เวลาเราหนุนใจกันให้เดินกับพระเจ้า เราหมายถึงอะไรบ้าง

โดย กนก ลีฬหเกรียงไกร
เราอาจเคยได้ยินคริสเตียนมักหนุนใจกันให้เดินกับพระเจ้า ซึ่งอาจจะแปลความหมายลึกๆ แตกต่างกันตามบริบทของชีวิต เช่น ช่วงรู้จักพระเจ้ามาเป็นคริสเตียนใหม่ๆ ก็อาจหมายถึงอย่าเพิ่งเลิกค้นหาความจริงเรื่องพระเจ้า, บางช่วงคริสเตียนอาจกำลังคิดว่าจะรับใช้พระเจ้าไหม คำนี้อาจหมายถึงให้เข้ามาเถอะ, บางจังหวะชีวิตก็กำลังเผชิญต่อการตัดสินใจสำคัญ คำนี้อาจหมายถึงให้รักษาใจและไปต่อ เป็นต้น
บางครั้งการเดินติดตามพระเจ้าก็ท้าทาย แต่หากพระเยซูทรงนำหน้าเรา ให้เรามั่นใจในเส้นทางนี้
ชีวิตที่ดำเนินกับพระเจ้านั้นดีต่อเราเอง ดีต่อน้ำพระทัยของพระเจ้าที่จะสำเร็จในชีวิตเรา และผู้อื่นไปด้วยกัน คริสเตียนคือคนที่ถูกเรียกออกมาจากโลกเพื่อพระเจ้า หากเราเป็นของพระองค์เราย่อมทำสิ่งที่พระองค์ปรารถนาด้วย และสิ่งที่พระองค์ปรารถนาคือความรอดที่จะไปถึงมนุษย์ทุกคนเพื่อเขาจะมีโอกาสรู้จักพระเจ้าและเชื่อวางใจในพระองค์

“เดินกับพระเจ้า” เราหมายถึงอะไรบ้าง?
ทั้ง 4 เรื่องเป็นสิ่งที่ต้อง Level up อยู่ตลอดเวลา แต่การเดินกับพระเจ้าไม่พ้นอย่างน้อย 4 เรื่องนี้
1. รู้จักพระเจ้าและพระวจนะ ถวายตัวยอมรับน้ำพระทัยและทำตามพระประสงค์พระเจ้า (โรม 12:1-2, 2 ทิโมธี 1:12)
การรู้จักพระเจ้าสำคัญที่สุด การดำเนินกับไปพระเจ้าหมายถึงวิถีการเรียนรู้จักพระเจ้า เราไม่ควรพอใจกับการรู้จักพระเจ้าในระดับเบื้องต้น เราต้องไปให้ไกล ไปให้สุด มีประสบการณ์ร่วมกับพระองค์ พึ่งพระพระเจ้า นั่นเป็นสิ่งที่สำคัญมากในชีวิตคริสเตียน
ชีวิตที่รับใช้โดยไม่รู้จักพระเจ้าผู้ที่เรารับใช้ จะเป็นชีวิตที่มีแต่งานโดยไม่รู้ว่าทำไปเพื่อใคร เพื่ออะไร
เราอาจจะรู้ว่างานนี้มีคุณค่า แต่หากเรารู้จักผู้เป็นเจ้าของงานคือพระเจ้า เราจะยิ่งรับประสบการณ์พิเศษ ได้รับกำลังใจ การรับรอง การสนับสนุนจากพระเจ้าอย่างแน่นอน เพราะพระเยซูทรงสัญญาว่าจะอยู่กับเราเสมอไปจนกว่าจะสิ้นยุค และทรงประทานพระวิญญาณบริสุทธิ์เพื่อเป็นผู้ช่วยเรา


