การนมัสการ นิยามชัด ชีวิตเปลี่ยน

ปกติเวลาเราคิดถึงการนมัสการ เราจะคิดถึงการร้องเพลงนมัสการที่ไพเราะ หรือ บรรยากาศการนมัสการที่เรารู้สึกสัมผัสถึงการทรงสถิตของพระเจ้าในวันอาทิตย์ ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีและเป็นปกติอยู่ทุกสัปดาห์

ในหนังสือ "Engaging with God: A Biblical Theology of Worship" David Peterson ให้ความหมายของคำว่านมัสการไว้อย่างน่าสนใจคือหมายถึง "วิถีชีวิตที่ยอมจำนนต่อพระเจ้า" เป็นนิยามที่เรียบง่ายและน่าสนใจ

ผมเคยโพสต์ไว้ว่า "ช่วงเวลานมัสการที่โบสถ์ถือเป็นการแสดงออกในการนมัสการเพียง 0.59% ของความหมายในการนมัสการเท่านั้น" ซึ่งจริง ๆ แล้ว อาจตีความต่อได้อีกว่า
หากเราแสดงออกในการนมัสการ 0.59% อย่างดีเยี่ยม แต่ที่เหลือ 99.41% ไม่ติดตามพระเจ้าอย่างแท้จริง เราควรประเมินได้ไหมว่า 0.59% ที่ดีเยี่ยม เป็นเพียงการแสดงเท่านั้น...
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้หมายความว่าสิ่งนี้จะทำให้น้ำหนักของการแสวงหาพระเจ้าในช่วงนมัสการวันอาทิตย์ดูด้อยลงไป แต่เราต้องกลับมาพิจารณาถึงนิยามที่ถูกต้องของการนมัสการมากกว่า

ชีวิตที่เปลี่ยนแปลงตามพระฉายพระเจ้า แท้จริงมาจากชีวิตที่ยอมจำนนต่อพระเจ้า คือยอมให้พระวิญญาณบริสุทธิ์เข้ามาทำงานร่วมกับชีวิตเราในการเดินติดตามพระเจ้า เชื่อฟังพระวจนะของพระองค์ เป็นวิถีที่ต้องใช้เวลา ไม่ใช่เกิดขึ้นแบบทันทีทันใด ความจริงการรู้จักใครสักคน กว่าจะคุยเรื่องลึก ๆ กันได้ ล้วนอาศัยเวลา การพัฒนาการรู้จักกัน จนถึงความเชื่อใจกัน ความสัมพันธ์ระหว่างเรากับพระเจ้าก็เป็นแบบนั้นเช่นเดียวกัน

เป้าหมายของการนมัสการคือการ เข้าสนิทกับพระเจ้า หรือ Engaging with God ซึ่งนิยามนี้จะไม่จำกัดแค่การนมัสการวันอาทิตย์ แต่คือวิถีชีวิตทั้งหมดของคริสเตียนที่นบนอบและยอมจำนนต่อพระเจ้า และแสดงออกมาในทุก ๆ ทาง "ไม่มีแนวกว้าง แนวแคบ มีแต่จากข้างในไปสู่ข้างนอก และจากข้างนอกไปสู่ทุก ๆ ทาง"

หนังสือเล่มนี้อธิบายความหมายของคำว่านมัสการและอธิบายสิ่งที่แสดงออกเป็น 3 รูปแบบที่อาจจะทับซ้อนกันบ้าง ได้แก่
1. การนมัสการจะแสดงออกด้วยการนบนอบต่อพระเจ้า (Homage to God)
พันธสัญญาเดิม - เป็นการนบนอบต่อพระเจ้าจากข้างใน ตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของพระเจ้า จนแสดงออกอย่างเป็นธรรมชาติในการยกย่องอย่างสูงสุด ภาษาเดิมใช้คำว่า proskynein หมายถึงการย่อตัวลง (ไม่ใช่นอนราบนะครับ) แล้วเราสามารถคาดเดาอาการต่อไปว่าเป็นการจูบคำนับ

สำหรับพันธสัญญาใหม่ - จะหมายถึงการนบนอบต่อพระเยซูภายในจิตใจ ตระหนักถึงความยิ่งใหญ่ของพระองค์จากภายในใจของเรา

2. การนมัสการจะแสดงออกด้วยการรับใช้พระเจ้า (Service to God)
พันธสัญญาเดิม - การถวายเครื่องบูชาด้วยหัวใจที่นบนอบต่อพระเจ้า ซึ่งเครื่องบูชามีมากมายหลากหลาย แต่ทั้งหมดจะต้องทำด้วยใจที่นบนอบ ไม่ใช่ทำเป็นหน้าที่ตามระบบศาสนา
อิสยาห์ 1:11 พระ​ยาห์​เวห์​ตรัส​ว่า เครื่อง​บู​ชา​มาก​มาย​ของ​เจ้า​นั้น​เป็น​ประ​โยชน์​อะไร​กับ​เรา?
พันธสัญญาใหม่ - จะหมายถึงการมีส่วนปรนนิบัติรับใช้พระเยซูในพระกายของพระคริสต์ ซึ่งหมายถึงการรับใช้กันและกันในหมู่พี่น้องด้วย และที่สาคัญทำด้วยหัวใจ ไม่ใช่ด้วยหน้าที่เท่านั้น

3. การนมัสการจะแสดงออกด้วยการเชื่อฟังพระดำรัสของพระเจ้าในวิถีชีวิต (Respect to God)
พันธสัญญาเดิม - คือการนำธรรมบัญญัติไปใช้ในชีวิตประจำวันด้วยในนบนอบและรับใช้พระเจ้า

พันธสัญญาใหม่ - คือการประกาศข่าวประเสริฐ, การสอนพระวจนะ, การดำเนินชีวิตในทางของพระเจ้า, และการหนุนใจพี่น้อง

ดูเหมือนแนวคิดหลักของพระคัมภีร์ และหนังสือเล่มนี้จะเน้นที่ชีวิตที่มอบถวายแด่พระเจ้ามากกว่าการแสดงออกเฉพาะในวันอาทิตย์ ซึ่งแน่นอนพระคัมภีร์กำลังสอนเราอย่างชัดเจนว่า "หากนิยามของการนมัสการของเราชัด ชีวิตของเราจะเปลี่ยนอย่างแน่นอน"

ที่มา: Peterson, David. 1992. Engaging with God: A Biblical Theology of Worship. IL: InterVersity Press, 1992.

ความคิดเห็น