คริสตจักรโปรเตสแตนท์มีค่อนข้างหลายหลาย รายละเอียดความเชื่อบางอย่างของแต่ละคริสตจักรอาจมีจุดเน้นที่แตกต่างกัน อย่างไรก็ตามมีมุมมองบางประเด็นที่จะช่วยให้เราพบคริสตจักรที่ดีท่ามกลางความหลากหลาย และหลายครั้งคริสตจักรที่ดีเกิดจากสมาชิกร่วมแรงร่วมใจช่วยกันสร้างให้เกิดคริสตจักรที่ดีขึ้นด้วยกัน
คริสตจักรที่มุ่งเน้นสอนสมาชิกให้ดำเนินชีวิตตามหลักการพระคัมภีร์เป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะคริสตจักรที่ดีจะติดตามพระเจ้า และจะช่วยให้สมาชิกสามารถติดตามพระเจ้า เราไม่ควรเลือกคริสตจักรตามใจตัวเองโดยเน้นที่ความสะดวกสบายของเราเพียงอย่างเดียว
ลักษณะของคริสตจักรที่ดีตามหลักการพระคัมภีร์มีอย่างน้อย 5 ประเด็น
1. มีหลักข้อเชื่อที่ถูกต้องตามหลักการพระคัมภีร์
เราสามารถศึกษาหลักข้อเชื่อของคริสตจักรได้จากหลักข้อเชื่อธรรมนูญคริสตจักร และตรวจสอบตามหลักพระคัมภีร์ คริสตจักรที่ดีปกติจะยืนหยัดในหลักข้อเชื่อ ไม่เปลี่ยนไปเปลี่ยนมา
1 เธสะโลนิกา 2:13 เราขอบพระคุณพระเจ้าเสมอ เพราะว่าเมื่อท่านทั้งหลายได้รับพระวจนะของพระเจ้า ซึ่งท่านได้ยินจากเรา ท่านไม่ได้รับไว้อย่างเป็นคำของมนุษย์ แต่ได้รับไว้ตามความเป็นจริง คือเป็นพระวจนะของพระเจ้า ซึ่งกำลังทำงานอยู่ภายในท่านที่เชื่อ
1 โครินธ์ 3:11 เพราะว่าใครจะมาวางรากอื่นอีกไม่ได้แล้ว นอกจากที่วางไว้แล้วคือพระเยซูคริสต์
2. มีความใส่ใจในการสร้างลักษณะชีวิตในทางพระเจ้าให้แก่สมาชิก
1 ทิโมธี 4:16 จงเอาใจใส่ทั้งตัวท่านและคำสอนของท่าน จงประพฤติสิ่งเหล่านี้อยู่เสมอ เพราะเมื่อทำอย่างนี้แล้ว ท่านจะสามารถช่วยทั้งตัวท่าน และทุกคนที่ฟังท่านให้รอดได้
ในมุมปฏิบัติหมายถึงคริสตจักรมีการสอนพระคัมภีร์อย่างดีเป็นระบบ มีการหนุนใจตักเตือนกันและกันเพื่อปกป้องฝูงแกะในทางของพระเจ้า มีการเลี้ยงดูฝ่ายวิญญาณ มีกลุ่มสร้างชีวิตหรือการประชุมกลุ่มย่อยที่ทุกคนสามารถเข้าร่วมได้เป็นประจำ
3. มีการรับใช้ตามพระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์
หมายถึงการให้ทุกคนมีส่วนรับใช้ตามของประทานเพื่อให้พระมหาบัญชาของพระคริสต์สำเร็จ
มัทธิว 28:19–20 เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงออกไปและนำชนทุกชาติมาเป็นสาวกของเรา จงบัพติศมาพวกเขาในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ และสอนพวกเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดที่เราสั่งพวกท่านไว้ และนี่แน่ะ เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค
คริสตจักรที่ดีต้องสนับสนุนสมาชิกให้มีส่วนรับใช้ตามของประทานด้วย
1 โครินธ์ 14:26 เพราะฉะนั้น พี่น้องทั้งหลายจะว่าอย่างไร? เมื่อพวกท่านมาชุมนุมกัน แต่ละคนก็มีเพลงสดุดี มีคำสอน มีคำวิวรณ์ มีการพูดภาษาแปลกๆ มีการแปลภาษาแปลกๆ จงทำทุกสิ่งเพื่อให้เขาเจริญขึ้น
4. มีคณะผู้นำที่ถูกแต่งตั้งจากลักษณะชีวิตที่ดีในทางพระเจ้า
