกับระยะมาเนีย คือท้อแท้เบื่อหน่ายไม่อยากทำอะไร เบื่ออาหารหรือกินมากกว่าปกติ รู้สึกตัวเองไร้ค่า สิ้นหวัง อ่อนเพลีย อยากฆ่าตัวตาย หรือทำร้ายตัวเอง และอาจเป็นอาการซึมเศร้าอยู่นานติดต่อกันเป็นเดือน แล้วจึงกลับไปคึกคักเหมือนระยะมาเนียอีกครั้ง

เราจะรู้ได้อย่างไรว่าเริ่มเจ็บป่วยแล้ว?

1. อารมณ์จะรุนแรงมากกว่าปกติ เช่น ถ้าสอบตกแล้วซึมเศร้า จะเศร้าเพราะสอบตก ลามไปถึงมองว่าชีวิตแย่มาก ล้มเหลว เป็นความผิดใหญ่มาก ไม่สมควรอยู่ในโลกนี้ หรือถ้าดีใจก็จะมากเกินไป

2. คงอยู่นาน เช่น อยากช้อปปิ้ง ต่อคิวนาน รอคอยอยากได้ แต่พอถึงเขา ของหมด เขาจะรู้สึกแย่และแย่อยู่นานมาก อาจจะนาน 1–2 สัปดาห์ หลายเคสถึงขนาดต้องเข้าโรงพยาบาล เศร้าอะไรก็เศร้านานมาก

3. รบกวนการใช้ชีวิต เช่น พวกคึกคัก จะอยากทำโน่นอย่างทำนี่ คิดอะไรทำทันทีแต่จะไม่สำเร็จสักอย่าง เพราะสมาธิสั้น ผิดบริบทผิดเวลาไปหมด ลุกขึ้นทำสวนกลางดึก พูดไม่หยุดจนผิดปกติ

เมื่อเราป่วยและดูแลตัวเองไม่ได้ดีนัก เป็นธรรมดามากที่เราจะไปหาหมอ เพราะยิ่งหาหมอไวก็ยิ่งหายไว แต่ตรงข้ามกับผู้ป่วยทางจิตมักจะไม่รีบไปหมอเพราะอาย

เรื่องนี้ค่านิยมทางสังคมต้องพยามเปลี่ยนแปลงยอมรับเรื่องนี้ให้ได้ว่ามีจริงในสังคมเรา และหากมีใครเป็นโรคทางจิตเภท คำแนะนำแรกสุดคือตัวญาติควรไปพบแพทย์ก่อน ขอคำแนะนำ จิตแพทย์จะแนะนำหลายเรื่องได้ จากนั้นไปถึงผู้ป่วย ชวนเขาคิด ค่อยๆ ชวนให้เขาเห็นภาวะทางจิตของตัวเอง ทักเขาเมื่อผิดปกติ เมื่อเขายอมรับเขาจะเปิดในการรักษา

โรคทางจิตเวชกำลังเป็นประเด็นชัดขึ้นเรื่อยๆ ในสังคมของเรา เราจำเป็นต้องรับรู้ สังเกต และเปิดใจกับเรื่องนี้

อ้างอิง

กรมสุขภาพจิต. (2562). "โรคซึมเศร้า" ทำใจพัง เช็กลิสต์สาเหตุและอาการ. ข้อมูลออนไลน์ https://dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=30114.

___________. (2565). รู้จัก "โรคไบโพลาร์" พร้อมวิธีสังเกตอาการและวิธีดูแลผู้ป่วย. ข้อมูลออนไลน์ https://dmh.go.th/news-dmh/view.asp?id=31809.

วงศ์อุดมมงคล, อังค์วรา, (จิตแพทย์).  (2566). รู้จักโรคจิตเภท โรคทางจิตที่ไม่ได้น่ากลัวอย่างที่คิด. โรงพยาบาลเปาโล.

[Christian Life Talk]. (2023, April 10). ซึมเศร้า ไบโพลาร์ พระเจ้าช่วยได้อย่างไร ตอนที่ 1 [Video]. https://www.Youtube.com/@Christianlifetalk323. https://www.youtube.com/watch?v=IcpiJfdYZl8.

World Health Organization. (2023, March 31). Depressive disorder (depression). https://www.who.int/news-room/fact-sheets/detail/depression.

ความคิดเห็น