โดย กนก ลีฬหเกรียงไกร
![]() |
พิธีมหาสนิท พิธีที่มีความหมายมากสำหรับคริสเตียน |
เราควรเรียกพิธีนี้ว่า "พิธีมหาสนิท" หรือ "พิธีศีลมหาสนิท"
คำว่า "ศีล" เป็นคำของคาทอลิก (ซึ่งไม่ได้แปลว่าข้อห้าม หรือข้อปฏิบัติตนขั้นพื้นฐานนะครับ สำหรับเขาแปลว่าพิธีศักดิ์สิทธิ์ หรือ Holy) แต่สำหรับโปรเตสแตนท์ (Evangelical / Pentecost / Charismatic) ไม่มีคำว่า "ศีล" นะครับ
ฉะนั้นเราน่าจะเรียกว่า พิธีมหาสนิท มากกว่า พิธีศีล ...แต่ทำไมคริสเตียนหลายคนยังเรียกแบบนี้อยู่?
เพราะในพระคัมภีร์ไทยฉบับแปล 1971 มีคำนี้ครับ แต่เป็นคำที่เป็น "หัวเรื่อง" ไม่ใช่ "เนื้อหา" พระคัมภีร์ ซึ่งเราไม่นับว่าเป็นพระวจนะพระเจ้าครับ เช่น
ตอนหนึ่งมีหัวเรื่องว่า "ศีลมหาสนิท" แต่ในเนื้อหาพระคัมภีร์ในตอนนี้ไม่มีคำนี้ เป็นการอธิบายไปเลยว่าพระองค์ทำอะไร
มัทธิว 26:26 ระหว่างอาหารมื้อนั้น พระเยซูทรงหยิบขนมปังมา และเมื่อถวายสาธุการแล้ว ทรงหักส่งให้แก่เหล่าสาวกตรัสว่า “จงรับกินเถิด นี่เป็นกายของเรา”
มาระโก 14:22 ระหว่างอาหารมื้อนั้น พระเยซูทรงหยิบขนมปังมา เมื่อถวายคำสาธุการแล้ว ทรงหักส่งให้แก่เหล่าสาวกตรัสว่า “จงรับเถิด นี่เป็นกายของเรา”สำหรับพระคัมภีร์ฉบับแปลใหม่ 2011 ทางสมาคมฯ ได้เปลี่ยนหัวข้อให้ตรงกับความคิดนี้ คือไม่มีคำว่า "ศีล" แล้ว
ฉะนั้น การเรียกพิธีนี้ให้ถูกตามแบบของเรา ควรเรียกว่า "พิธีมหาสนิท" ครับ ส่วนคำย่อๆ แบบไม่อยากพูดให้ยาวๆ แบบ "พิธีศีล" อันนั้นอย่าเลยครับ เพราะไม่ถูกต้องในมุมมองของเรา แต่เราก็ไม่ควรไปว่าใคร เพราะคริสเตียนหลายคนก็เกิดก่อนปี 2011 อาจจะติดคำประเภทนี้มาได้ เหมือนชื่อพระคัมภีร์ที่หลายคนยังติดคำว่า เอเฟโซ หรือ โคโลซาย เพราะบางคนอาจจะพูดติดปากไปแล้ว
มีการถกเถียงว่าไม่ควรรับบ่อยๆ เพระบางคริสตจักรก็รับเดือนละครั้ง หรือต้องรอให้ ศาสนาจารย์มาทำพิธีเท่านั้น แล้วเราควรมีมุมมองอย่างไร
![]() |
Agape Feast พิธีมหาสนิทในคริสตจักรสมัยแรก |
เรื่องนี้ไม่ใช่เป็นเรื่องของความถี่ครับ แต่เป็นเรื่องความเหมาะสมมากกว่า
กลุ่มคริสตจักรยุคปฏิรูป จึงตกลงใจที่จะสร้างระเบียบออกมา โดยให้เฉพาะผู้นำระดับสูงเป็นผู้ทำพิธีนี้ครับ ต่อมาก็เป็น ศิษยาภิบาล ศาสนาจารย์ ผู้ปกครอง หรือมัคนายก ไป ตามกาลเวลา
คำแนะนำส่วนตัว พิธีนี้สำคัญครับ ไม่ควรทำอย่างลวกๆ หรือผ่านๆ ครับ คนที่รับผิดชอบพิธีนี้ต้องทำให้ดี มีความหมาย อุปกรณ์ต่างๆ น้ำองุ่น ขนมปัง ก็อย่าไปทานเล่น พ่อแม่ควรดูแลลูกของเราอย่าให้ไปทานหรือไปเล่นน้ำองุ่น ขนมปังในระหว่างพิธี เพราะต่อไปเขาต้องโตขึ้นมาและเรียนรู้ว่าพิธีนี้มีความหมายอย่างไร มีผลต่อความรอดอย่างไร ถ้าอยากทานก็ให้ไปทานที่บ้าน หรือหลังจบพิธีไปนานๆ หน่อย ให้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่แยกออกเพื่อความหมายที่ดี ไม่ใช่รวมๆ ไปกับขนมที่เราทานเล่นเป็นปกติโดยไม่คิดอะไร