ผู้นำคริสตจักรคือผู้รับใช้พี่น้อง คริสตจักรที่ดีตามหลักการพระคัมภีร์จะสนใจลักษณะชีวิตของผู้ที่จะขึ้นมาเป็นผู้นำมากกว่าปัจจัยอื่นเช่น ความสามารถ สถานภาพ หรือ อาวุโส ไม่ได้หมายความว่าจะละเลยคุณสมบัติเหล่านี้ แต่ลำดับความสำคัญสูงสุดจะเป็นลักษณะชีวิตที่ดีงามในทางพระเจ้าก่อน
ทิตัส 1:5–9 เหตุที่ข้าพเจ้าละท่านไว้ที่เกาะครีตนั้นก็เพื่อให้ท่านแก้ไขสิ่งที่ยังบกพร่องให้เรียบร้อย และแต่งตั้งบรรดาผู้ปกครองไว้ทุกเมืองตามที่ข้าพเจ้ากำชับท่าน คือคนที่ไม่มีข้อตำหนิ เป็นสามีของหญิงคนเดียว มีลูกๆ ที่เชื่อและไม่ถูกกล่าวหาว่าเป็นนักเลงหรือเป็นคนดื้อด้าน เพราะว่าผู้ปกครองดูแล ซึ่งเป็นผู้รับมอบฉันทะของพระเจ้า ต้องไม่มีข้อตำหนิ ไม่เย่อหยิ่ง ไม่อารมณ์ร้อน ไม่ดื่มสุรามึนเมา ไม่ชอบความรุนแรง และไม่เป็นคนโลภมักได้ แต่มีอัธยาศัยต้อนรับแขก รักความดี มีสติสัมปชัญญะ ชอบธรรม บริสุทธิ์ รู้จักบังคับใจตนเอง และยึดมั่นในพระวจนะอันสัตย์จริงตามคำสอน เพื่อจะสามารถหนุนใจด้วยคำสอนที่ถูกต้องและชี้แจงต่อพวกคนที่คัดค้าน
1 ทิโมธี 3:6 เขาจะต้องไม่ใช่คนที่เพิ่งกลับใจใหม่ เกรงว่าเขาจะยโส และถูกลงโทษเช่นเดียวกับมาร
5. มีกิจกรรมที่เหมาะสมตามหลักการในพระคัมภีร์
เช่น มีการนมัสการ พิธีมหาสนิท การเทศนาสั่งสอน เป็นต้น เรื่องความเหมาะสมนั้น อาจเป็นเรื่องสไตล์กิจกรรมของคริสตจักรด้วย เช่น สไตล์การนมัสการแบบคอนเสิร์ทหรือแบบอนุรักษ์นิยม, การเน้นคริสตจักรอนุชน ครอบครัว ผู้ใหญ่, อาคารสวยงามทันสมัยหรือเปล่า ฯลฯ
อย่างไรก็ดีสไตล์กิจกรรมของคริสตจักรอาจจะไม่ใช่สิ่งที่พิจารณาในลำดับต้นๆ แต่คริสตจักรเป็นของพระคริสต์และผู้เชื่อทุกคนเป็นเจ้าของคริสตจักร เราสามารถมีส่วนในการนำเสนอ ช่วยเหลือ สนับสนุน ให้เกิดการรับใช้และสไตล์ของรายการต่างๆ ที่เหมาะสมกับทุกคนได้ สไตล์ของคริสตจักรจะเป็นอย่างไรนั้นทุกคนในคริสตจักรสามารถมีส่วนร่วมกันในการสร้างขึ้นมาได้
โคโลสี 3:23 ไม่ว่าพวกท่านจะทำสิ่งใด ก็จงทำด้วยความเต็มใจเหมือนทำถวายองค์พระผู้เป็นเจ้า ไม่ใช่เหมือนทำต่อมนุษย์
ปัจจุบันสไตล์ของคริสตจักรถูกพัฒนาขึ้นมาก จากรูปแบบอนุรักษ์นิยมไปสู่รูปแบบที่ร่วมสมัย มีการใช้สื่อและเทคโนโลยีต่างๆ เข้ามา บางคริสตจักรมีการถ่ายทอดรอบนมัสการวันอาทิตย์ทางสื่อออนไลน์ ซึ่งอาจช่วยได้บ้างในบางครั้ง แต่อย่างไรก็ตามการเข้าโบสถ์ออนไลน์ไม่สามารถทดแทนการมาคริสตจักรได้เพราะไม่ได้ตอบโจทย์การรับการสร้างชีวิตในชุมชนคริสตจักรได้
ข้อมูลอ้างอิง
[1] ริค วอร์เรน. คริสตจักรที่เคลื่อนด้วยวัตถุประสงค์. กรุงเทพฯ: สถาบันคริสเตียนศึกษาและพัฒนาคริสตจักร. 2004.
[2] Kevin J. Conner. The Church in the New Testament. England: Sovereign World International. 1982.
[3] What should we look for in choosing a church home? [Available on] www.bible.org. May 2017.
[4] Stephen Altrogge. 6 Ways the Bible Tells Us What Church Should Look Like. [Available on] www.biblestudytools.com. June 2017.
ความคิดเห็น