2. เข้าสู่งานรับใช้ (มัทธิว 4:19, มัทธิว 9:37-38, มัทธิว 28:19-20)
มัทธิว 4:19 พระ​องค์​ตรัส​กับ​เขา​ทั้ง​สอง​ว่า “จง​ตาม​เรา​มา และ​เรา​จะ​ตั้ง​ท่าน​ให้​เป็น​ผู้​หา​คน​ดั่ง​หา​ปลา”
งานรับใช้มีหลากหลาย มากมาย แต่งานทั้งหมดครอบคลุมด้วยพระมหาบัญชาของพระเยซูคริสต์ ในมุมหนึ่งเราควรถามตัวเองว่างานรับใช้ที่เราทำอยู่ในปัจจุบัน สามารถร้อยเรียงกลับไปสู่ความสำเร็จในพระมหาบัญชาอย่างไร และงานที่เราทำอยู่หรือการตัดสินใจเปลี่ยน ได้ส่งเสริมพัฒนาของประทานของเรามากน้อยแค่ไหน ชีวิตการรับใช้เป็นชีวิตที่ dynamic เราไม่อาจคาดหวังในบทบาทเดียวตลอดทั้งชีวิต พระเจ้าอาจจะนำเราไปสู่สิ่งใหม่ๆ เพื่อเราจะสามารถถวายเกียรติแด่พระองค์ได้มากขึ้นได้

3. ถูกทดสอบด้วยหลายๆ อย่างเพื่อจะเป็นคนที่ใช้การได้มากขึ้น (ยอห์น 6:6, 2 โครินธ์ 8:22, 1 ทิโมธี 3:10, ยากอบ 1:3-4)
ยากอบ 1:3-4 เพราะ​พวก​ท่าน​รู้​ว่า​การ​ทด​สอบ​ความ​เชื่อ​ของ​ท่าน​นั้น ทำ​ให้​เกิด​ความ​ทรหด​อดทน และ​จง​ให้​ความ​ทร​หด​อด​ทน​นั้น​มี​ผล​อย่าง​สม​บูรณ์ เพื่อ​ท่าน​ทั้ง​หลาย​จะ​ได้​เป็น​คน​ที่​สม​บูรณ์​และ​ดี​พร้อม โดย​ไม่​ขาด​สิ่ง​ใด​เลย
อย่ากลัวความยากลำบาก เพราะนั่นคือบททดสอบเพื่อเราจะแกร่งขึ้นในการดำเนินชีวิตกับพระเจ้า อย่าโทษมาร โทษพี่น้อง โทษคริสตจักร หรือโทษระบบนโยบาย เพราะพระเจ้าสามารถใช้ทุกสิ่งเพื่อเตรียมชีวิตเราและเสริมสร้างเรา ให้เติบโตขึ้นในการรับใช้เพื่อเราจะเป็นคนที่ใช้การได้มากขึ้น

4. รักษาใจและก้าวต่อไปในการเติบโตฝ่ายวิญญาณและการรับใช้ (สุภาษิต 4:23, โรม 12:11)
จุดที่ยากสำหรับคริสเตียนคือการก้าวต่อไป เพราะความเป็นจริงจะมีอะไรมากมายมาหยุดเรา และศัตรูตัวสำคัญที่สุดคือตัวเราเอง หลายครั้ง "การลดระดับการรับใช้มาจากการลดระดับการตอบสนองพระเจ้า หรือรักษาระดับในการเดินกับพระเจ้าลงมา จนถึงจุดต่ำสุดคือเป็นคริสเตียนแบบเท่านั้น" และทั้งหมดเป็นเรื่องของแรงจูงใจ
ผู้รับใช้ที่ดีไม่ได้อยู่ใต้สปอต์ไลท์เสมอไป
ถ้าต้องเลือกจริงๆ ว่าจะรักษาชีวิตฝ่ายวิญญาณ หรืองานรับใช้พระเจ้า ขอให้เราเลือกรักษาชีวิตฝ่ายวิญญาณ แม้บางจังหวะอาจะเป็นจังหวะ step down เพราะงานอาจกลายเป็นอุปสรรคในการพัฒนาชีวิตฝ่ายวิญญาณ ให้เราเลือกรักษาชีวิตฝ่ายวิญญาณ แล้วเมื่อถึงเวลาที่เหมาะสมต้องไปต่อ อย่ารักษาใจตอบสนองพระเจ้าในระดับที่ต่ำสุด เราต้องก้าวต่อไป ดำเนินกับพระเจ้าต่อไป
ฟีลิปปี 2:5-8 จง​มี​จิต​ใจ​เช่น​นี้​ใน​พวก​ท่าน​เหมือน​อย่าง​ที่​มี​ใน​พระ​เยซู​คริสต์ ผู้​ทรง​สภาพ​เป็น​พระ​เจ้า ไม่​ทรง​ถือ​ว่า​ความ​ทัด​เทียม​กับ​พระ​เจ้า​เป็น​สิ่ง​ที่​จะ​ต้อง​ยึด​ไว้ แต่​ทรง​สละ​พระ​องค์​เอง​และ​ทรง​รับ​สภาพ​ทาส ทรง​ถือ​กำ​เนิด​เป็น​มนุษย์ และ​ทรง​ปรา​กฏ​อยู่​ใน​สภาพ​มนุษย์ พระ​องค์​ทรง​ถ่อม​พระ​องค์​ลง ทรง​ยอม​เชื่อ​ฟัง​จน​ถึง​ความ​มร​ณา กระ​ทั่ง​มร​ณา​บน​กาง​เขน
แรงจูงใจสูงสุดของเราต้องเป็นการรู้จักพระเจ้าแล้วตอบสนองเชื่อฟังพระองค์ หากแรงจูงใจของเราเป็นอุปสรรค การรับใช้พระเจ้าในบางบทบาทอาจทำร้ายจิตวิญญาณของเราเองก็ได้

