จงเฉลียวฉลาดเหมือนงู และไม่มีพิษมีภัยเหมือนนกพิราบ

โดย กนก ลีฬหเกรียงไกร
ตอนหนึ่งที่พระเยซูทรงใช้สาวกให้ออกไปทำพันธกิจในการประกาศข่าวประเสริฐแก่พวกยิว พระองค์ได้ให้คำแนะนำหลายอย่าง และเรื่องหนึ่งที่หลายคนอาจสงสัยว่าพระองค์หมายความว่าอะไร
นี่แน่ะ เราใช้ท่านทั้งหลายไปดุจแกะอยู่ท่ามกลางพวกหมาป่า เพราะฉะนั้นจงเฉลียวฉลาดเหมือนงู และไม่มีพิษมีภัยเหมือนนกพิราบมัทธิว 10:16
ข้อนี้หมายความว่าอย่างไร?
1. แกะท่ามกลางพวกหมาป่า
ที่ที่พระเยซูทรงใช้สาวกไป เขาจะเป็นเหมือนแกะท่ามกลางพวกหมาป่า ในบริบทเจาะจงตอนนี้ พระองค์กำลังเปรียบเทียบถึงภัยอันตรายที่อาจมาถึงสาวกในการปรนนิบัติรับใช้ในงานพันธกิจเหมือนสาวกเป็นแกะที่ไม่มีพิษสง ไม่มีเขี้ยวเล็บ ต้องการผู้เลี้ยงแต่ไม่มี และอยู่ท่ามกลาง "ฟาริสี ปุโรหิต ธรรมาจารย์ และนักการศาสนาทั้งหลาย" ซึ่งเขาเหล่านั้นมีอำนาจที่สามารถทำลายสาวกได้อย่างง่ายดาย

แม้จะดูเหมือนอันตราย แต่สิ่งนี้จำเป็นในการเตรียมสาวกให้พร้อมในงานรับใช้ในวันหนึ่งที่พระเยซูจะต้องถูกตรึงบนไม้กางเขน ฟื้นจากความตาย และเสด็จขึ้นสู่สวรรค์ เวลานั้นสาวกจะต้องพร้อมในการเผชิญต่อสถานการณ์ต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นในสมรภูมิการรับใช้ที่หนักหน่วง

2. เฉลียวฉลาดเหมือนงู และไม่มีพิษมีภัยเหมือนนกพิราบ
คำว่า "เฉลียวฉลาดเหมือนงู" จอห์น แม็กอาเธอร์ (Macarthur, 1987: 201) ได้ให้ความเห็นว่าเป็นสำนวนภาษิตของอียิปต์ที่นิยมในสมัยนั้นซึ่งเปรียบเทียบลักษณะนิสัยของงูในความมีสติปัญญา เฉลียวฉลาด เจ้าเล่ห์ และระมัดระวังตัว ส่วน "นกพิราบ" หมายถึงความไม่มีพิษมีภัย สุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตน ซึ่งเป็นลักษณะชีวิตที่แท้จริงภายในคนของพระเจ้า แต่เมื่อเราพิจารณาให้ดีเราจะพบว่า พระเยซูคาดหวังให้เรามีคุณสมบัติทั้งสองไปด้วยกัน คือเป็นผู้รับใช้พระเจ้าที่มีสติปัญญา เฉลียวฉลาด เจ้าเล่ห์ (อาจจะดูไม่คุ้นเคย) และระมัดระวังตัว ขณะเดียวกันก็มีใจภายในที่ไม่มีพิษมีภัย สุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตน และอย่าลืมว่าบริบทดังกล่าวเป็นบริบทของการถูกส่งออกไปรับใช้พระเจ้าในพันธกิจการประกาศข่าวประเสริฐ จึงไม่ใช่เป็นคำสั่งให้คริสเตียนต้องเป็นอย่างนั้นตลอดเวลาทุกสถานการณ์ ทุกหนแห่งไว้เว้นแม้แต่ในคริสตจักร

