หอกข้างแคร่ บันทึกการปฏิวัติในสยาม และความหายนะของฟอลคอน

โดย กนก ลีฬหเกรียงไกร
สมเด็จพระนารายณ์ฯ ทรงตอบคณะทูตเรื่องการเข้ารีต ประเด็นนี้น่าสนใจคือ
1. ทูตฝรั่งเศสถามคำถามที่ตรงไปตรงมาในแนวคิดของยุคล่าอาณานิคมคือใช้พระเจ้าเพื่ออ้างสิทธิ์การเข้ายึดแผ่นดินต่างๆ และถือว่าถ้าแผ่นดินไหนไม่นับถือศาสนาคริสต์ถือเป็นแผ่นดินป่าเถื่อน เป็นเหตุสามารถเข้ายึดครองได้โดยชอบธรรม

2. สมเด็จพระนารายณ์ตอบในลักษณะแบ่งรับแบ่งสู้ด้วยพระสติปัญญา เพราะสมัยนั้นต้องอาศัยอำนาจของชาติตะวันตกชาติต่างๆ มาพัฒนาประเทศและช่วยปกป้องพระองค์เองจากการคิดกบฏของข้าราชการอยุธยา (สามารถอ่านเพิ่มเติมในหนังสือ "การเมืองสมัยสมเด็จพระนารายณ์") และเป็นการคานอำนาจการค้าของชาติฮอลันดา ถ้าพระองค์รับเข้ารีตในเวลานั้นก็จะเป็นเหตุให้พระเพทราชาก่อกบฏขึ้นทันที

3. เรื่องศาสนา 2,229 ปี เป็นเรื่องการนับย้อนตั้งแต่มีศาสนาพุทธเกิดขึ้นในโลก ไม่ได้หมายถึงคนไทยหรืออยุธยานับถือศาสนาพุทธมาเท่ากับจำนวนปีนั้นๆ เพราะอยุธยาในสมัยแผ่นดินสมเด็จพระนารายณ์มีอายุประมาณ 300 ปี เท่านั้น ก่อนหน้านั้นคนไทยนับถือศาสนาผี พราหมณ์ และพุทธนิกายเถรวาท ซึ่งแนวคิดของศาสนาจะไม่ใช่เป็นแบบหมดจดในความเชื่อของแต่ละศาสนา แต่จะเป็นการครอบเป็นชั้นๆ เริ่มจากศาสนาผี ผสมผสานด้วยแนวคิดพราหมณ์ และครอบด้วยศาสนาพุทธตามลำดับ (อ่านเพิ่มในหนังสือ "ยุคมืดของประวัติศาสตร์ไทย")

สิ่งที่น่าสนใจคือ ช่วงปลายยุคสมัยสมเด็จพระนารายณ์ฯ พระเพทราชาก่อกบฏจริง และประหารสมเด็จพระนารายณ์ฯ และหน่อเนื้อพระนารายณ์ด้วยท่อนจันทน์ อยธยาจึงเข้าสู่ยุคราชวงศ์บ้านพลูหลวงจนถึงเสียกรุงในเวลาต่อมา
หนังสือหอกข้างแคร่เล่มนี้อาจจะไม่เหมาะสำหรับการศึกษาในภาพรวมในการปฏิวัติยึดอำนาจของสมเด็จพระเพทราชา แต่จะเป็นรายละเอียดจากฝั่งทางนายทหารฝรั่งเศสที่อยู่ในสยาม ฉะนั้นแนะนำให้หาหนังสือเล่มอื่นที่ให้ภาพรวมของยุคสมัยนั้นมาอ่านก่อน

เนื้อหาส่วนใหญ่ในเล่มนี้จะเป็นการนำเสนอหลักฐานที่เป็นจดหมายของนายพลเดส์ฟาร์จ (General Desfarges) นายพลฝรั่งเศสประจำที่บางกอก และพันตรีโบชอง (Major Beauchamp) นายทหารที่ประจำที่ละโว้ (เมืองคู่ของอยุธยา) ทั้ง 2 คนนี่เป็นประจักษ์พยานที่สำคัญมากในเหตุการณ์การปฏิวัติของสมเด็จพระเพทราชาในปลายรัชสมัยสมเด็จพระนารายณ์มหาราช

ปัญหาหลักคือพระเพทราชามองว่าบ้านเมืองไม่มีความมั่นคงอันเนื่องมาจากปัญหาการแทรกแซงอำนาจของชาวตะวันตกในกรุงศรีอยุธยาทั้งจากฝรั่งเศส, โปรตุเกส, ฮอลันดา, และอังกฤษ โดยเฉพาะมองซิเออร์ก็องสต๊องส์ (เจ้าพระยาวิชาเยนทร์ หรือคอนสแตนติน ฟอลคอน) ข้าราชการคนสนิทของสมเด็จพระนารายณ์ ผู้นำคนต่างชาติเข้ามาในราชสำนักอย่างมากมาย

สิ่งที่บรรยายไว้คือบรรยากาศของการปฏิวัติ เช่น มีการประหารราชโอรสของสมเด็จพระนารายณ์ 2 คนด้วยท่อนจันทน์, ราชสำนักทำร้ายร่างกายจับตัวพระสังฆราชของฝรั่งเศสไปเป็นตัวประกัน, การแลกตัวประกันชาวสยามกับฝรั่งเศส, การขู่ฆ่าชาวคริสต์ทั้งหมดในสยาม, การร่วมมือกันของคณะเยซูอิตกับฝรั่งเศสชั่วคราว, มีการพุ่งรบของชาวสยามกับฝรั่งเศสซึ่งสุดท้ายฝรั่งเศสเป็นผู้แพ้ในสงครามครั้งนั้นเนื่องมาจากความขัดแย้งกันเองเรื่องอำนาจและผลประโยชน์

อย่างไรก็ตามมุมมองของจดหมายเป็นแบบอัตวิสัย (ความเห็นส่วนตัว) คือเป็นความเห็นของนายทหารฝรั่งเศส 2 คน ซึ่งเป็นหลักฐานเชิงประวัติศาสตร์ที่ดี แต่จะเชื่อได้หรือไม่ต้องนำหลักฐานอื่นๆ มาประกอบด้วย

หนังสือเล่มนี้ไม่ได้พูดถึงเจ้าพระยาวิชาเยนทร์ หรือคอนสแตนติน ฟอลคอน มากนัก (เล่มนี้จะใช้ชื่อมองซิเออร์ก็องสต๊องส์) ถ้าจะอ่านเพื่อรู้เรื่องความหายนะของฟอลคอน คงไม่มีให้เห็นเยอะนะครับ มีแค่แรกๆ เท่านั้น เพราะเปิดฉากมาก็ใกล้ตายแล้ว 

เครดิต: หอกข้างแคร่ บันทึกการปฏิวัติในสยาม และความหายนะของฟอลคอน

ความคิดเห็น