Teaching as Paul Taught (การสอนอย่างเปาโล)

โดย กนก ลีฬหเกรียงไกร
Teaching as Paul Taught, Roy B. Zuck (324 pages)
หนังสือเล่มนี้ได้บรรยายการสอนของเปาโลแง่มุมต่างๆ ซึ่งเป็นมากกว่าการสอนที่มองว่าเป็นเรื่องของการถ่ายทอดศาสนศาสตร์อย่างถูกต้อง แต่หลายเรื่องก็เป็นเรื่องของการสร้างสาวก การถ่ายทอดภารใจ การอภิปรายโต้ตอบปัญหาต่างๆ เปาโลใช้โอกาสและสื่อต่างๆ ในการสอน เช่น การสอนแบบชั้นเรียน การสอนแบบยกตัวอย่างเปรียบเทียบ การสอนด้วยวิธีการเขียนจดหมายฝาก การการนำปรัชญากรีกและพระคัมภีร์เดิมมาใช้เพื่ออธิบายศาสนศาสตร์ในเรื่องต่างๆ Zuck ได้รวบรวมวิธีการภาคปฏิบัติของเปาโลในการจูงใจผู้เรียน บรรยายถึงความกระตือรือร้นที่จะไม่ปล่อยให้ปัญหาทางความเชื่อไม่ได้รับการตอบอย่างถูกต้อง

เป้าหมายของเปาโลในการสอนจึงไม่ใช่การถ่ายทอดข้อมูลพระคัมภีร์หรือศาสนศาสตร์ในลักษณะของข้อมูลที่ไม่มีชีวิต แต่เปาโลสอนเพื่อให้สามารถนำไปปฏิบัติ และหนุนใจผู้เชื่อให้นำไปประยุกต์ใช้จริงในสถานการณ์ต่างๆ เพื่อให้ผู้เชื่อสามารถรู้จักพระเจ้าได้ถูกต้อง ในสถานการณ์จริงผู้เชื่อต้องเผชิญกับความท้าทายหลายเรื่อง เช่น ศาสนศาสตร์เรื่องการไถ่บาปของพระเยซูซึ่งสำเร็จแล้วที่กางเขนโดยพระคุณ แต่คริสตจักรหลายแห่งต้องเผชิญกับคำสอนให้เข้าสุหนัตเพื่อถือว่าเขาเป็นอิสราเอลตามพระสัญญา เรื่องอาหารที่บูชารูปเคารพจะทำอย่างไร เพราะเป็นการใช้ชีวิตจริงในสถานการณ์จริงซึ่งต้องประยุกต์พระคัมภีร์ ปัญหาการประชุมในคริสตจักรในรายละเอียดเพื่อให้เกิดความสงบสุขไม่วุ่นวาย หรือการไม่ยอมรับสิทธิอำนาจของเปาโลในฐานะอัครทูต เป็นต้น เปาโลสอน แก้ปัญหาที่ศาสนศาสตร์ ให้คำแนะนำที่ชัดเจนในภาคปฏิบัติ หนุนใจและท้าทายให้นำไปใช้เพื่อประโยชน์ของคริสตจักรและผู้เชื่อในการเปลี่ยนแปลงชีวิตติดตามพระเยซูคริสต์ได้ดียิ่งขึ้น

เปาโลใช้คำอธิบายบทบาทการสอนของท่านได้อย่างมีความหมายซึ่งผู้สอนในปัจจุบันสามารถนำมาพิจารณาเพื่อทบทวนบทบาทของตนเองได้เช่นกัน 
1. ภาชนะที่เลือกสรรของพระเจ้า (vessel - skeuos) (กจ.9:15)
2. อาจารย์ (teacher - didaskalos) (1 ทธ.2:7; 2 ทธ.1:11)
3. สักขีพยาน (witness - martus) (กจ.1:8, 22:15; 26:16)
4. ผู้ปรนนิบัติ (servant - diakonos) (1 คร.3:5; 2 คร.11:23)
5. ทาสของพระคริสต์ (slave - doulos) (กท.1:10; 2 คร.4:5)
6. ผู้ประกาศ (herald - keryx) (1 ทธ.2:7; 2 ทธ.1:11) หมายถึงประกาศข่าวอย่างสัตย์ซื่อตรงไปตรงมา โดยตระหนักว่าข้อความที่ประกาศนั้นไม่ใช่ของตนแต่เป็นของผู้ที่ใช้เขามา
7. ผู้รับใช้ (minister - leitourgos) (รม.15:16) เหมือนเป็นหน้าที่ของปุโรหิตที่ถวายคนต่างชาติให้เป็นเครื่องบูชาแด่พระเจ้า
8. อัครทูต (apostle - apostolos) (รม.1:1)