สถานการณ์ที่ใช่และไม่ใช่
1. ความเฉลียวฉลาดเหมือนงูไม่ใช่เป็นการปฏิบัติกับพี่น้องคริสเตียน
ผู้รับใช้พระเจ้าควรมีสติปัญญา เฉลียวฉลาด เจ้าเล่ห์ และระมัดระวังตัว ขณะเดียวกันก็มีใจภายในที่ไม่มีพิษมีภัย สุภาพ อ่อนน้อมถ่อมตน
"จงปฏิบัติต่อคนภายนอกด้วยสติปัญญา โดยใช้โอกาสให้เป็นประโยชน์" โคโลสี 4:5
สิ่งที่เปาโลแนะนำอยู่ในบริบทคล้ายกับพระเยซูส่งสาวกออกไปทำงานพันธกิจคือบริบทของการรับใช้ในการประกาศข่าวประเสริฐแก่คนภายนอก ซึ่งภายนอกเป็นการย้ำให้ตระหนักว่าไม่ใช่คนภายในหรือพี่น้องในคริสตจักร
"เมื่อพวกท่านได้ชำระจิตใจให้บริสุทธิ์แล้วด้วยการเชื่อฟังความจริง จนมีใจรักพี่น้องอย่างจริงใจ พวกท่านจงรักกันให้มากด้วยน้ำใสใจจริง" 1 เปโตร 1:22
ใจอ่อนสุภาพเหมือนกพิราบ เป็นสิ่งจริงแท้ภายในของคริสเตียน เป็นสิ่งที่พี่น้องควรมีให้แก่กัน และในความจริงถ้าคนภายนอกสังเกตให้ดีจะพบลักษณะนี้อยู่ในชีวิตคริสเตียนเสมอแม้ภายนอกจะดูฉลาดรอบรู้และมีปัญญา

