โดย กนก ลีฬหเกรียงไกร
มีเรื่องเล่าเมื่อปี ค.ศ.250 St.Denis แห่งปารีส (มีชื่ออื่นอีกเช่น Dionysius, Dennis, or Denys) ผู้นำทางจิตวิญญาณที่เข้มแข็งคนหนึ่งในแถบนี้ ท่านต้องโทษประหารจากอาณาจักรโรมันเพราะความเชื่อในพระเยซูคริสต์ซึ่งในขณะนั้นทางอาณาจักรโรมันต่อต้านการรวมกลุ่มทางความเชื่ออย่างมากโดยเฉพาะกลุ่มคริสเตียน แน่นอนเขาถูกประหารโดยการตัดศีรษะ แต่สิ่งมหัศจรรย์ได้บังเกิด เมื่ออยู่ดีๆ เขาก็ลุกขึ้นยืน แล้วหยิบหัวของตัวเองขึ้นมา ออกเดินทางประกาศข่าวประเสริฐไปถึง 10 กิโลเมตร เดินพลางก็ประกาศเรื่องราวของพระเยซูไปด้วยหัวของตัวเองที่มืออุ้มอยู่นั่นแหล่ะ แล้วถึงจุดหนึ่งจึงค่อยล้มลง
...ฟังดูไม่น่าเชื่อใช่ไหมครับ...
ฟังไว้เถอะครับ โลกเรามีเรื่องราวอะไรอีกมากมายที่อธิบายไม่ได้อีกเยอะ
ไม่นานนักเจ้า Bobtail ถูกล้อมจับ โดนรุมเอาหินขว้าง ถูกทิ่มด้วยหอก และตายที่หน้าวิหารนอทเทอร์ดัม (Nortre Dame)
ภาพและเรื่องจากหนังสือ Parisians: An Adventure History of Paris
คราวนี้มาฟังจากภริยาของท่านปรีดี พนมยงค์
ภาพ: ร้านกาแฟ Café de la Paix, ปารีส ตอนถ่ายภาพนี้อดภูมิใจเล็กๆ ตอนนี้ภูมิใจมากที่ได้รู้ความจริง
ว่ากันว่ากางเกงในเหล็กจากศตวรรตที่ 17 จากประเทศฝรั่งเศสนี้ เขาตั้งใจทำให้ผู้หญิงใส่เพื่อป้องกันการจู่โจมของหนุ่มๆ คนอื่น ขณะที่คุณสามีไปออกรบ ส่วนคุณสามีคงมีชุดเกราะทั้งตัวอยู่แล้วกระมังเลยไม่ต้องใส่กางเกงในแบบนี้ โหดจริงๆ
มีเรื่องเล่าว่าครั้งนั้นขุนนางถูกตัดหัวหลายต่อหลายคน หญิงสาวที่ไปดูการประหาร ถักโครเชต์อยู่ พอหัวของพวกนั้นหล่นมาใกล้ๆ เธอก็เหลือบตา แล้วก็ถักโครเชต์ต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สาเหตุหลักของการปฏิวัติคือ "ระบบศักดินา" ที่มีการปกครองและรับประโยชน์แบบปิรามิด โดยยอดปิรามิดคือผู้มีอำนาจ ฐานคือประชาชน ประชาชนทำงานหนักมากแต่ได้ค่าตอบแทนน้อย ไม่มีทรัพย์สิน ไม่มีที่ดินทำกิน ยากจนและลำบากอย่างแสนสาหัส เพราะที่ดินตกอยู่ในมือของพระราชาและเหล่าขุนนาง
นักปรัชญา 2 คนที่เป็นเหมือน trigger ลั่นไกการปฏิวัติ คือ Voltaire และ Jean Jacques Rousseau เขาใช้งานเขียนที่เสนอทฤษฎี "เจ้าของประเทศคือประชาชนทุกคน" และประชาชนควรจะไปแทนตำแหน่งยอดปิรามิดในระบบศักดินา
14 กรกฏาคม ค.ศ.1789 ผู้คนเดินขบวนโห่ร้อง "Liberty, Equality, Brotherhood" จากนั้นก็เละทั้งประเทศครับ...
