โดยกนก ลีฬหเกรียงไกร
เปาโลได้เขียนถึงทิโมธีให้ตระหนักถึงคุณสมบัติในการเป็นผู้ปกครองคริสตจักรเพื่อให้ทิโมธีสอนและเน้นย้ำให้ผู้นำฝ่ายวิญญาณในคริสตจักรตั้งใจเป็นแบบอย่างในสิ่งเหล่านี้มากขึ้น
เปาโลนอกจากจะประกาศและสอนพระคัมภีร์แล้ว เรายังพบว่าเปาโลมักให้ข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์ภาคปฏิบัติในชีวิตจริง และมากกว่านั้ันหลายข้อเป็นการตักเตือนสติทั้งเบาและแรง นั่นคือโมเดลในการสร้างชีวิตสาวกของเปาโลที่พบได้ในจดหมายฝากทุกฉบับ
คุณสมบัติของผู้นำฝ่ายวิญญาณ (1 ทิโมธี 3:2-7)
1. แบบอย่างจริยธรรมส่วนตัว (ข้อ 2)
-ไม่มีที่ติในความตั้งใจและชีวิตในทางพระเจ้า
-รู้จักประมาณตนในเรื่องการใช้เงินและการใช้ชีวิต
-มีสติสัมปชัญญะ
-เป็นคนน่านับถือ มีอัธยาศัยต้อนรับแขก เหมาะที่จะเป็นอาจารย์
2. แบบอย่างจริยธรรมในสังคม การปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง (ข้อ 3)
-ไม่เป็นคนขี้เหล้า ไม่ติดยาเสพติด ไม่เล่นการพนัน
-เป็นคนรู้จักการผ่อนหนักผ่อนเบา ไม่สร้างบรรยากาศให้เกิดการทะเลาะวิวาท
-ไม่เป็นคนเห็นแก่เงิน
3. แบบอย่างการดูแลครอบครัว (ข้อ 2, 4-5)
-ไม่มีเมียน้อยหรือมีชู้ (ยุคนี้ต้องไปถึงเรื่องกิ๊ก เรื่อง LGBT และการสื่อสารในสื่อโซเชี่ยลด้วยที่จะไม่ส่อไปในเรื่องชู้สาว)
-อบรมบุตรได้ดี ให้รู้จักความถ่อมสุภาพเสมอ เวลามาโบสถ์ไม่วิ่งไปมา ไม่แกล้งเพื่อนหรือใช้ความรุนแรงกับเพื่อน มีชีวิตเคารพยำเกรงพระเจ้าและผู้ใหญ่ในโบสถ์
-ตระหนักว่าหากเราปกครองครอบครัวไม่ดี เราจะไม่สามารถปกครองคริสตจักรได้ดีด้วย
4. แบบอย่างชีวิตในทางพระเจ้า ความเติบโตในฝ่ายวิญญาณ (ข้อ 6-7)
-ไม่มีที่ติในชีวิตในทางพระเจ้า
-ไม่หยิ่งยะโส มีชื่อเสียงดีต่อคนภายนอกว่าเป็นคนมีคุณธรรมจริยธรรม
ผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณในคริสตจักรไม่เหมือนผู้นำทั่วไป เพราะต้องอาศัยการยอมรับ ความศรัทธาจากคนรอบข้างในการขับเคลื่อนพระราชกิจของพระเจ้า ฉะนั้นชีวิตตามคุณสมบัติฝ่ายวิญญาณเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
คริสตจักรเป็นชุมชนแห่งความเชื่อที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย เขากำลังจ้องมองชีวิตของหัวหน้าที่นำเขา ชีวิตผู้นำจึงต้องดำเนินอย่างถูกต้องทั้งภายในและภายนอกตามหลักพระคัมภีร์ด้วยความจริงใจของเราเสมอ
อ้างอิง:
Longenecker, Richard N. The Ministry and Message of Paul
