โดย กนก ลีฬหเกรียงไกร
![]() |
"พระเจ้า" ในความหมายส่วนตัวที่อาจจะผสมปนเปไปด้วยมุมมองของเราเอง
พระเจ้าในความหมายของเราหลายครั้งมองผ่านมุมมองของศิลปะวัฒนธรรม ประสบการณ์ส่วนตัว พื้นฐานการศึกษา แต่พระเจ้าทรงเป็นพระเจ้าสูงสุด และเป็นพระเจ้าของสากลโลกรวมถึงคนไทยด้วย ความจริงคือพื้นฐานวัฒนธรรมไทยไม่ได้มีมุมมองของพระเจ้าอย่างที่พระองค์เป็น คนไทยจึงรับรู้พระเจ้าผ่านการเปิดเผยในระดับกว้างๆ เท่านั้น เช่น จากการสังเกตธรรมชาติ, การพิจารณามโนธรรม, ความสำนึกถูกผิด เป็นต้น ซึ่งถ้าคิดดีๆ เราก็สามารถรับรู้ได้ว่าพระเจ้ามีจริง แต่พระเจ้าของเราไม่ใช่พระเจ้าศักดิ์สิทธิ์ที่ตั้งไว้บนหิ้งและไม่เกี่ยวข้องอะไรกับเรา พระเจ้าของเราทรงเป็นพระเจ้าที่มีบุคลิกภาพ ทรงบริสุทธิ์และปราศจากความบาป พระเจ้าทรงคาดหวังชีวิตคริสเตียนให้บริสุทธิ์เหมือนพระองค์ด้วยสังคมทันสมัยขึ้น แต่ส่วนลึกเราก็ยังคล้ายๆ เดิม
แม้โลกปัจจุบันจะเปลี่ยนไปและมีความเป็นสากลมากขึ้นโดยเฉพาะอย่างยิ่งส่งผลกระทบต่อโครงสร้างสังคมคนเมืองที่ถูกปลูกฝังด้วยระบบการศึกษาแบบใหม่ที่เป็นระบบระเบียบ และการทำงานที่มีระบบระเบียบแบบแผนชัดเจน แต่ลึกๆ ในความเชื่อส่วนตัวมักจะง่ายที่จะโอนเอียงไปกับแนวคิดวัฒนธรรมและประสบการณ์แบบไทยๆ ที่ได้รับการปลูกฝังทั้งแบบรู้ตัวและไม่รู้ตัว เช่น ชอบเรื่องการอัศจรรย์เหนือธรรมชาติ, ความกลัวผีหรือความมืด, การโอนอ่อนผ่อนตามในการกราบไหว้รูปเคารพอะไรก็ได้ที่มองเห็นและวิญญาณที่มองไม่เห็น, และที่สำคัญคือความบริสุทธิ์ในแบบของศาสนาที่พึ่งพาการกระทำเป็นสำคัญ อิทธิพลของวัฒนธรรมอยู่ในส่วนลึกของเราทุกคนไม่เว้นแต่คริสเตียน ดังนั้นการตีความในเรื่องความบริสุทธิ์สำหรับคนไทยจึงง่ายที่จะโอนเอียงไปในเรื่องของการกระทำถูกผิด บาปไม่บาป ดีไม่ดีความบริสุทธิ์บางทีก็ง่ายที่จะตัดสินที่การกระทำภายนอก แต่พระเจ้าไม่อยากให้เป็นอย่างนั้น
เรามักเข้าใจว่าความบริสุทธิ์คือการงดเว้นจากการกระทำไม่ดี เช่น ไม่ดื่มเหล้า ไม่สูบบุหรี่ ไม่เที่ยวเกเร ไม่ด่าว่าผู้อื่น ไม่ฆ่าสัตว์ ไม่โลภ ไม่หลง ถ้าไม่ทำสิ่งเหล่านี้ได้ก็จะเป็นผู้บริสุทธิ์ แต่นี่ไม่ใช่ความหมายตามพระคัมภีร์ ในความหมายตามพระคัมภีร์นั้น ความบริสุทธิ์คือการประกอบด้วยพระสิริ สง่าราศี ความสูงส่ง ความรุ่งโรจน์ สง่าผ่าเผย ความใสสะอาด ความโปร่งใส ความบริสุทธิ์ของพระเจ้าไม่ได้หมายความว่าพระองค์ "มี" ความบริสุทธิ์ แต่พระเจ้าทรง "เป็น" ความบริสุทธิ์อพยพ 15:11 ข้าแต่พระยาห์เวห์ ในบรรดาพระต่างๆ องค์ไหนจะเป็นเหมือนพระองค์เล่า? องค์ไหนจะเหมือนพระองค์ผู้ทรงงามสง่าในความบริสุทธิ์ และน่าเกรงขามด้วยพระสิริและทรงทำการอัศจรรย์?
