จงเลือกสะสมทรัพย์สมบัติบนสวรรค์ก่อน

หากเราพิจารณาทางเลือกในการใช้ชีวิตคริสเตียนเป็น 2 ทางคือ 1) เลือกเดินในวิถีพระเจ้าติดตามพระองค์อย่างสุดใจ รักษาความเชื่อ เติบโตขึ้นในพระคุณ ไว้วางใจในพระเจ้าในการดำรงค์ชีวิต หรือ 2) เลือกวิถีแสวงหาทรัพย์สินเงินทองเป็นสำคัญ ลำดับการตัดสินใจย่อมแตกต่างกัน และผลการใช้ชีวิตจะแตกต่างอย่างสิ้นเชิงในที่สุด

พระคัมภีร์เตือนเพื่อให้เราฉุกคิดเรื่องทรัพย์สมบัติไว้อย่างไร?

1. พระเยซูทรงเตือนสติคนที่เลือกใช้ชีวิตเพื่อแสวงหาความมั่งมี ท้ายสุดจะว่างเปล่า (มัทธิว 6:19–21; 16:26; ลูกา 12:19–21)

มัทธิว 16:26 เพราะเขาจะได้ประโยชน์อะไร ถ้าได้สิ่งของหมดทั้งโลกแต่ต้องเสียชีวิตของตน? หรือคนนั้นจะนำอะไรไปแลกชีวิตของตนกลับคืนมา?

พระเยซูเล่าเรื่องเศรษฐีที่ใช้ทั้งชีวิตเพื่อสะสมทรัพย์สมบัติ ชีวิตและจิตใจของเขาคิดแต่เรื่องการสะสม การหาเพิ่มเติม แต่หารู้ไม่ว่าคนเราไม่ได้อยู่ค้ำฟ้า

ลูกา 12:19–21 แล้ว​จะ​บอก​กับ​จิต​ใจ​ของ​ข้า​ว่า "จิต​ใจ​เอ๋ย เจ้า​มี​ทรัพย์​สม​บัติ​มาก​เก็บ​ไว้​พอ​หลาย​ปี จง​อยู่​สบาย กิน ดื่ม และ​รื่น​เริง​เถิด" ' แต่​พระ​เจ้า​ตรัส​กับ​เขา​ว่า 'โอ คน​โง่ ใน​คืน​วัน​นี้​ชีวิต​ของ​เจ้า​จะ​ต้อง​เรียก​เอา​ไป​จาก​เจ้า แล้ว​ของ​ที่​เจ้า​รวบ​รวม​ไว้​นั้น​จะ​เป็น​ของ​ใคร?' คน​ที่​สะ​สม​ทรัพย์​สม​บัติ​ไว้​สำหรับ​ตัว และ​ไม่​ได้​มั่งมี​ฝ่าย​พระ​เจ้า​ก็​เป็น​เช่น​นั้น​แหละ"



2. การรักเงินทองเป็นกับดักที่น่าเย้ายวนใจแต่อันตรายถึงชีวิต (มัทธิว 4:8–10; 1 ทิโมธี 6:9–10)

1 ทิโมธี 6:9–10 ส่วนพวกที่อยากร่ำรวยก็ตกอยู่ในการล่อลวงและติดกับดักของความอยากมากมายที่โง่เขลาและอันตราย ซึ่งฉุดคนเราให้ลงไปสู่ความพินาศและความย่อยยับ เพราะว่าการรักเงินทองเป็นรากเหง้าของความชั่วทั้งหมด ความโลภเงินทองนี้ที่ทำให้บางคนหลงไปจากความเชื่อ และตรอมตรมด้วยความทุกข์มากมาย

กับดักจะล่อลวง พรางความอันตรายเพื่อให้เราเข้าไปและตกเป็นเหยื่อของโลกและมารซาตานในที่สุด ทางเลือกที่อันตรายถึงแก่ชีวิตคือการหลงไปกับทรัพย์สินเงินทองจนละทิ้งทางพระเจ้าไป

3. พระเจ้าเป็นเจ้าของสรรพสิ่ง ให้เราเชื่อและจัดลำดับชีวิตให้ถูกต้อง (สดุดี 24:1; ฟีลิปปี 4:19)

สดุดี 24:1 โลกกับสรรพสิ่งในโลกเป็นของพระยาห์เวห์ ทั้งพิภพกับบรรดาผู้ที่อยู่ในพิภพนั้น

