7 ประเด็นน่าคิดเกี่ยวกับพระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์

โดย กนก ลีฬหเกรียงไกร
พระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์ (The Great Commission) เป็นคำสั่งสุดท้ายของพระเยซูคริสต์ก่อนที่พระองค์จะถูกรับขึ้นไปสู่สวรรค์ พระมหาบัญชาปรากฏในพระกิตติคุณ เช่น
มัทธิว 28:18-20 พระเยซูจึงเสด็จเข้ามาใกล้แล้วตรัสกับพวกเขาว่า “สิทธิอำนาจทั้งหมดในสวรรค์ก็ดี ในแผ่นดินโลกก็ดีทรงมอบไว้แก่เราแล้ว เพราะฉะนั้น ท่านทั้งหลายจงออกไปและนำชนทุกชาติมาเป็นสาวกของเรา จงบัพติศมาพวกเขาในพระนามของพระบิดา พระบุตร และพระวิญญาณบริสุทธิ์ และสอนพวกเขาให้ถือรักษาสิ่งสารพัดที่เราสั่งพวกท่านไว้ และนี่แน่ะ เราจะอยู่กับท่านทั้งหลายเสมอไป จนกว่าจะสิ้นยุค”
มาระโก 16:15-16 ฝ่ายพระองค์จึงตรัสสั่งพวกสาวกว่า  "เจ้าทั้งหลายจงออกไปทั่วโลก  ประกาศข่าวประเสริฐแก่มนุษย์ทุกคน ผู้ใดเชื่อและรับบัพติศมาแล้วผู้นั้นจะรอด  แต่ผู้ใดไม่เชื่อจะต้องปรับโทษ มีคนเชื่อที่ไหนหมายสำคัญเหล่านี้จะบังเกิดขึ้นที่นั้น  คือเขาจะขับผีออกโดยนามของเรา  เขาจะพูดภาษาแปลกๆ เขาจะจับงูได้  ถ้าเขากินยาพิษอย่างใด  จะไม่เป็นอันตรายแก่เขา  และเขาจะวางมือบนคนไข้คนป่วย  แล้วคนเหล่านั้นจะหายโรค
ลูกา 24:46-48 พระองค์ตรัสกับเขาว่า  "มีคำเขียนไว้อย่างนั้นว่า  พระคริสต์จะต้องทรงทนทุกข์ทรมาน  และทรงเป็นขึ้นมาจากความตายในวันที่สาม และจะต้องประกาศทั่วทุกประชาชาติในพระนามของพระองค์  ให้เขากลับใจใหม่รับการยกบาป  ตั้งต้นที่กรุงเยรูซาเล็ม ท่านทั้งหลายเป็นพยานด้วยข้อความเหล่านั้น
พระมหาบัญชาเป็นเหมือนคำสั่งให้เราออกไปประกาศ สร้างสาวก บัพติศมา สอนให้ถือสิ่งสารพัด ในมุมหนึ่งเป็นหน้าที่และภารกิจที่เราจะต้องปฏิบัติ แต่ในทางกลับกัน "พระมหาบัญชาเป็นสิ่งที่พระเยซูคริสต์ทรงคาดหวังจากชีวิตเราด้วยหรือไม่" ให้เรามีโอกาสพิจารณาร่วมกันครับ

7 ประเด็นน่าคิดเกี่ยวกับพระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์
1. พระมหาบัญชาทำให้โลกนี้เปลี่ยนแปลงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน ทำให้คริสเตียนหลายต่อหลายคนลุกขึ้นประกาศเป็นพยานอย่างกล้าหาญ ออกจาก Comfort Zone ของตัวเอง เข้าสู่การรับใช้ ท่ามกลางอุปสรรคปัญหาและการถูกต่อต้านข่มเหงอย่างหนักตลอดทุกยุคทุกสมัย

2. พระมหาบัญชากลายเป็นส่วนหนึ่ง Mission Statement หรือนิมิตของคริสตจักรมากมาย แสดงว่าเรื่องนี้มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อคริสเตียนที่ตั้งใจรับใช้พระเจ้า

3. ความจริงเราจะไม่พบ “ประโยค” พระมหาบัญชาในจดหมายฝากเลย แต่การแสดงออกของพระมหาบัญชาได้ถูกปฏิบัติอย่างสัตย์ซื่อ เราพบว่าเมื่อสาวกของพระเยซูไปที่ใดก็จะประกาศทั้งที่มีโอกาสและไม่มีโอกาส ทั้งที่มีการเชิญให้ไปพูดอย่างเช่นนายร้อยโครเนลิอัสเชิญเปโตรไปยังบ้านของเขา และไม่มีการเชิญแต่เดินทางด้วยความตั้งใจไปประกาศเลยเหมือนเปาโลที่ตั้งใจออกไปประกาศตามเมืองต่างๆ อย่างเอาจริงเอาจัง

4. การแสดงออกของความตั้งใจที่สะท้อนแนวคิดของพระมหาบัญชาไม่ใช่การออกไปเป็นมิชชันนารีเท่านั้น แต่เป็นการเปลี่ยนวิถีชีวิตเพื่อการรับใช้พระเจ้าอย่างมีเป้าหมาย รับใช้ด้วยของประทานความสามารถที่พระเจ้าประทานแก่เราด้วยความเชื่อและวางใจในพระองค์

5. พระมหาบัญชาไม่ใช่ประโยคที่เราจะพูดกันเฉพาะตอนท้าทายหนุนใจให้ออกไปประกาศ แต่พระมหาบัญชาคือความเชื่อและการแสดงออกทั้งชีวิตของเราที่นบนอบต่อพระเจ้า

6. พระมหาบัญชาเป็นคำบัญชาที่เปลี่ยนเราด้วย เพราะเมื่อเราประกาศ เราต้องสำแดงพระคริสต์ เมื่อเราสอนสิ่งสารพัด เราเองก็ต้องเชื่อและพัฒนาชีวิตในสิ่งสารพัดที่พระเยซูสอนไว้

7. การเสด็จขึ้นสู่สรรค์ของพระเยซูหลังประทานพระมหาบัญชาจะทำให้สิ่งที่พระเยซูตรัสสุดท้ายสำเร็จคือ "เราจะอยู่กับเจ้าเสมอไปจนกว่าจะสิ้นยุค" เพราะเมื่อพระเยซูคริสต์เสด็จขึ้นไป ทรงประทานพระวิญญาณฯ ลงมาเพื่อเราทุกคน เพื่อเป็นผู้ช่วยที่อยู่กับเราแต่ละคน การที่พระวิญญาณฯ ทรงอยู่กับเราหมายถึงพระเจ้าทรงอยู่กับเราเสมอไปเหมือนดังที่พระเยซูคริสต์ตรัสไว้ตามนั้น


อ้างอิง:
  • The Ministry and Message of Paul, Richard N. Longenecker.
  • Robert L. Plummer & John Mark Terry. Paul’s Missionary Methods. Inter-vasity press, 2013.
  • Peter Bolt and Mark Thompson. The Gospel to the Nations, 2000.

ความคิดเห็น