Zuck, Roy B. Teaching as Paul Taught
เปาโลได้เขียนถึงทิโมธีให้ตระหนักถึงคุณสมบัติในการเป็นผู้ปกครองคริสตจักรเพื่อให้ทิโมธีสอนและเน้นย้ำให้ผู้นำฝ่ายวิญญาณในคริสตจักรตั้งใจเป็นแบบอย่างในสิ่งเหล่านี้มากขึ้น
เปาโลนอกจากจะประกาศและสอนพระคัมภีร์แล้ว เรายังพบว่าเปาโลมักให้ข้อแนะนำที่เป็นประโยชน์ภาคปฏิบัติในชีวิตจริง และมากกว่านั้ันหลายข้อเป็นการตักเตือนสติทั้งเบาและแรง นั่นคือโมเดลในการสร้างชีวิตสาวกของเปาโลที่พบได้ในจดหมายฝากทุกฉบับ
![]() |
พระเยซูทรงล้างเท้าสาวกและบอกเขาว่าให้ทำอย่างนี้กับคนอื่นด้วย |
1. แบบอย่างจริยธรรมส่วนตัว (ข้อ 2)
-ไม่มีที่ติในความตั้งใจและชีวิตในทางพระเจ้า
-รู้จักประมาณตนในเรื่องการใช้เงินและการใช้ชีวิต
-มีสติสัมปชัญญะ
-เป็นคนน่านับถือ มีอัธยาศัยต้อนรับแขก เหมาะที่จะเป็นอาจารย์
2. แบบอย่างจริยธรรมในสังคม การปฏิสัมพันธ์กับผู้คนรอบข้าง (ข้อ 3)
-ไม่เป็นคนขี้เหล้า ไม่ติดยาเสพติด ไม่เล่นการพนัน
-เป็นคนรู้จักการผ่อนหนักผ่อนเบา ไม่สร้างบรรยากาศให้เกิดการทะเลาะวิวาท
-ไม่เป็นคนเห็นแก่เงิน
3. แบบอย่างการดูแลครอบครัว (ข้อ 2, 4-5)
-ไม่มีเมียน้อยหรือมีชู้ (ยุคนี้ต้องไปถึงเรื่องกิ๊ก เรื่อง LGBT และการสื่อสารในสื่อโซเชี่ยลด้วยที่จะไม่ส่อไปในเรื่องชู้สาว)
-อบรมบุตรได้ดี ให้รู้จักความถ่อมสุภาพเสมอ เวลามาโบสถ์ไม่วิ่งไปมา ไม่แกล้งเพื่อนหรือใช้ความรุนแรงกับเพื่อน มีชีวิตเคารพยำเกรงพระเจ้าและผู้ใหญ่ในโบสถ์
-ตระหนักว่าหากเราปกครองครอบครัวไม่ดี เราจะไม่สามารถปกครองคริสตจักรได้ดีด้วย
4. แบบอย่างชีวิตในทางพระเจ้า ความเติบโตในฝ่ายวิญญาณ (ข้อ 6-7)
-ไม่มีที่ติในชีวิตในทางพระเจ้า
-ไม่หยิ่งยะโส มีชื่อเสียงดีต่อคนภายนอกว่าเป็นคนมีคุณธรรมจริยธรรม
ผู้นำฝ่ายจิตวิญญาณในคริสตจักรไม่เหมือนผู้นำทั่วไป เพราะต้องอาศัยการยอมรับ ความศรัทธาจากคนรอบข้างในการขับเคลื่อนพระราชกิจของพระเจ้า ฉะนั้นชีวิตตามคุณสมบัติฝ่ายวิญญาณเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
คริสตจักรเป็นชุมชนแห่งความเชื่อที่ประกอบไปด้วยผู้คนหลากหลาย เขากำลังจ้องมองชีวิตของหัวหน้าที่นำเขา ชีวิตผู้นำจึงต้องดำเนินอย่างถูกต้องทั้งภายในและภายนอกตามหลักพระคัมภีร์ด้วยความจริงใจของเราเสมอ
อ้างอิง:
Longenecker, Richard N. The Ministry and Message of Paul
Zuck, Roy B. Teaching as Paul Taught
ความคิดเห็น