โดย กนก ลีฬหเกรียงไกร
ผมว่าคนยุคนี้ชอบไอเดียคิดใหญ่นะครับ เพราะมันน่าคิด มันน่าสนุก น่าใฝ่ฝันเสียจริงๆ แต่เชื่อไหมครับก่อนที่จะมีไอเดียนี้ และหลังจากที่ไอเดียนี้ถูกถ่ายทอดออกไป อัตราความล้มเหลวของธุรกิจก็ไม่ได้เปลี่ยนแปลงอะไรเลย ความสำเร็จของธุรกิจก็ยังคงมีองค์ประกอบพื้นฐานเหมือนเดิม บางทีไอเดียคิดใหญ่ (แต่คิดไม่เป็น ทำไม่เป็น) กลับเป็นไอเดียที่ทำร้ายผู้บริหารและคนในองค์กรอย่างไม่รู้ตัว
วันนี้ขอนำเสนอ 7 สาเหตุของผู้บริหารที่คิดการใหญ่แต่ไปไม่รอด ที่สรุปคร่าวๆ มาจากหนังสือ The magic of thinking big, David J.Schwartz
1. คิดใหญ่แต่ใจร้อน ไม่ประเมินตนเอง
คนมั่นใจตัวเองมากไปไม่ใช่จะดี เขาจะเอาแต่ใจ ไม่ฟังใคร ทำงานมีแต่ใช้อารมณ์ เอาตัวเองเป็นใหญ่
คนมั่นใจตัวเองมากไปไม่ใช่จะดี เขาจะเอาแต่ใจ ไม่ฟังใคร ทำงานมีแต่ใช้อารมณ์ เอาตัวเองเป็นใหญ่
2. กำจัดทุกคนที่ขวางทาง
คนใหม่คนเก่า ใครพูดขัดหู กำจัดให้หมด สุดท้ายจะเหลือแต่ขุนพลอยพยักที่เห็นด้วยกับคุณทุกเรื่องเวลาประชุมเพราะเขาก็กลัวการถูกกำจัดเหมือนกัน นั่นเป็นภาวะที่อันตรายมาก
คนใหม่คนเก่า ใครพูดขัดหู กำจัดให้หมด สุดท้ายจะเหลือแต่ขุนพลอยพยักที่เห็นด้วยกับคุณทุกเรื่องเวลาประชุมเพราะเขาก็กลัวการถูกกำจัดเหมือนกัน นั่นเป็นภาวะที่อันตรายมาก
3. คุณไม่มีเวลาให้กับธุรกิจเลย
บางครั้งปัญหาอาจไม่ได้เกิดจากตัวสินค้า แต่เกิดจากตัวคุณเอง ปัจจัยในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้นก็ขึ้นอยู่กับการบริหารคนและการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเป็นระบบด้วย ในกระบวนการเหล่านี้ก็ใช้เวลาไม่น้อย
บางครั้งปัญหาอาจไม่ได้เกิดจากตัวสินค้า แต่เกิดจากตัวคุณเอง ปัจจัยในการทำธุรกิจให้ประสบความสำเร็จนั้นก็ขึ้นอยู่กับการบริหารคนและการจัดสรรทรัพยากรที่มีอยู่อย่างเป็นระบบด้วย ในกระบวนการเหล่านี้ก็ใช้เวลาไม่น้อย
4. ต้อนเพื่อนพ้องมาทำงานโดยไม่มองศักยภาพของเขาเลย
นอกจากคนในองค์กรจะขาดกำลังใจ เพราะเด็กเส้นเหล่านั้น แทนที่พวกเขาจะเป็นการช่วยกันสร้างกิจการ จะกลายเป็นการช่วยล้มหมอน นอนเสื่อกิจการเตรียมหอบเสื่อกลับบ้านเกิด เพราะทำงานไม่เป็นเอาเสียเลย
นอกจากคนในองค์กรจะขาดกำลังใจ เพราะเด็กเส้นเหล่านั้น แทนที่พวกเขาจะเป็นการช่วยกันสร้างกิจการ จะกลายเป็นการช่วยล้มหมอน นอนเสื่อกิจการเตรียมหอบเสื่อกลับบ้านเกิด เพราะทำงานไม่เป็นเอาเสียเลย
5. ไม่สนใจลูกค้าว่าเขาอยากได้อะไร
คิดเอง เออเอง ไม่ฟังใคร ไม่ศึกษาอะไรอย่างเปิดใจ เปิดร้านมารอตบยุงได้เลย
คิดเอง เออเอง ไม่ฟังใคร ไม่ศึกษาอะไรอย่างเปิดใจ เปิดร้านมารอตบยุงได้เลย
6. หูตาไม่ไว ไม่ใส่ใจตลาด ไม่สนใจเทคโนโลยี
ถ้าเราตามโลกไม่ทัน เราก็ตามผู้บริโภคไม่ทัน การตลาดสมัยนี้กับความเข้าใจเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่แยกไม่ได้แล้วครับ อย่างน้อยการซื้อขายปัจจุบันความสัมพันธ์ของโลกออนไลน์และออฟไลน์เป็นสิ่งที่เราต้องเข้าใจ
ถ้าเราตามโลกไม่ทัน เราก็ตามผู้บริโภคไม่ทัน การตลาดสมัยนี้กับความเข้าใจเทคโนโลยีเป็นสิ่งที่แยกไม่ได้แล้วครับ อย่างน้อยการซื้อขายปัจจุบันความสัมพันธ์ของโลกออนไลน์และออฟไลน์เป็นสิ่งที่เราต้องเข้าใจ
7. ลำพองในความสำเร็จ ไม่พัฒนาต่อยอด
ความสำเร็จในอดีต มันเป็นแค่อดีตนะ ไม่ใช่ความสำเร็จวันนี้ หรืออนาคต วิธีการที่ทำให้สำเร็จในอดีตพูดตามตรง ไม่สามารถใช้ในปัจจุบันและอนาคตได้ตรงๆ หรอกครับ ฉะนั้นเมื่อใดลำพอง พอใจอยู่กับความสำเร็จในอดีตแล้วละก็ นับถอยหลังความล้มเหลวได้เลย ไม่ต้องขอมันก็มา
ความสำเร็จในอดีต มันเป็นแค่อดีตนะ ไม่ใช่ความสำเร็จวันนี้ หรืออนาคต วิธีการที่ทำให้สำเร็จในอดีตพูดตามตรง ไม่สามารถใช้ในปัจจุบันและอนาคตได้ตรงๆ หรอกครับ ฉะนั้นเมื่อใดลำพอง พอใจอยู่กับความสำเร็จในอดีตแล้วละก็ นับถอยหลังความล้มเหลวได้เลย ไม่ต้องขอมันก็มา
ความคิดเห็น