อิสยาห์ 57:15 องค์ผู้สูงเด่นและสูงส่ง ผู้ทรงดำรงอยู่นิรันดร์ ทรงพระนามว่าบริสุทธิ์ ตรัสดังนี้ว่า “เราดำรงอยู่ในที่สูงและบริสุทธิ์ และอยู่กับผู้สำนึกผิดและมีวิญญาณจิตที่ถ่อม เพื่อฟื้นฟูวิญญาณจิตของผู้ที่ถ่อม และฟื้นฟูใจของผู้สำนึกผิดขอย้ำว่า ความบริสุทธิ์ในชีวิตคริสเตียนไม่ใช่ความพยายามทำความดีด้วยกำลังของมนุษย์ แล้วรู้สึกดีหรือไม่ดีโดยประเมินว่า "ทำได้" หรือ "ทำไม่ได้"
โรม 10:4 เพราะว่าพระคริสต์ทรงเป็นจุดจบของธรรมบัญญัติ เพื่อให้ทุกคนที่มีความเชื่อได้รับความชอบธรรมความบริสุทธิ์ในการดำเนินชีวิตคริสเตียน จึงไม่ได้ขึ้นอยู่กับความสามารถในการทำดีของมนุษย์ แต่ขึ้นอยู่กับความชอบธรรมของพระเจ้า ความเข้าใจที่ถูกต้องในเรื่องนี้จึงสำคัญต่อเราเป็นอย่างยิ่ง
![]() |
โดยพระคุณของพระเจ้าที่สำแดงบนการไถ่บาปเราทางกางเขน ทำให้คนบาปอย่างเรากลายเป็นผู้ชอบธรรมของพระเจ้า ไม่ใช่โดยความดีของเรา แต่โดยพระโลหิตของพระคริสต์ซึ่งเป็นพระคุณของพระเจ้าสำหรับผู้เชื่อ
|
โรม 3:24 แต่พระเจ้าทรงมีพระคุณให้เขาเป็นผู้ชอบธรรมโดยไม่คิดมูลค่า โดยที่พระเยซูคริสต์ทรงไถ่เขาให้พ้นบาปแล้ว
ฉะนั้นอย่าให้เราประเมินความเติบโตของตัวเราเองเพียงแค่การกระทำภายนอก
ความจริงนั้นการทำดี หรือไม่ทำบาป เพื่อให้ชีวิตบริสุทธิ์นั้นเป็นสิ่งที่ถูกต้องสมควร แต่หากต้องทำด้วย "ใจที่สำนึกในพระคุณพระเจ้า" ยำเกรงพระเจ้า ตระหนักในการเปลี่ยนแปลงชีวิตให้เป็นไปตามน้ำพระทัยพระเจ้าโดยร่วมมือกับพระวิญญาณบริสุทธิ์เป็นสำคัญโรม 6:22-23 แต่เดี๋ยวนี้พวกท่านพ้นจากการเป็นทาสของบาป และกลับมาเป็นทาสของพระเจ้าแล้ว ผลสนองที่ท่านได้รับก็คือการชำระให้บริสุทธิ์ และผลสุดท้ายคือชีวิตนิรันดร์ เพราะว่าค่าจ้างของบาปคือความตาย แต่ของประทานจากพระเจ้าคือชีวิตนิรันดร์ในพระเยซูคริสต์องค์พระผู้เป็นเจ้าของเราอย่าให้เราตัดสินกันหรือประเมินตัวเองว่าเติบโตหรือไม่ด้วยการกระทำภายนอก แต่ให้เรา "ตระหนักรับรู้" ในพระคุณความรักของพระเจ้าที่มีต่อเรา และอย่าทำบาป เพราะพระเจ้าทรงบริสุทธิ์ ทรงคาดหวังชีวิตที่บริสุทธิ์ในเราด้วย ในทางกลับกันให้เราตั้งใจร่วมมือกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ที่อยู่กับเรา เพื่อเราจะต่อสู้และมีชัยชนะเหนือความบาปในชีวิตของเราให้จงได้
กาลาเทีย 5:16-17 แต่ข้าพเจ้าขอบอกว่าจงดำเนินชีวิตตามพระวิญญาณ แล้วท่านจะไม่สนองความต้องการของเนื้อหนัง เพราะว่าความต้องการของเนื้อหนังขัดแย้งพระวิญญาณ และพระวิญญาณก็ขัดแย้งเนื้อหนัง เพราะทั้งสองฝ่ายต่อสู้กัน ดังนั้นท่านทั้งหลายจึงไม่สามารถทำสิ่งที่ท่านปรารถนาจะทำ
อ้างอิง
- จอห์น เดวิส. เพิ่มความรู้. กรุงเทพฯ: กนกบรรณาสาร
ความคิดเห็น