7 สิ่งที่ผมได้เรียนรู้ในปี 2019

โดย กนก ลีฬหเกรียงไกร
1. ความรู้อาจทำให้คนเปลี่ยนแปลง แต่ความรักจะประคับประคองการเปลี่ยนแปลงให้ยั่งยืน
คนเราถ้าจริงใจกับพระเจ้าเขาอยากเดินกับพระเจ้า ไม่มีใครอยากอยู่กับที่ การให้ความรู้พระวจนะเป็นสิ่งดีเยี่ยม แต่ความรักความสัมพันธ์ที่ดีจะทำให้พี่น้องก้าวเดินไปด้วยกันอย่างยั่งยืน ความจริงภาพของการเติบโตจนถึงความไพบูลย์ของพระคริสต์ไม่ใช่เป็นภาพของคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นภาพของทั้งพระวรกายทั้งหมดไปด้วยกัน

2. ถ้าเราฟัง อย่าเป็นน้ำเต็มแก้ว ถ้าเราสอน อย่าเป็น เหยือกไร้น้ำ
เปิดใจฟังกันและกัน อย่าถือว่าตัวเองมีภูมิสูงกว่าคนอื่น ฟังแล้วใช่ก็รับ ฟังแล้วไม่ใช่ก็เฉยบ้างก็ได้ไม่ต้องไปตั้งแง่ว่าจะโต้ตอบตลอด ส่วนการสอน หากเราไม่รู้เราจะสอนได้อย่างไร ฉะนั้นหากเราเป็นผู้สอน จำเป็นต้องเรียนรู้ให้มากเข้าไว้

3. เรียนรู้โดยไม่คิดจะสูญเปล่า คิดโดยไม่เรียนรู้จะเป็นอันตราย
ระวังจะเสียเวลาเรียนหากไม่คิดในสิ่งที่เราเรียนให้ตกผลึก และระวังจะเป็นคนที่ต่อต้านการเรียน เพราะกรอบความคิดที่ไม่มีหลักจะเป็นอันตรายมาก คำสอนผิดหลายครั้งเริ่มจากตรงนี้

4. อ่านหนังสือหลับบ้างอ่านบ้างดีกว่าไม่แตะเลย
ผมอ่านหนังสือปีหนึ่งประมาณ 20-30 เล่ม คนคงมีมโนภาพว่าผมคงอ่านแบบโฟกัสได้ตลอดเวลา แต่จริงๆ ก็อ่านไปหลับไปก็เยอะ แต่การอ่านทำให้ผมได้ประสบการณ์ใหม่มากมาย ที่แน่ๆ ถ้าไม่อ่านเลย ปีๆ หนึ่งมันก็ผ่านไปเหมือนกัน และผ่านไปอย่างรวดเร็วเสียด้วย

5. งานรับใช้ต้องเสริมสร้างพี่น้อง ไม่ใช่ทำลายกันเองเพราะมุ่งแต่งาน
เราคงเคยเห็นพี่น้องทะเลาะกัน ตำหนิกัน ประชดประชันกัน หรือลีฟกรุ๊ปเพราะงานรับใช้มาเยอะแล้ว ขอบอกว่างานรับใช้ต้องเสริมสร้าง ไม่ใช่ทำให้พี่น้องฟ้องผิด รู้สึกเฟล ถ้าจะทำงานเพื่องาน น่าจะหางานข้างนอกทำดีกว่า เพราะงานรับใช้ต้องสนับสนุนให้เกิดชีวิตแม้จะมีการสอนงานบ้างแต่ถ้าสอนหรือเตือนด้วยใจอยากเสริมสร้างก็ไม่จำเป็นต้องไปเรื่องใคร ใช่ไหมครับ

6. อย่าปฏิเสธหรือตอบรับบทบาทหน้าที่เร็วไป คุณไม่มีทางรู้ว่าพระเจ้าอาจมีพระประสงค์เบื้องหลังได้ทั้งสองทาง
น้ำพระทัยพระเจ้ามักเป็นเรื่องที่น่าค้นหาเสมอตลอดเส้นทางแห่งความเชื่อของเรา เวลาที่หัวหน้ามอบหมายบทบาทหน้าที่หรือตำแหน่ง ไม่แน่ บางทีพระเจ้าอาจจะต้องการใช้เราให้เป็นพรต่อคริสตจักรก็ได้ การรับงานทันทีอาจจะแสวงหาตำแหน่งเกินไป แต่การปฏิเสธทันทีอาจกลายเป็นอย่างโยนาห์ที่หนีไปเมืองทารชิช คิดให้ดีๆ แสวงหาน้ำพระทัยด้วยความเชื่อแล้วตัดสินใจให้ดี

7. ครอบครัวคือคนแรกและคนสุดท้ายที่คุณจะเจอทุกวัน เราต้องดูแลเขาให้ดี
อย่าลืมว่าครอบครัวเป็นคนสำคัญ หากเราปกครองดูแลครอบครัวไม่ดีเราจะไปปกครองดูแลผู้อื่นได้อย่างไร ฉะนั้นไม่ว่าคุณจะมีงานรับใช้มากมายหรือคุณได้เสียสละเวลาเพื่อเสริมสร้างพี่น้องในคริสตจักร แต่อย่าลืมครอบครัวคืของคุณคือคนแรกและคนสุดท้ายที่คุณจะเจอทุกวัน เราต้องดูแลเขาให้ดี พระคัมภีร์เตือนเราว่าคนที่ไม่เลี้ยงดูคนในครอบครัวให้ดีก็ชั่วยิ่งกว่าคนที่ไม่เชื่อเสียอีก (1 ทธ.5:8)

ความคิดเห็น