ความแข็งแรงทั้งร่างกาย จิตใจ และจิตวิญญาณของคนเราถูกสร้างให้แข็งแรงผ่านอุปสรรคทั้งสิ้น เหมือนกัปตันเรือที่เก่งล้วนต้องผ่านทะเลมรสุมมาแล้วทั้งสิ้น
ชีวิตคริสเตียนไม่ได้เป็นชีวิตที่ราบเรียบไร้อุปสรรคแต่อย่างใด พระเจ้าทรงสัญญาว่าจะทรงสถิตกับเราทั้งหลายจนสิ้นยุค นั่นเป็นความมั่นใจลึกๆ ของเรา ทำให้คริสเตียนเกิดความสงบใจรักษาสันติสุขในชีวิตได้แม้จะต้องเผชิญสิ่งยากๆ ในชีวิตก็ตาม
อ.เปาโลหนุนใจเราให้เรามีทัศนะแง่บวกที่มาจากความเข้าใจชีวิตเมื่อต้องเผชิญความทุกข์ยากโรม 5:3-4 ยิ่งกว่านั้น เราก็ชื่นชมยินดีในความทุกข์ยากด้วย เพราะเรารู้ว่าความทุกข์ยากนั้น ทำให้เกิดความทรหดอดทน และความทรหดอดทนทำให้เห็นว่าเราเป็นคนที่พระเจ้าทรงใช้ได้…
อย่างไรก็ตามความทุกข์ยากในระดับสมรภูมิชีวิตก็ยากจริงๆ ที่คนๆ หนึ่งจะสามารถผ่านไปได้อย่างง่ายดายโดยไม่รู้สึกอะไรเลย
ลูกา 12:6–7 นกกระจาบห้าตัวเขาขายสองอาส์ซาริอันไม่ใช่หรือ? และนกนั้นแม้สักตัวเดียวพระเจ้าก็ไม่ได้ทรงลืมเลย ถึงผมของพวกท่านก็ทรงนับไว้แล้วทุกเส้น อย่ากลัวเลย ท่านก็มีค่ามากกว่านกกระจาบหลายตัว
ให้เราไว้วางใจในพระเจ้า ชีวิตเราประเสริฐกว่านกในอากาศ พระเจ้าสนใจเรา และพระองค์จะช่วยให้เราผ่านสถานการณ์ยากๆ ไปได้ หรือแม้หากเราไม่ผ่าน อย่างน้อยพระเจ้าก็ทรงสนใจและห่วงใยเราอย่างแน่นอน
รายการ Christian Life Talk ตอนพิเศษ ค่ายฮิมไทยแลนด์ "พลิกสมรภูมิชีวิต จากวิกฤติสู่ชัยชนะ" |
อาจารย์เจมส์ โลค ศิษยาภิบาลคริสตจักรฮิมสิงคโปร์ ผู้รับใช้ที่ผ่านวิกฤตมะเร็งมาได้อย่างไว้วางใจในพระเจ้าได้ให้ข้อคิดไว้อย่างน่าสนใจ
"โดยประสบการณ์แห่งพระคุณพระเจ้าที่สะสมตลอดชีวิตที่รู้จักพระเจ้า และการหนุนใจจากพี่น้องรอบข้าง จะช่วยให้เราก้าวผ่านปัญหายากๆ ไปได้อย่างมีกำลังใจ"
เรื่องนี้เป็นชีวิตจริง สมรภูมิจริง ประสบการณ์จริงที่คนๆ หนึ่งสามารถมีกำลังลุกขึ้นท่ามกลางความยากเข็ญของความทุกข์ทั้งกายและใจ 2 สิ่งที่เราสามารถเรียนรู้ได้จากประสบการณ์ชีวิตผู้รับใช้อย่างอาจารย์เจมส์คือ
1.ประสบการณ์แห่งพระคุณที่สะสมตลอดชีวิตที่รู้จักพระเจ้า
