18 พฤศจิกายน 1978 จิม โจนส์ (Jim Jones) ผู้นำคริสตจักร The Peoples Temple Christian Church Full Gospel เขาเป็นนักเทศน์หนุ่มไฟแรง บุคลิกน่าตาดี มีคาริสมา สามารถพูดโน้มน้าวใจคนได้เป็นอย่างดี อุดมการณ์ส่วนตัวของจิม โจนส์ คือความเชื่อมั่นฝักใฝ่ในหลักคิดมาร์กซิสต์ คอมวิวนิสต์ เขานำสมาชิกอย่างค่อยเป็นค่อยไปด้วยอุดมการณ์ส่วนตัวผสมกับอุดมการณ์เพื่อพระเจ้า
 |
| จิม โจนส์ |
 |
| โจนส์ทาวน์ (Jonestown), ประเทศกายานา |
2 ปี ต่อมา ในวันที่ 18 พฤศจิกายน 1978 เขาตัดสินใจโน้นมน้าวชุมชนที่โจน์ทาวน์ ด้วยการฆ่าตัวตายเพื่ออุดมการณ์ (revolutionary suicide) โดยท้าทายที่ประชุม “โลกนี้เต็มไปด้วยความชั่วร้าย การจากไปอยู่กับพระเจ้าเป็นทางเลือกที่ดีกว่า ทุกคนต้องตายในวันหนึ่ง แต่การตัดสินใจชิงเข้าสู่ความตายก่อนสามารถสร้างเงื่อนไขบางอย่างให้เกิดขึ้นในสังคมได้"
 |
| ภาพการสังหารหมู่ที่โจนส์ทาวน์ (Jonestown Massacre) |
จิม โจนส์ บอกที่ประชุมว่า "การตายเหมือนการเดินก้าวเข้าไปในเครื่องบินแล้วก็บินไป ใช้เวลาหน่อย ขอให้เงียบๆ แป๊ปเดียวก็ผ่านไปแล้ว จะไม่เจ็บอีกต่อไป...”
 |
| จิม โจนส์ และภรรยา นมัสการและเทศนาที่ The Peoples Temple โจนส์ทาวน์ |
ที่ประชุมเริ่มด้วยการร้องเพลงนมัสการพระเจ้าตามปกติ จิม โจนส์ เทศนา สั่งสอน เขาโน้มน้าวที่ประชุมทั้งหมดให้ฆ่าตัวตาย โดยพูดว่า "พรุ่งนี้คอมมิสนิสต์จะบุกมาที่โจนส์ทาวน์ จะไม่ไว้ชีวิตใครสักคน จะฆ่าลูกๆ ของคุณ การจากไปอยู่กับพระเจ้าตอนนี้ คืนนี้พร้อมๆ กันเป็นทางเลือกที่ผมคิดว่าดีที่สุดแล้ว หรือใครที่คิดว่ามีทางออกอื่นที่ดีกว่านี้ ที่ประชุมนิ่งเงียบ ดนตรีเล่นคลอ.." จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็นำยาพิษไซยาไนด์ที่ผสมน้ำออกมา แล้วบอกให้ทุกคนตัดสินใจเองว่าจะดื่มหรือไม่ โดยจิม โจนส์ พูดไปเรื่อยๆ..." จิม บอกให้พ่อแม่ให้เด็กดื่มก่อน ที่ประชุมทำตาม! เด็กๆ เริ่มมีอาการชัก เจ็บปวด ร้องไห้โอดครวน จิม โจนส์ พูด "ให้เด็กๆ นอนนิ่งๆ อีกแป๊ปเดียวก็ผ่านไปแล้ว การตายเหมือนการเดินเข้าเครื่องบินแล้วก็บินไป ใช้เวลาหน่อย ขอให้เงียบๆ แป๊ปเดียวก็ผ่านไปแล้ว จะไม่เจ็บอีกต่อไป...” จากนั้นพ่อแม่ก็ดื่มไซยาไนด์ตาม บางคนที่ไม่ยอมดื่มถูกยิงด้วยปืนโดยทีมงานของโบสถ์
