โดย กนก ลีฬหเกรียงไกร
![]() |
พระเยซูทรงรับบัพติศมาจากยอห์น ผู้ให้บัพติศมา |
เมื่อพระองค์ทรงรับบัพติศมาแล้วก็เสด็จขึ้นจากน้ำ และในทันใดนั้นฟ้าก็แหวกออก และพระองค์ทรงเห็นพระวิญญาณของพระเจ้าเสด็จลงมาดุจนกพิราบสถิตบนพระองค์ และนี่แน่ะ มีพระสุรเสียงตรัสจากฟ้าสวรรค์ว่า “ท่านผู้นี้เป็นบุตรที่รักของเรา เราชอบใจท่านมาก”
เหตุการณ์การรับบัพติศมาในน้ำของพระเยซูคริสต์มีสิ่งที่น่าเรียนรู้คือการรับรองของพระบิดาที่มีต่อพระเยซูอย่างชัดเจนมากอย่างน้อย 3 เรื่อง ได้แก่
1. รับรองว่าทรงมีอัตลักษณ์พิเศษ (Need for Identity) "เป็นบุตรที่รักของเรา" พระบิดาทรงรับรองพระเยซูว่าไม่ใช่แค่คนธรรมดาผู้เปี่ยมไปด้วยศรัทธาอีกคนที่มารับบัพติศมาจากยอห์น แต่เป็น Beloved Son
2. รับรองว่าทรงรัก (Security Need) "เป็นบุตรที่รักของเรา" ฺ(Beloved) และสิ่งที่พระเยซูกระทำนั้น "เราชอบใจท่านมาก" (I am well pleased) พระบิดาชื่นชมและรับรองสิ่งที่พระเยซูทรงกระทำ
3. รับรองว่าทรงมีความสำคัญ (Need for Significance) "พระวิญญาณของพระเจ้าเสด็จลงมา" พระบิดาทรงรับรองการเป็นพระเมสสิยาห์ (พระคริสต์) โดยรับรองการเจิมอย่างเต็มล้น
การรับรองของพระบิดาที่มีในพระเยซูเป็นการรับรองแบบเดียวกับที่ผู้รับใช้ทุกคนปรารถนาจะได้รับเช่นเดียวกันใช่หรือไม่?
แต่หากเราไม่ได้แสวงหาการรับรองจากพระเจ้า "เราจะแสวงหาการรับรองจากมนุษย์โดยไม่รู้ตัวหรือให้งานรับใช้กลายเป็นแหล่งแห่งความมั่นใจในชีวิตของเราแทนพระเจ้าก็ได้"ซึ่งนั่นอันตรายมากในการรับใช้แบบยาวๆ
ตาของเราต้องเปิด เราต้องตระหนักว่าพระเยซูทรงอยู่กับเราเสมอในการรับใช้ และพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่ในเราทรงเป็นผู้รับรองให้เกิดความมั่นใจ ให้สิ่งที่ขับเคลื่อนเราในการรับใช้ไม่ใช่ ego ของเรา หรือการพยายามพิสูจน์ตัวว่าทำได้ แต่เป็นความปรารถนาจะถวายเกียรติพระเจ้า วันนี้และตลอดไป
อ้างอิง: Ajith Fernando, Jesus Driven Ministry
ความคิดเห็น