คริสเตียนไม่จำเป็นต้องยากจน แต่จะเข้าใจลำดับการตัดสินใจในการเลือกทางพระเจ้าก่อน ไม่นมัสการเงินทอง ตระหนักว่าพระเจ้าเป็นเจ้าของสิ่งสารพัด

ฟีลิปปี 4:19 และพระเจ้าของข้าพเจ้าจะประทานทุกสิ่งที่จำเป็นแก่พวกท่านจากทรัพย์อันรุ่งโรจน์ของพระองค์ในพระเยซูคริสต์

4. พระเจ้าเข้าใจสภาพเศรษฐกิจของเราที่สุดและทรงห่วงใยเราเสมอ ให้เราไว้วางใจในพระองค์ (มัทธิว 6:33; ลูกา 12:6–7; 2 โครินธ์ 8:9)

ลูกา 12:6–7 นกกระจาบห้าตัวเขาขายสองอาส์ซาริอันไม่ใช่หรือ? และนกนั้นแม้สักตัวเดียวพระเจ้าก็ไม่ได้ทรงลืมเลย ถึงผมของพวกท่านก็ทรงนับไว้แล้วทุกเส้น อย่ากลัวเลย ท่านก็มีค่ามากกว่านกกระจาบหลายตัว



พระเจ้าเข้าใจความยากลำบากในการใช้ชีวิตของเราเสมอ การไว้วางใจพระเจ้าไม่ขัดแย้งกับการทำส่วนของเราอย่างดีที่สุด แต่ความเกียจคร้านไม่ทำอะไรเลยกลับเป็นการสะท้อนท่าทีเอาเปรียบพี่น้องและไม่ได้ไว้วางใจพระเจ้ามากกว่าเสียอีก

เปาโลหาเลี้ยงชีพด้วยการเย็บเต็นท์ที่เมืองโครินธ์

กิจการของอัครทูต 18:2–3 ท่าน​พบ​ยิว​คน​หนึ่ง​ที่​นั่น​ชื่อ​อาค​วิล​ลา​ซึ่ง​เกิด​ใน​แคว้น​ปอน​ทัส แต่​พึ่ง​มา​จาก​ประ​เทศ​อิตาลี​กับ​ภรร​ยา​ที่​ชื่อ​ปริส​สิล​ลา เพราะ​จักร​พรรดิ​คลาว​ดิ​อัส​มี​รับ​สั่ง​ให้​พวก​ยิว​ทั้ง​หมด​ออก​ไป​จาก​กรุง​โรม เปา​โล​จึง​ไป​หา​คน​ทั้ง​สอง ท่าน​อา​ศัย​และ​ทำ​งาน​อยู่​กับ​เขา​ทั้งสอง เพราะ​ว่า​ทั้ง​สอง​ฝ่าย​เป็น​ช่าง​ทำ​เต็นท์​ด้วย​กัน

เปาโลเตือนคริสเตียนที่มีความเกียจคร้านให้ทำงานหาเลี้ยงชีพ

2 เธสะโลนิกา 3:11–12 เพราะ​เรา​ได้​ยิน​ว่า​มี​บาง​คน​ใน​พวก​ท่าน​อยู่​อย่าง​เกียจ​คร้าน ไม่​ทำ​งาน​อะไร​เลย แต่​ชอบ​ยุ่ง​กับ​ธุระ​ของ​คน​อื่น เรา​กำ​ชับ​และ​เตือน​สติ​คน​เช่น​นั้น​ใน​พระ​นาม​พระ​เยซู​คริสต์​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ว่า ให้​เขา​ทำ​งาน​ด้วย​ใจ​สงบ​และ​หา​เลี้ยง​ชีพ​เอง

การตัดสินใจเลือกพระเจ้าก่อน จะส่งผลให้เกิดการตัดสินใจใช้ชีวิตเพื่อพระเจ้าและพระราชกิจของพระองค์ก่อน แต่ไม่ได้หมายความว่าให้เราทิ้งความรับผิดชอบชีวิต เรากลับต้องทำให้ดี สัตย์ซื่อ และด้วยความยำเกรงพระเจ้า และเมื่อเราเลือกทางแห่งชีวิต นิรันดร์ เราจะได้ชีวิตที่ครบบริบูรณ์


อ้างอิง

Talaya, Ramos. (2010). Soul Revival: A 40 Days’ Journey to the Feet of Christ. NV: Thomas Nelson, Inc.

ความคิดเห็น