การปกครองจะเรียกตัวเองว่าระบอบอะไรก็ตาม หากอำนาจอยู่ที่คนไม่กี่คน แต่ประชาชนเป็นฐานและถูกกดขี่ข่มเหงมากมาย ก็รอวันที่จะถูกโค่นได้เลย
มหานครปารีสที่ถูกสถาปนามาอย่างยาวนานกว่าสองพันปีคงมีเรื่องราวแปลกๆ อีกเยอะ ถ้าเจออะไรแปลกๆ จะมา update เพิ่มเติมให้อีกนะครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ
1. St.Denis แห่งปารีส
ผมกับลูกสาวเข้าไปในวิหารนอร์ทเทอร์ดาม (Notre-Dame de Paris) ที่ปารีส และได้เข้าไปชมในส่วนที่ต้องจ่ายค่าเข้าเข้าไป ข้างในจัดแสดงเครื่องทองและอะไรที่แปลกๆ หลายอย่าง มีรูปปั้นอันหนึ่งสะดุดตาเราทั้งสองคนคือรูปปั้นของบาทหลวงคนหนึ่งแต่งตัวเต็มยศแต่ที่คอไม่มีหัว หัวมาอยู่ที่มือ เหมือนจะอุ้มหัวให้ตั้งตรง วันนั้นได้แต่อธิบายให้ลูกฟังว่าน่าจะเป็นผู้รับใช้พระเจ้าที่ถูกประหารเพราะความเชื่อในสมัยโรมัน วันนี้กลับมาค้นคว้าดูเรื่องราวนี้ เป็นที่น่าสนใจอย่างมาก...![]() |
รูปปั้นอันแสนพิเศษของ St.Denis |
![]() |
St.Denis หยิบศีรษะตัวเองขึ้นมาต่อหน้าผู้ประหาร |
ฟังไว้เถอะครับ โลกเรามีเรื่องราวอะไรอีกมากมายที่อธิบายไม่ได้อีกเยอะ
2. Bobtail สุนัขป่าสุดโหดบุกปารีส
ตอนที่ไปปารีสได้อ่านหนังสือเล่มหนึ่งเป็นภาษาฝรั่งเศส อ่านไม่ออกแต่คิดว่าหมาป่าในรูปต้องมีความสำคัญแน่ๆ เลยถ่ายภาพนี้ไว้ ตอนนี้มาค้นประวัติดูพบว่าในปี ค.ศ.1450 มีปรากฏการณ์ Paris Wolves Attack คือมีฝูงหมาป่านำโดย Courtaud หรือ "Bobtail" ได้เข้ามาโจมตีชาวปารีส กินชาวปารีสไป 40 คน และทำให้คนบาดเจ็บอีกมากมาย![]() |
Bobtail ถูกฆ่าและสต๊าฟไว้ |
ภาพและเรื่องจากหนังสือ Parisians: An Adventure History of Paris
3. ร้านกาแฟที่ท่านปรีดี พนมยงค์นั่งประชุมแผนยึดอำนาจเปลี่ยนการปกครอง
"ร้านกาแฟ Café de la Paix ร้านที่คนไทยเข้าใจว่าเป็นที่ที่นัดพบของปรีดี พนมยงค์ กับผู้ก่อการเปลี่ยนแปลงการเมืองการปกครองในประเทศไทย จากสมบูรณาญาสิทธิราชย์เป็นระบอบประชาธิปไตยใน พ.ศ.2475" เรื่องราวนี้ไกด์มักจะบอกแก่นักท่องเที่ยวไทยที่ไปเยือนฝรั่งเศส ซึ่งก็พอมีเค้าโครงเรื่องอยู่บ้าง![]() |
ร้านกาแฟ Café de la Paix ที่ไกด์ยังเข้าใจผิด |
"ที่ร้านกาแฟ Cafe Select มุมถนน Rue des Ecoles ตัดกับถนน Boulevard Saint-Michel ใกล้ๆ กับพิพิธภัณฑ์ Cluny นายปรีดีเล่าให้ข้าพเจ้าฟังว่า ที่ร้านกาแฟนี้ นายปรีดีและเพื่อนๆ ร่วมกันคิดเปลี่ยนแปลงการปกครอง ปรารถนาให้สยามประเทศมีรัฐธรรมนูญ มีรัฐสภา มีเสรีภาพ และมีประชาธิปไตย..."