เราจะเห็นได้ว่าเมื่อเราดำเนินกับพระเจ้ามาถึงจุดหนึ่ง เราอาจค้นพบว่าการเดินตามพระเจ้าบางครั้งไม่ใช่เรื่องง่ายหากเราไม่พึ่งพาพระเจ้า สำนึกในพระคุณของพระองค์ เพราะหากเราเดินไปด้วยกำลังตัวเอง ด้วยแรงจูงใจที่ผสมแรงจูงใจของโลก เช่น ต้องการพิสูจน์ตัว, ต้องการการยอมรับจากคริสเตียน, ต้องการผลประโยชน์ เป็นต้น ชีวิตแห่งชัยชนะในวันสุดท้าย คือทั้งชีวิตของเปาโลได้เทออกจนหมด เหมือนน้ำที่ถูกเทออกจากภาชนะจนหมด อาจจะไม่เกิดขึ้นในชีวิตเราก็เป็นได้
2 ทิโมธี 4:5-8 แต่​ท่าน​จง​หนัก​แน่น​มั่น​คง​ทุก​เรื่อง จง​อด​ทน​ต่อ​ความ​ทุกข์​ยาก จง​ทำ​หน้า​ที่​ของ​ผู้​ประ​กาศ​ข่าว​ประ​เสริฐ และ​จง​ทำ​พันธ​กิจ​ของ​ท่าน​ให้​ครบ​บริบูรณ์ เพราะ​ว่า​ข้าพ​เจ้า​ถูก​เท​ลง​เหมือน​ดั่ง​เครื่อง​ดื่ม​บู​ชา​แล้ว และ​ถึง​เวลา​ที่​ข้าพ​เจ้า​จะ​ต้อง​จาก​ไป ข้าพ​เจ้า​ได้​ต่อ​สู้​อย่าง​เต็ม​กำ​ลัง ข้าพ​เจ้า​ได้​วิ่ง​แข่ง​จน​ครบ​ถ้วน ข้าพเจ้า​ได้​รัก​ษา​ความ​เชื่อ​ไว้​แล้ว ตั้ง​แต่​นี้​ไป​มง​กุฎ​แห่ง​ความ​ชอบ​ธรรม​ก็​จะ​เป็น​ของ​ข้าพ​เจ้า ซึ่ง​องค์​พระ​ผู้​เป็น​เจ้า​ผู้​พิพาก​ษา​ที่​ชอบ​ธรรม​จะ​ประ​ทาน​เป็น​ราง​วัล​แก่​ข้าพ​เจ้า​ใน​วัน​นั้น และ​ไม่​ใช่​แก่​ข้าพ​เจ้า​ผู้​เดียว​เท่า​นั้น แต่​จะ​ประ​ทาน​แก่​ทุก​คน​ที่​รัก​การ​เสด็จ​มา​ของ​พระ​องค์

ความคิดเห็น