ยิ่งนานวัน ยิ่งสามารถไว้วางใจพระเจ้าท่ามกลางสถานการณ์ต่างๆ ได้ พระคุณพระเจ้าที่ประทานกำลังใจ ทางออกในอุปสรรคต่างๆ ทำให้ครั้งต่อไปเมื่อต้องเผชิญปัญหาลึกๆ ยังสามารถไว้วางใจในพระเจ้าได้ เรื่องนี้เป็นสิ่งที่ทุกคนต้องเรียนรู้ด้วยตัวเอง ประสบการณ์แห่งการไว้วางใจในพระเจ้าจะเกิดขึ้นจากท่าทีการเผชิญปัญหา เราจะเราวิตกกังวล แล้วหันหน้าพึ่งมนุษย์ หรือสามารถทำใจให้สงบนิ่ง หันไปหาพระเจ้า แล้วทำสิ่งต่างๆ ที่ควรทำอย่างดีที่สุดด้วยใจพึ่งพาพระเจ้าหรือไม่
อาจารย์กอบชัย จิราธิวัฒน์ให้ความคิดในเรื่องนี้ไว้ว่า ปัญหาต่างๆ สามารถผ่านได้ด้วยพระวจนะ หลักการในพระวจนะจะทำให้เราสามารถแยกแยะสิ่งต่างๆ ท่ามกลางสมรภูมิที่วุ่นวายได้ดี
2. การหนุนใจจากครอบครัวและพี่น้องในคริสตจักร
เมื่อมีปัญหา อย่าถอยออกจากความรักความผูกพันในความสัมพันธ์จากคนใกล้ชิดและพี่น้องในคริสตจักร ให้เราเข้าไป ขอการอธิษฐานเผื่อ ด้วยใจที่ไว้ใจในพระเจ้า แต่พระเจ้าทรงให้เราอยู่ในชุมชน ผูกพันรักกันและกัน การหนุนใจ ช่วยเหลือกันเท่าที่จะเป็นไปได้เป็นสิ่งที่สวยงามในคริสตจักร แม้บางครั้งช่วยไม่ได้ แต่อย่างน้อยการอธิษฐานเผื่อ การหนุนใจ การให้กำลังใจ จะช่วยให้เราผ่านเรื่องร้ายๆ ไปได้อย่างมีกำลังใจ
วิกฤติชีวิตอาจมีหลายเรื่องที่เราต้องเผชิญคนเดียวหรือเผชิญไปกับชุมชนของพระเจ้า
อาจารย์ชัยพฤกษ์ ผิวเรืองนนท์ รองประธาน HIM Thailand และศิษยาภิบาลคริสตจักรฮิมหาดใหญ่ ได้ให้ความคิดไว้อย่างน่าสนใจเมื่อต้องเผชิญวิกฤติในครอบครัว โดยเฉพาะการสูญเสียเสาหลักไปอย่างไม่คาดคิด เป็นสิ่งที่น่าประทับใจที่พี่น้องในคริสตจักร ชุมชนของพระเจ้า เข้ามาช่วยกัน แสดงน้ำใจในการช่วยเหลือดูแลครอบครัวที่สูญเสียอย่างเป็นธรรมชาติ สิ่งนี้สะท้อนถึงความรักกันและกันในชุมชนของพระเจ้าอย่างแท้จริง อาจารย์ชัยพฤกษ์หนุนใจทุกคนว่า
"แท้จริงความสัมพันธ์ครอบครัวไม่จำเป็นต้องรักษาภาพลักษณ์แต่อย่างใด การให้ความสัมพันธ์เปิดออกต่อชุมชนของพระเจ้า ทำให้พี่น้องสามารถเข้ามาช่วยเหลือในยามยากลำบากได้โดยเฉพาะในยามวิกฤติ ชุมชนของพระเจ้าจะเสริมสร้างแนะนำ ช่วยเหลือกันและกันจนผ่านอุปสรรคต่างๆ ไปได้ด้วยกัน"