"เมื่อปี 2542 ข้าพเจ้าไปที่นั่นอีกครั้ง แต่ร้าน Café Select ได้กลายเป็นร้านขายเสื้อผ้า ไม่หลงเหลือภาพเดิมให้ปรากฏอีกแล้ว"อ้างอิง: หนังสือ "ไม่ขอรับเกียรติยศใดๆ ทั้งสิ้น ๙๕ ปี ๔ เดือน ๙ วัน พูนศุข พนมยงค์"
ภาพ: ร้านกาแฟ Café de la Paix, ปารีส ตอนถ่ายภาพนี้อดภูมิใจเล็กๆ ตอนนี้ภูมิใจมากที่ได้รู้ความจริง
4. กางเกงในเพื่อความซื่อสัตย์ของภรรยา
คั่นด้วยเรื่องเบาสมองกันหน่อยครับ สิ่งนี้คือกางเกงในเพื่อความซื่อสัตย์ของภรรยา
![]() |
ของจริงในพิพิธภัณฑ์ครับ |
5. การล้มครืนของระบบศักดินาและหญิงถักโครเชต์
ปี ค.ศ.1789 ปีที่โลกต้องจดจำเพราะระบบศักดินา (feudal system) ถูกสั่นสะเทือนไปทั่วยุโรปจากการปฏิวัติในฝรั่งเศส พระเจ้าหลุยส์ที่ 16 และพระนางแมรี่ อังตัวเน็ต (Louis XVI and Marie Antoinette) กลายเป็นสัญลักษณ์ของการปฏิวัติในครั้งนั้นและถูกประหารด้วยกิโยตินต่อหน้าฝูงชนมีเรื่องเล่าว่าครั้งนั้นขุนนางถูกตัดหัวหลายต่อหลายคน หญิงสาวที่ไปดูการประหาร ถักโครเชต์อยู่ พอหัวของพวกนั้นหล่นมาใกล้ๆ เธอก็เหลือบตา แล้วก็ถักโครเชต์ต่อเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
สาเหตุหลักของการปฏิวัติคือ "ระบบศักดินา" ที่มีการปกครองและรับประโยชน์แบบปิรามิด โดยยอดปิรามิดคือผู้มีอำนาจ ฐานคือประชาชน ประชาชนทำงานหนักมากแต่ได้ค่าตอบแทนน้อย ไม่มีทรัพย์สิน ไม่มีที่ดินทำกิน ยากจนและลำบากอย่างแสนสาหัส เพราะที่ดินตกอยู่ในมือของพระราชาและเหล่าขุนนาง
นักปรัชญา 2 คนที่เป็นเหมือน trigger ลั่นไกการปฏิวัติ คือ Voltaire และ Jean Jacques Rousseau เขาใช้งานเขียนที่เสนอทฤษฎี "เจ้าของประเทศคือประชาชนทุกคน" และประชาชนควรจะไปแทนตำแหน่งยอดปิรามิดในระบบศักดินา
14 กรกฏาคม ค.ศ.1789 ผู้คนเดินขบวนโห่ร้อง "Liberty, Equality, Brotherhood" จากนั้นก็เละทั้งประเทศครับ...
![]() |
ภาพพระนางแมรี่ อังตัวเน็ต ภาพเดียวเท่านั้นในพระราชวังแวร์ซายส์ |
มหานครปารีสที่ถูกสถาปนามาอย่างยาวนานกว่าสองพันปีคงมีเรื่องราวแปลกๆ อีกเยอะ ถ้าเจออะไรแปลกๆ จะมา update เพิ่มเติมให้อีกนะครับ ขอบคุณที่ติดตามครับ
ความคิดเห็น