โดย กนก ลีฬหเกรียงไกร
![]() |
เรื่องราวการพิพากษาด้วยสติปัญญาของซาโลมอนเป็นที่เลื่องลืออย่างมาก |
คำสอนง่ายๆ สั้นๆ แต่กินใจ แต่งโดยพระราชาซาโลมอน เข้าใจว่าเป็นวัยหนุ่ม ช่วงบทท้ายๆ มีสุภาษิตของพระราชาอากูร์มาเพิ่ม
ซาโลมอนกล่าวไว้ว่า ...
สุภาษิต 1:7 ความยำเกรงพระยาห์เวห์เป็นจุดเริ่มต้นของความรู้ คนโง่ย่อมดูหมิ่นปัญญาและการสั่งสอนในพระธรรมสุภาษิตมีคำว่า "ปัญญา" 115 ครั้ง และ "คนโง่" ถึง 65 ครั้ง
เพลงซาโลมอน
เป็นบทพิสูจน์รักของซาโลมอนในฐานะเจ้าบ่าว และหญิงชาวชูเนมในฐานะเจ้าสาว แต่งโดยพระราชาซาโซมอนในวัยกลางคน เป็นพระคัมภีร์ที่บอกเรา 2 สิ่งคือ 1. การแต่งงานแบบผัวเดียวเมียเดียว เป็นสิ่งที่ถูกต้อง 2. ชีวิตทางเพศระหว่างสามีภรรยาเป็นเรื่องที่ดีงาม
การเปรียบเทียบเปรียบเปรยความสวยงามมีมาทุกยุคสมัย บางทีเราก็อดขำไม่ได้เมื่อดูการเปรียบเปรยความสวยงามของยุคก่อนๆ ลองอ่านการบรรยายความสวยของผู้หญิงในสมัยนั้นกันครับ
เพลงซาโลมอน 7:1-8 โอ แม่ธิดาของเจ้าชาย เท้าที่สวมรองเท้าของเธอนั้นช่างเรียวงามนี่กระไร เรียวขาที่กลึงเกลาของเธองดงามดุจอัญมณี ที่ช่างผู้ชำนาญได้เจียระไนไว้ สะดือของเธอดุจอ่างกลม ที่มิได้ขาดเหล้าองุ่นประสม ท้องของเธอดังกองข้าวสาลี ที่มีดอกลิลลี่ปักไว้รอบ ถันทั้งสองของเธอดังลูกละมั่งสองตัว ซึ่งเป็นละมั่งฝาแฝด ลำคอของเธอประหนึ่งหอคอยสร้างด้วยงาช้าง ดวงตาทั้งสองของเธอดุจสระน้ำในเมืองเฮชโบน ที่อยู่ริมประตูบัทรับบิม จมูกของเธอเหมือนหอแห่งเลบานอน ซึ่งมองไปยังเมืองดามัสกัส ศีรษะของเธอประดับเธอดุจดังภูเขาคารเมล ผมของเธอดุจด้ายสีม่วง กษัตริย์ก็ต้องมนต์เสน่ห์ด้วยมวยผมนั้น เออ เธอช่างงามนัก เธอช่างน่ารัก ที่รักจ๋า เธอช่างสวยงามต้องตาเสียจริง ทรวดทรงของเธอดุจต้นอินทผลัม และถันทั้งสองของเธอดังพวงอินทผลัม ฉันจึงคิดว่า ฉันจะปีนขึ้นต้นอินทผลัมนั้น ฉันจะจับกิ่งก้านเหนี่ยวไว้ ขอให้ถันทั้งสองของเธองามดังพวงองุ่นเถอะ และขอให้ลมหายใจของเธอหอมดังลูกท้อเถิด
ปัญญาจารย์
บรรยายความเป็นไปของโลก ความสุข ความสนุกสบายต่างๆ ภายใต้ดวงอาทิตย์ สุดท้ายล้วนแต่อนิจจัง (ภาษาเดิมคือ ทุกสิ่งล้วนว่างเปล่า emptiness) แต่งโดยพระราชาซาโลมอนในวัยชรา ซึ่งหลงไปจากทางพระเจ้า ใช้ชีวิตเพื่อบำรุงบำเรอความสุขของตัวเองในทุกสิ่งทุกอย่างจนถึงกับกล่าวคำนี้ออกมาว่า "อนิจจัง อนิจจัง ทุกสิ่งล้วนอนิจจัง" ซึ่งคำนี้ถูกกล่าวไว้ถึง 30 ข้อด้วยกัน
ปัญญาจารย์ 3:19 เพราะว่าเคราะห์ของบรรดามนุษย์กับเคราะห์ของสัตว์นั้นเหมือนกัน ฝ่ายหนึ่งตาย อีกฝ่ายหนึ่งก็ตายเหมือนกัน ทั้งสองมีลมหายใจอย่างเดียวกัน และมนุษย์ไม่มีอะไรดีกว่าสัตว์ เพราะสารพัดก็อนิจจัง
ปัญญาจารย์ 12:13-14 จบเรื่องแล้ว ได้ฟังกันทั้งสิ้นแล้ว จงยำเกรงพระเจ้า และรักษาพระบัญญัติของพระองค์ เพราะสิ่งนี้เป็นหน้าที่ของมนุษย์ทั้งปวง เพราะว่าพระเจ้าจะทรงเอาการงานทุกอย่างเข้าสู่การพิพากษาพร้อมด้วยสิ่งเร้นลับทุกอย่าง ไม่ว่าดีหรือชั่วซาโลมอนพระราชาที่ยิ่งใหญ่เปี่ยมด้วยพระสติปัญญา แต่งข้อความที่เป็นพระวจนะพระเจ้า ซึ่งล้วนแต่ดียอดเยี่ยมทุกข้อ แต่ตัวเองกลับไม่ติดตามพระเจ้าอย่างสุดใจ เป็นเหตุให้ลูกหลานวงศ์วานของตัวเองและอาณาจักรอิสราเอลทั้งสิ้นไปสู่ความตกต่ำอย่างไม่สามารถกู้คืนได้อีกด้วยฝีมือของมนุษย์
ชีวิตที่มีพระเจ้าแต่ไม่ยำเกรงพระเจ้า แม้จะมีความรู้ทั้งสิ้นและความพร้อมในทุกด้าน ก็ช่วยตัวเองไม่ได้... อนิจจังครับ
ความคิดเห็น