2. ความเฉลียวฉลาดเหมือนงูไม่ใช่มีไว้เพื่อตนเอง แต่เพื่อนำคนทั้งหลายมาพบพระคุณความรักของพระเจ้า
เปาโลประพฤติต่อคนนอกด้วยสติปัญญา โดยยอมปรับตัวเข้ากับคนทุกประเภท เพื่อช่วยให้เขามาถึงความรอดในทางพระคริสต์
ข้าพเจ้าทำทุกอย่าง เพราะเห็นแก่ข่าวประเสริฐเพื่อข้าพเจ้าจะได้มีส่วนในข่าวประเสริฐนั้น ต่อพวกยิวข้าพเจ้าก็เป็นเหมือนยิว เพื่อจะได้พวกยิวมา ต่อพวกที่อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ ข้าพเจ้าก็เป็นเหมือนคนอยู่ใต้ธรรมบัญญัติ (แต่ตัวข้าพเจ้าไม่ได้อยู่ใต้ธรรมบัญญัติ) เพื่อจะได้พวกที่อยู่ใต้ธรรมบัญญัตินั้นมา ต่อพวกที่อยู่นอกธรรมบัญญัติข้าพเจ้าก็เป็นเหมือนคนนอกธรรมบัญญัติ (ข้าพเจ้าไม่ได้อยู่นอกพระบัญญัติของพระเจ้า แต่อยู่ใต้พระบัญญัติแห่งพระคริสต์) เพื่อจะได้พวกที่อยู่นอกธรรมบัญญัตินั้นมา ต่อพวกคนอ่อนแอข้าพเจ้าก็เป็นคนอ่อนแอเพื่อจะได้พวกคนอ่อนแอมา ข้าพเจ้ายอมเป็นคนทุกแบบต่อทุกคน เพื่อช่วยบางคนให้รอดโดยทุกวิถีทาง” 1 โครินธ์ 9:20-23
3. ความเฉลียวฉลาดเหมือนงูไม่ล้ำเส้นจริยธรรมที่ถูกต้องในทางพระเจ้า
เหตุการณ์ครั้งหนึ่งในกิจการฯ บทที่ 23 เปาโลถูกจับที่เยรูซาเล็มและถูกนำมาอยู่ต่อหน้าสภาแซนเฮดริน เปาโลเพ่งดูบรรดาสมาชิกสภา เพ่งดูด้วยการพิจารณาว่าจะพูดอย่างไรด้วยสติปัญญา แต่เมื่อถูกสั่งให้ตบบาก เปาโลตอบโต้ด้วยคำต่อว่าที่เต็มด้วยสติปัญญา ความเฉลียวฉลาด ความระมัดระวังตัว แต่เต็มไปด้วยความดุดัน
'เปาโลจึงเพ่งดูบรรดาสมาชิกสภาแล้วกล่าวว่าพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าประพฤติเฉพาะพระพักตร์พระเจ้าด้วยมโนธรรมที่ดีตราบจนถึงทุกวันนี้อานาเนียผู้เป็นมหาปุโรหิตจึงสั่งคนที่ยืนอยู่ใกล้ให้ตบปากเปาโล เปาโลจึงกล่าวกับท่านว่าพระเจ้าจะทรงตบท่าน ผู้เป็นผนังที่ฉาบด้วยปูนขาว ท่านนั่งพิพากษาข้าตามธรรมบัญญัติ และยังสั่งให้เขาตบข้าซึ่งเป็นการผิดธรรมบัญญัติหรือ?” คนทั้งหลายที่ยืนอยู่ที่นั่นจึงกล่าวว่าเจ้ากล้าพูดจาดูหมิ่นมหาปุโรหิตของพระเจ้าหรือ?” เปาโลจึงตอบว่าพี่น้องทั้งหลาย ข้าพเจ้าไม่ทราบว่าท่านเป็นมหาปุโรหิต เพราะมีคำเขียนไว้ว่าอย่าพูดหยาบช้าต่อผู้ปกครองพลเมือง’ ” ' กิจการ 23:2-5
ในตอนนี้เมื่อเปาโลตระหนักว่าเขาใช้ความฉลาดของเขาโดยก้าวล้ำเส้นจริยธรรมในการต่อว่ามหาปุโรหิต เปาโลกลับใจทันที ใน 1 เปโตร 2:23 เปโตรบรรยายถึงแบบอย่างของพระเยซูในเรื่องนี้
'เมื่อเขากล่าวคำหยาบคายต่อพระองค์ พระองค์ไม่ได้ทรงกล่าวตอบเขาด้วยคำหยาบคายเลย เมื่อพระองค์ทรงทนทุกข์ พระองค์ไม่ได้ทรงขู่อาฆาต แต่ทรงมอบพระองค์เอง ไว้แก่พระเจ้าผู้ทรงพิพากษาอย่างยุติธรรม ' 1 เปโตร 2:23
ฉะนั้นเราจึงสามารถสรุปได้ว่า คริสเตียนควรพัฒนาความเฉลียวฉลาด สติปัญญา ความสามารถให้มากที่สุด เพื่อเป็นพรต่อคนในโลกเพื่อที่สุดจะมีโอกาสใช้สิ่งนี้นำเขามารู้จักกับพระเยซูคริสต์ ขณะเดียวกันคริสเตียนก็ไม่ควรซื่อเกินไปจนถูกเอาเปรียบในทุกด้าน และถึงแม้คริสเตียนจะมีความเฉลียวฉลาดเหมือนงูเราก็ถูกเรียกร้องให้มีใจอ่อนสุภาพไม่มีพิษมีภัยข้างในอยู่ดี

รายการอ้างอิง
  • Bruce B. Barton ... [et al.]. Life Application Bible Commentary. Tyndale House Publishers Inc., 1996.
  • MacArthur, John. The MacArthur New Testament Commentary. Chicago: Moody Publishers, 1987.

ความคิดเห็น