มัทธิว 6:7
แต่เมื่อพวกท่านอธิษฐาน อย่าพูดพล่อยๆ ซ้ำซาก เหมือนบรรดาคนต่างชาติเพราะเขาคิดว่าพูดมากหลายคำ พระจึงจะโปรดฟัง
ตอนนี้พระเยซูสอนลักษณะการอธิษฐานว่าอย่าพูดพล่อยๆ ซ้ำซาก (vein repetitions) เหมือนคนต่างชาติ (ชนชาติอื่นที่ไม่ใช่ยิว) ที่ขอจากพระของเขาที่คิดว่าการใช้คำพูดเยอะๆ จะทำให้พระของเขาตอบ ถ้าเราอ่านจากข้อ 5 เราจะพบว่าพระเยซูยังวิจารณ์ลักษณะการอธิษฐานที่ไม่จริงใจของยิวด้วยคือชอบอธิษฐานในที่ที่คนจำนวนมากได้เห็นเพื่อจะมีคนชื่นชมว่าเป็นคนฝ่ายวิญญาณ
มัทธิว 6:5
เมื่อท่านทั้งหลายอธิษฐาน อย่าเป็นเหมือนพวกหน้าซื่อใจคด เพราะพวกเขาชอบยืนอธิษฐานในธรรมศาลาและตามมุมถนนต่างๆ เพื่อจะให้คนทั้งปวงเห็น เราบอกความจริงกับพวกท่านว่าพวกเขาได้รับบำเหน็จของเขาแล้ว
จุดเน้นของพระเยซูในเรื่องอธิษฐานคือพระองค์อยากให้เราอธิษฐานอย่างมีความหมายจากใจของเรามากกว่าการใช้คำมากมายโดยปราศจากความหมายในใจหรือเพียงแค่ทำให้เสร็จสิ้นตามพิธีกรรมทางศาสนาเท่านั้น และให้โฟกัสการอธิษฐานอยู่พระเจ้าจริงๆ ไม่ใช่ให้มนุษย์ชื่นมที่ได้อธิษฐานซึ่งพระเยซูตำหนิแรงว่าเป็นพวกหน้าซื่อใจคดเลยทีเดียว
อิสยาห์ 29:13
และองค์เจ้านายตรัสว่า “เพราะชนชาตินี้เข้ามาใกล้ด้วยปากของเขา และให้เกียรติเราด้วยริมฝีปากของเขา แต่ใจของเขาห่างไกลจากเรา เขานมัสการเราเหมือนเป็นระเบียบของมนุษย์ที่จำกันมา
ฉะนั้นเมื่ออธิษฐานอย่าทำเป็นพิธีให้มนุษย์ชื่นชม (อสย.29:13) ให้เราขอด้วยความเชื่อ (ยก.1:6) ขอต่อพระเจ้าโดยตรง (มธ.6:9) ขอในนามพระเยซู (ยน.14:13) อธิษฐานด้วยความถ่อมใจ (ลก.18:13) ด้วยความอุตสาหะ (ลก.18:1) ด้วยท่าทียอมจำนนต่อพระเจ้า (มธ.6:10)
มัทธิว 6:6
ส่วนท่านเมื่ออธิษฐานจงเข้าในห้องชั้นใน และเมื่อปิดประตูแล้ว จงอธิษฐานต่อพระบิดาของท่านผู้สถิตในที่ลี้ลับ และพระบิดาของท่านผู้ทอดพระเนตรเห็นในที่ลี้ลับจะประทานบำเหน็จแก่ท่าน
ให้เราอธิษฐานด้วยความเข้าใจและด้วยท่าทีที่ถูกต้อง เพราะคำอธิษฐานด้วยใจจริงเท่านั้นที่พระเจ้าจะสดับ (สดด.34:17)
ความคิดเห็น