 |
| ภาพการสังหารหมู่ที่โจนส์ทาวน์ (Jonestown Massacre) |
 |
| ชีวิตในโจนส์ทาวน์ก่อนวันสังหารโหด |
ผมได้ฟัง death tape หรือเสียงแห่งความตาย 45 นาที สุดท้ายของชุมชนโจนส์ทาวน์ ที่มีการค้นพบไม่กี่วันหลังเกตุการณ์นี้ สิ่งที่น่าใจหายคือ "ขณะที่จิม โจนส์กำลัง พูดกับที่ประชุมให้ฆ่าตัวตาย มีเสียงสนับสนุนจิมเป็นช่วงๆ ดนตรีเล่นเพลงนมัสการไปเรื่อยๆ สลับกันเสียงกีดร้องของเด็กๆ เสียงสนับสนุนของผู้คน เสียงการหว่านล้อมอย่างนุ่มนวลของจิม โจนส์ และในทาทีสุดท้าย เสียงก็เงียบไป แม้กระทั่งเสียงของนักดนตรี...”
"ชีวิตเป็นของพระเจ้า ผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณจะต้องนำชีวิตพี่น้องคริสเตียนให้เกิดผลเพื่อพระเจ้าไม่ใช่เพื่ออุดมการณ์ของตัวเอง"
เราอาจจะพูดเก่ง โน้มน้าวใจเก่ง มีความสามารถ มีคาริสมา คนอยากทำงานด้วย และใครทำงานกับเราเขาก็คิดว่าเขาอยู่ฝ่ายพระเจ้า แต่เราต้องกลับมาคิดให้ดีว่าเรานำฝูงแกะในวัตถุประสงค์ของพระเจ้าหรือเปล่า หรือเรานำเพื่อตอบสนองความต้องการของตัวเราเอง
1 เปโตร 5:2-3 จงเลี้ยงฝูงแกะของพระเจ้าที่อยู่ท่ามกลางพวกท่าน โดยเอาใจใส่ดูแล ไม่ใช่ด้วยความฝืนใจ แต่ด้วยความเต็มใจ ตามพระประสงค์ของพระเจ้า ไม่ใช่ด้วยใจโลภในทรัพย์สิ่งของ แต่ด้วยใจกระตือรือร้น และไม่เป็นเหมือนผู้ใช้อำนาจบาตรใหญ่ข่มขี่ผู้ที่อยู่ในความดูแล แต่ให้เป็นแบบอย่างแก่ฝูงแกะนั้น
1 ยอห์น 4:1-3 ท่านที่รักทั้งหลาย อย่าเชื่อทุกๆ วิญญาณ แต่จงพิสูจน์วิญญาณนั้นๆ ว่ามาจากพระเจ้าหรือไม่ เพราะว่ามีผู้เผยพระวจนะเท็จจำนวนมากได้ออกมาในโลก พวกท่านก็จะรู้จักพระวิญญาณของพระเจ้าโดยข้อนี้ คือวิญญาณทุกดวงที่ยอมรับว่าพระเยซูคริสต์ได้เสด็จมาเป็นมนุษย์ วิญญาณนั้นก็มาจากพระเจ้า และวิญญาณทุกดวงที่ไม่ยอมรับพระเยซู วิญญาณนั้นก็ไม่ได้มาจากพระเจ้า วิญญาณนั้นแหละเป็นศัตรูของพระคริสต์ ซึ่งพวกท่านได้ยินว่าจะมา และขณะนี้ก็อยู่ในโลกแล้ว
ขอพระเจ้าเป็นกำลังใจให้ผู้นำฝ่ายวิญญาณทุกคนที่ยำเกรงพระเจ้า และขอให้เรื่องนี้เป็นเครื่องย้ำเตือนให้เราระมัดระวังใจเราเสมอครับ
ความคิดเห็น