กิจการของอัครทูต 2:46 ทุกๆ วัน พวกเขาอุทิศตัวอยู่ด้วยกันในพระวิหารและหักขนมปังตามบ้านของพวกเขา รับประทานอาหารร่วมกันด้วยความชื่นชมยินดีและจริงใจสมัยหลัง ค.ศ.1517 คาทอลิกโจมตีโปรเตสแตนท์มากในเรื่องการไม่ให้เกียรติพระเยซูในพิธีมหาสนิท เพราะมีการทำมหาสนิทโดยคนธรรมดาที่ไม่ใช่บาทหลวง, มีการใช้อุปกรณ์ต่างๆ ธรรมดาเกินไป (คาทอลิกเขาอุปกรณ์สวยงามราคาแพง), ลำดับพิธีก็ง่ายและเร็วเกินไป
กลุ่มคริสตจักรยุคปฏิรูป จึงตกลงใจที่จะสร้างระเบียบออกมา โดยให้เฉพาะผู้นำระดับสูงเป็นผู้ทำพิธีนี้ครับ ต่อมาก็เป็น ศิษยาภิบาล ศาสนาจารย์ ผู้ปกครอง หรือมัคนายก ไป ตามกาลเวลา
คำแนะนำส่วนตัว พิธีนี้สำคัญครับ ไม่ควรทำอย่างลวกๆ หรือผ่านๆ ครับ คนที่รับผิดชอบพิธีนี้ต้องทำให้ดี มีความหมาย อุปกรณ์ต่างๆ น้ำองุ่น ขนมปัง ก็อย่าไปทานเล่น พ่อแม่ควรดูแลลูกของเราอย่าให้ไปทานหรือไปเล่นน้ำองุ่น ขนมปังในระหว่างพิธี เพราะต่อไปเขาต้องโตขึ้นมาและเรียนรู้ว่าพิธีนี้มีความหมายอย่างไร มีผลต่อความรอดอย่างไร ถ้าอยากทานก็ให้ไปทานที่บ้าน หรือหลังจบพิธีไปนานๆ หน่อย ให้รู้สึกว่าเป็นสิ่งที่แยกออกเพื่อความหมายที่ดี ไม่ใช่รวมๆ ไปกับขนมที่เราทานเล่นเป็นปกติโดยไม่คิดอะไร
พิธีมหาสนิท กับพิธีปัสกา เป็นเรื่องเดียวกับหรือเปล่า
พิธีมหาสนิทของคริสเตียน ไม่ใช่พิธีปัสกาของศาสนายูดาย แต่เป็นการให้ความหมายใหม่โดยพระเยซูในวันปัสกา พระองค์ทรงนำเอาอุปกรณ์ของปัสกามา 2 อย่าง คือ ขนมปังและน้ำองุ่น จริงๆ พิธีปัสกาของยิวจะมีรายละเอียดซับซ้อนมากกว่านั้นเยอะ
ฉะนั้นผมจึงเห็นว่า เวลาเราพูด ควรจะพูดไปเลยว่า "ให้เราเข้าสู่พิธีมหาสนิทด้วยกัน" ไม่ต้องไปอ้างอิงปัสกาโดยพูดว่า "ให้เรามาสู่ปัสกาของพระเจ้าด้วยกัน"
ขนมปังเล็งถึงพระกายที่แตกหักเพื่อเราทั้งหลาย พูดแบบนี้ได้ไหม
"ขนมปังเล็งถึงพระกายที่แตกหักเพื่อเราทั้งหลาย" อันนี้ถ้าฟังผ่านๆ ไม่มีอะไร เราอาจบรรยายความรู้สึกเสียสละของพระเยซูเพื่อเรา แต่ถ้าเอาให้ลึก กระดูกของพระเยซูไม่ได้หักแม้แต่ซี่เดียว ผมจึงเสนอให้พูดแค่ "ขนมปังเล็งถึงพระกายของพระเยซูที่มอบไว้แก่เรา หรือ ที่ทรงตายเพื่อเรา" ก็พอยอห์น 19:36เพราะสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นเพื่อให้เป็นจริงตามข้อพระคัมภีร์ที่ว่า “พระอัฐิของพระองค์จะไม่หักสักชิ้นเดียว”
ความคิดเห็น