โดย กนก ลีฬหเกรียงไกร
1. เขาจะเป็นผู้ที่รักการนมัสการ แม้ในขณะที่ไม่มีใครมองเห็น
ผู้นำนมัสการที่ดี จริงๆ แล้วเขาเพียงแสดงออกชีวิตแห่งการนมัสการของเขาอย่างเป็นธรรมชาติเป็นปกติวิสัยของเขาเองบนเวที ความเป็นธรรมชาติในการนมัสการจะแตะใจที่ประชุมให้เข้าสู่การนมัสการที่ลึกซึ้งเป็นความจริงแท้ในชีวิตได้ง่าย เพราะการนมัสการไม่ใช่การแสดงของใครคนใดคนหนึ่ง แต่เป็นการแสดงออกถึงความรักที่มีต่อพระเจ้าและเห็นคุณค่าพระองค์อย่างลึกซึ้ง2. เขาไม่จำเป็นต้องเด่นกว่าใครๆ บนเวที
ผู้นำนมัสการที่มีความเติบโตฝ่ายวิญญาณไม่มีความรู้สึกอะไรหากนักร้องหรือนักดนตรีมีความโดดเด่นมากกว่าเขา เพราะเขาจะชื่นชมยินดีในการทำงานร่วมกันเป็นทีมเพื่อนำที่ประชุมพบพระเจ้า
3. เขาจะหนุนใจทุกคนในทีมนมัสการให้การนมัสการออกมาอย่างดีที่สุดเพื่อพระเจ้า
ผู้นำนมัสการที่เติบโตฝ่ายวิญญาณย่อมปรารถนาชีวิตที่ใกล้ชิดพระเจ้าและรับรู้ถึงบทบาทของตัวเองในการนำ และพร้อมหนุนใจผลักดันทีมนมัสการเพื่อให้เกิดความเป็นเลิศในบทบาทของแต่ละคนทั้งนักดนตรีและนักร้อง เพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีที่สุดในการนำนมัสการแต่ละครั้ง4. เขาจะมีชีวิตเต็มด้วยพระวจนะ ไม่ใช่แค่ด้วยพระวิญญาณ
ยอห์น 4:23-24 แต่วาระนั้นใกล้เข้ามาแล้ว และบัดนี้ก็ถึงแล้ว คือเมื่อคนที่นมัสการอย่างแท้จริงจะนมัสการพระบิดาด้วยจิตวิญญาณและความจริง เพราะว่าพระบิดาทรงแสวงหาคนเช่นนั้นมานมัสการพระองค์ พระเจ้าเป็นพระวิญญาณ และคนที่นมัสการพระองค์จะต้องนมัสการด้วยจิตวิญญาณและความจริง
พระวจนะพระเจ้ามีความสำคัญมาก เป็นรากฐานของการนมัสการและทุกสิ่งในชีวิตคริสเตียน ผู้ที่นบนอบเชื่อฟังพระวจนะพระเจ้าจะสามารถเป็นผู้นำนมัสการที่ดีได้อย่างแน่นอน
5. เขาจะสามารถถ่ายทอดความรู้ทั้งศาสตร์และศิลป์ให้แก่ทีมนมัสการได้
ผู้นำนมัสการที่มีประสิทธิภาพย่อมสามารถพัฒนาทีมนมัสการและผู้นำนมัสการคนอื่นๆ ได้ให้สามารถเข้าใจทั้งหลักการและศิลปะในการนำที่ประชุมเพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ดีในการนมัสการ6. เขาจะมุ่งเน้นการสร้างลักษณะชีวิตในทางพระเจ้ามากกว่าเน้นที่ทักษะความสามารถ
ผู้นำนมัสการที่แท้จริงเขาไม่ได้มุ่งเน้นหลักที่ความสามารถหรือทักษะ จริงๆ ทักษะความสามารถไม่ใช่ว่าไม่สำคัญ แต่จะต้องระลึกไว้เสมอว่าบทบาทหน้าที่ในการรับใช้ใดๆ จะไปได้ไกลเท่าที่ระดับการเติบโตฝ่ายวิญญาณของเราเป็น7. เขาจะรับใช้พระเจ้าตามการทรงเรียก ไม่ใช่การว่าจ้างหรือเป็นอาชีพที่เน้นค่าตอบแทน
หลายครั้งเราพบว่าผู้นำนมัสการที่มีความสามารถมากๆ นักร้องนักดนตรีมืออาชีพ เขาคาดหวังค่าตอบแทนจากการที่เขาสามารถทำได้ดีในการนมัสการหรือร้องเล่นดนตรีในโบสถ์ ค่าตอบแทนอาจจะเป็นเงินหรือการให้เกียรติ แต่เราจะรับใช้พระเจ้าบนพื้นฐานเงินหรือผลประโยชน์ไม่ได้ แม้แต่ผู้รับใช้เต็มเวลาด้านการนมัสการยังต้องนบนอบต่อคริสตจักร ไม่ใช่มาด้วยท่าทีเรียกร้องค่าตอบแทนจากความสามารถของตนเอง8. เขาจะมีความไวต่อการเคลื่อนไหวของพระวิญญาณบริสุทธิ์
ผู้นำนมัสการที่มีชีวิตกับพระเจ้าย่อมพร้อมจะเคลื่อนไปกับพระวิญญาณบริสุทธิ์ เขาจะฟังเสียงของพระเจ้าในการนำนมัสการ ไม่ใช่นำแบบศิลปินที่แสดงอยู่บนเวที แต่เขาจะฟังพระเจ้าและตอบสนองพระองค์ในการเคลื่อนไหวที่ประชุม9. เขาจะยืดหยุ่นในการนำ แต่ก็เคารพการตัดสินใจของผู้นำคริสตจักร
ผู้นำนมัสการมีความเติบโตฝ่ายวิญญาณจะเข้าใจเรื่องการเคารพในสิทธิอำนาจของผู้นำคริสตจักร และไม่ทำอะไรที่เกินเส้นแห่งการตัดสินใจใดใดที่ล้ำเส้นผู้นำ ถ้าผู้นำเห็นว่าสมควรแก่เวลาต้องหยุดก่อน ผู้นำนมัสการที่เติบโตย่อมไม่รู้สึกสะดุดอะไร แต่กลับอยากจะร่วมมือกับผู้นำ ไม่ใช่เกิดความรู้สึกไม่พอใจขึ้นมาทันที แบบนี้ไม่ใช่การแสดงออกของคนที่มีความเข้าใจเช่นกันในการแต่งเพลงหรือเลือกเพลงก็ยินดีรับฟังมุมมองศาสนศาสตร์และการตัดสินใจของผู้นำคริสตจักรด้วย โดยเฉพาะหลายคริสตจักรเริ่มมีการใช้คณะกรรมการเพื่อแนะนำเนื้อเพลงนมัสการในปัจจุบัน ไม่ใช่เกิดความรู้สึกโกรธหรือไม่พอใจทุกครั้งที่มีการแนะนำในเรื่องนี้
10. เขาจะนำพาทีมนมัสการให้สนับสนุนนิมิตของคริสตจักร
ผู้นำนมัสการที่รักพระเจ้าจะพาทีมของเขาร่วมนิมิตของคริสตจักร ไม่พาคนมาติดอยู่กับตัวเองหรือความตั้งใจส่วนตัว แต่จะหาทางสนับสนุนให้นิมิตของคริสตจักรสำเร็จด้วยดีอ้างอิง
- 10 Traits of Spiritually Mature Worship Leaders, Joseph Mattera.
- What Does a Worship Leader Do?, Bob Kauflin.
ความคิดเห็น