เปาโลพูดถึงการสอนในหลายความหมาย เช่น
1. Didasko (διδάσκω) การสอนออกไปในทุกหนแห่ง ทุกคน ทุกคริสตจักร (กจ.21:21; 21:28; คส.1:28; กจ.15:35; 18:11; 1 คร.4:17)
2. Didaskalia (διδασκαλία) คำแนะนำ (อฟ.4:14; คส.2:22)
3. Dianoigo (διανοίγω) การอธิบาย การทำให้เปิดความคิด (กจ. 17:3)
4. Paratithemi (παρίστημι) (กจ.24:13) พิสูจน์ว่าพระเยซูทรงเป็นพระคริสต์ตามคำพยากรณ์
5. Ektithemi (ἐκτίθημι) การอธิบายความหมาย (กจ.28:23)
6. Katecheo (κατηχέω) เรียนรู้ (รม.2:18)
7. Noutheteo (νουθετέω) เตือนสติให้เห็นถึงอันตราย (กจ.20:31)

ลักษณะการสอนของเปาโลเพื่อให้ผู้เรียนเกิดการเรียนรู้
1. วิธีเรียกความสนใจโดย เรียกผู้เรียนให้สนใจฟัง (กจ.13:16; กจ.22:1) เรียกชื่อหรืออ้างถึงผู้เรียน (กจ.13:16; กจ.26:2) พูดหัวข้ออย่างตรงไปตรงมาด้วยความมั่นใจ (กจ.17:3; กจ.13:38) ตั้งคำถามให้ผู้เรียนตอบและให้คำแนะนำ (กจ.17:2) ใช้ภาษากายและเปลี่ยนไปเปลี่ยนมา เช่น เดิน ยืน มอง ใช้การเคลื่อนไหวมือ เพื่อให้เกิดความสนใจติดตาม (กจ.16:13; กจ.17:22)
2. การสอนให้ผู้เรียนคิด เปาโลได้ยกภาพมากมายในการสอนเพื่อให้ผู้เรียนคิดตามและเกิดความเข้าใจในหลายแง่มุม
3. การสอนในเรื่องที่ผู้เรียนสงสัยทำให้ผู้เรียนอยากฟัง (กจ.13:17; กจ.16:14; กจ.17:32) เปาโลยังสอนลงไปในความต้องการและปัญหาที่ผู้เรียนต้องเผชิญด้วย
4. ชื่นชมและหนุนใจผู้เรียนเสมอ (กจ.14:21-22; กจ.18:23; รม.1:8)
5. อธิษฐานกับผู้เรียนและอธิษฐานเผื่อเขาเสมอ (กจ.20:36)

การสอนพระคัมภีร์ในภาคปฏิบัติตามแนวทางของเปาโลจึงสามารถทำได้โดย
1. ประยุกต์เนื้อหาพระคัมภีร์โดยเข้าใจบริบทของผู้เรียนและเริ่มจากบริบทของเขา
2. กระตุ้นผู้เรียนให้เกิดการปฏิสัมพันธ์ (student interaction) การสอนของเปาโลไม่ใช่เป็นการสอนทางเดียว แต่เป็นการสอนที่เกิดการปฏิสัมพันธ์ระหว่างผู้เรียนกับผู้สอนโดยมีการถามตอบอธิบายเป็นสำคัญ
3. สอนพระคัมภีร์อย่างมีชีวิตชีวา เต็มไปด้วยภารใจ จนผู้เรียนเกิดความรู้สึกถึงคุณค่าของพระวจนะ และยอมรับด้วยหัวใจ
4. แก้ไขความเข้าใจผิดของผู้เรียนโดยทำด้วยความรักความเข้าใจ
5. ให้ความสนใจต่อการนำพระคัมภีร์ไปประยุกต์ปฏิบัติจริงในชีวิตซึ่งเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุดและเป็นเป้าหมายในการศึกษาพระวจนะพระเจ้า

หนังสือเล่มนี้จึงมีคุณค่าเสมือนเป็นคู่มือวิธีการสอนพระคัมภีร์ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในการสอนชั้นรวี การสอนสร้างสาวกแบบตัวต่อตัว หรือการปรับปรุงในการเทศนาวันอาทิตย์ได้เป็นอย่างดี

ความคิดเห็น