ในอีกมุมหนึ่ง อาจารย์ยงยุทธ วิระพรสรรค์ ผู้ปกครอง HIM Thailand เล่าให้ฟังว่าช่วงหนึ่งของชีวิตท่าน ท่านเคยประสบวิกฤติการเงินโดยไม่ตั้งตัว ตอนนั้นนับว่ายากลำบากมากเพราะไม่สามารถหันไปพึ่งพาใครได้ ต้องทำงานหนัก ทำทุกอย่างเพื่อให้หลุดจากปัญหาทางการเงิน แม้จะลำบากใจก็พึ่งพาพระเจ้า ไม่เป็นภาระของพี่น้อง
สิ่งที่อาจารย์ยงยุทธแนะนำเพื่อให้ผ่านสมรภูมิการเงินไปได้อย่างมีชัยชนะคือ 1. ลดค่าใช้จ่าย 2. เพิ่มรายได้ 3. บริหารการเงิน 4. ขยันอดทน ยินดีทำงานหนัก ไม่เกี่ยงงาน ไม่เป็นภาระของพี่น้อง 5. เชื่อมั่นในการดูแลของพระเจ้าและพึ่งพาพระเจ้าเสมอ
คริสตจักรจริงๆ ควรใจกว้างในเรื่องนี้ คนที่ประสบวิกฤติชีวิต เราควรพร้อมยื่นมือเข้าช่วยเหลือ อย่างไรก็ตาม อาจารย์เปาโลแนะนำเรื่องนี้ไว้ คือนอกจากพี่น้องคริสเตียนในคริสตจักร พี่น้องในครอบครัวก็ควรเข้ามามีส่วนช่วยเหลือด้วย
1 ทิโมธี 5:16 ถ้าหญิงที่มีความเชื่อคนไหนมีญาติพี่น้องที่เป็นแม่ม่าย ก็ให้เธอช่วยเลี้ยงดูพวกนาง และอย่าให้เป็นภาระของคริสตจักรเลย เพื่อคริสตจักรจะได้สงเคราะห์พวกที่เป็นแม่ม่ายไร้ที่พึ่งจริงๆ
นอกจากนั้น อาจารย์ ดร.ชูชาติ ไชยสมบัติ ประธาน HIM Thailand ได้ให้แง่คิดในประเด็นวิกฤติความสัมพันธ์ระหว่างทีมงานรับใช้ซึ่งอาจะเกิดขึ้นเป็นประจำในการรับใช้พระเจ้าในคริสตจักรหรือองค์กร ปัญหาความสัมพันธ์ส่วนใหญ่มาจากการผิดใจกันและไม่ให้อภัยกัน เราต้องไม่ลืมว่าการให้อภัยและคืนดี เป็นกุญแจของการแก้ปัญหาความสัมพันธ์ เมื่อมีปัญหาไม่ใช่แยกย้ายแต่ต้องเข้าหา ให้เราขอโทษก่อนไม่ว่าความผิดของเราจะมากหรือน้อยนิดเพียงใด ขอคำแนะนำเพื่อร่วมแก้ปัญหาความขัดแย้ง อธิษฐานเผื่อกันและกัน
ไม่ว่าสมรภูมิชีวิตเราจะเป็นเรื่องอะไร พระเจ้าทรงทราบ พระองค์ทรงเข้าใจ ให้เราพึ่งพาพระเจ้าอย่างสุดหัวใจ ทำสิ่งที่เราต้องทำทันทีอย่างเต็มที่ด้วยใจพึ่งพาพระคุณพระเจ้า และอย่าลืมว่าพระเจ้านำเราเข้ามาเป็นส่วนหนึ่งของพี่น้องในชุมชนแห่งความเชื่อ พี่น้องพร้อมจะช่วยเราเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการหยิบยื่นสิ่งจำเป็นหรืออาจทำได้เพียงการหนุนใจ แต่นั่นอาจะช่วยเราได้มากให้เรามีกำลังใจผ่านพ้นอุปสรรคใหญ่โตในชีวิตไปได้อย่างมีชัยชนะ
ความคิดเห็น