หากเรารู้และเข้าใจค่านิยมวัฒนธรรมแบบไทย ๆ เราจะรู้จุดยืนและเอาชนะบางอย่างได้เพื่อให้เกิดความก้าวหน้าทางความคิดไปจนถึงเศรษฐกิจในสังคมสมัยใหม่ได้โดยไม่ต้องชนกับแนวคิดดั้งเดิมที่ทำให้คนไทยไม่ไปไหนเท่าที่ควร
ค่านิยมวัฒนธรรมแบบไทย ๆ ที่มีทั้งดีและต้องปรับปรุงครั้งใหญ่ ได้แก่
1. ยึดบุคคลมากกว่าหลักการ
คนไทยจะยอมรับความเห็นของคนที่มีสถานภาพได้ง่ายและมากกว่าเนื้อหาหลักการ
สิ่งที่ท้าทายในการเปลี่ยนแปลง-คนเก่งพยายามสร้างสถานภาพบางอย่างให้ชัดเจน และปลูกฝังคนทุกรุ่นให้พยายามฟังเนื้อหามากกว่าสถานภาพ
2. ยกย่องคนมียศหรือตำแหน่ง
หมายถึง คนที่มีคำนำหน้าชื่อ คนที่มีบทบาททางสังคมหรือการเมือง ยศตำรวจทหารตำรวจ สส. พระ นพ. ดร. ศ. รศ. ผศ. ผอ. ครู หรืออะไรประมาณนั้น พวกนี้พูดอะไรคนมักจะยอมรับ แต่สื่อสมัยใหม่ทำให้กลุ่มนี้ถูกตรวจสอบง่ายกว่าเดิมและเกิดวิกฤตศรัทธาได้เร็วกว่าคนธรรมดา
สิ่งที่ท้าทายในการเปลี่ยนแปลง-หากเรามียศ ให้ถือว่ายศเป็นเพียงเครื่องมือรับรองศักยภาพ เราต้องพัฒนาศักยภาพให้เพิ่มขึ้นมากกว่าการอวดยศ ยศส่วนใหญ่เกิดการการมุ่งพัฒนาตนเอง ให้เราเน้นการพัฒนาในเรื่องต่าง ๆ อย่างเต็มที่จะดีกว่า
3. การไม่ค่อยยึดระเบียบแบบแผน
มองว่าระเบียบเป็นเรื่องของผู้น้อย ถ้าผู้ใหญ่จะทำอะไรต้องมีสิทธิพิเศษ มากไปกว่านั้นการบรรลุเป้าหมายโดยใช้วิธีนอกระเบียบเป็นสิ่งที่พบเห็นเป็นประจำ ตั้งแต่ระบบอุปถัมภ์ไปจนถึงการติดสินบน
สิ่งที่ท้าทายในการเปลี่ยนแปลง-สร้างระเบียบที่เป็นธรรมมีประสิทธิภาพ มีระบบตรวจสอบ Check and Balance ที่ดี และรักษาระเบียบอย่าถืออภิสิทธิ์ หากไม่สะดวกให้เน้นที่การแก้ไขระเบียบมากกว่าการล้ำเส้นด้วยการเสนอผลประโยชน์
4. การไม่รักษาคำพูด
คนไทยไม่ค่อยถือเป็นเรื่องสำคัญใหญ่โต พูดไปก่อน พอทำไม่ได้ก็ให้เห็นผลต่างต่างนานา หรือไม่ก็บอกปัดว่า "พอแล้ว จะเอาอะไรนักหนา" หรือพูดลักษณะหาเรื่อง เช่น "แล้วจะเอายังไง" เราพบได้ในระดับปัจเจกจนไปถึงนักการเมืองในปัจจุบัน
สิ่งที่ท้าทายในการเปลี่ยนแปลง-กล้าหาญในการยืนยันบทลงโทษทางสังคม (social saction) กับคนที่ผิดคำพูด และเราเองรับปากอะไรให้ทำให้ได้ ทำไม่ได้อย่าเพิ่งรับปาก อาจจะขอคิดก่อนหรือปฏิเสธจะดีกว่า
5. การพูดอ้อมค้อมหรือไม่แสดงทัศนะอย่างตรงไปตรงมา
คนไทยรู้สึกว่าเป็นการไม่สมควรหากต้องพูดตรง และหากใครพูดตรงก็จจะถูกมองว่าก้าวร้าว ทำให้สังคมไทยต้องเดาใจกันอยู่ตลอดเวลา
สิ่งที่ท้าทายในการเปลี่ยนแปลง-เรื่องนี้เป็นวัฒนธรรมร่วมของเอเซีย ผมมองว่าคงจะเป็นอย่างนั้น อาจจะต้องฝึกการเดาใจ และฝึกการพูดอ้อมแบบให้รู้เรื่อง หากต้องการพูดตรงจริง ๆ ควรคุยส่วนตัวหรือไม่ทำให้อีกฝ่ายเสียหน้า
6. ขาดการวิเคราะห์
ชอบทำอะไรง่าย ๆ สรุป ๆ ทำให้วัฒนธรรมไทยไม่ค่อยเปลี่ยนแปลง ทำอะไรก็ทำตาม ๆ กันไปโดยขาดการคิดวิเคราะห์ ผลคือเชื่อข่าวลือง่าย หลอกง่าย ถูกชักชวนไปในทางที่ผิดง่าย ขาดการพัฒนาแม้สิ่งง่าย ๆ รอบ ๆ ตัว ขาดนวัตกรรม
สิ่งที่ท้าทายในการเปลี่ยนแปลง-ลงแรงกับการรู้จริง อ่านหนังสือให้มาก คิดก่อนแสดงความเห็น ถามตัวเองบ่อย ๆ ว่า มีวิธีอื่นที่ดีกว่านี้ไหม
7. ขาดการวางแผน
คนไทยไม่ชอบการเปลี่ยนแปลง ไม่ชอบอะไรที่ยุ่งยาก คิดเยอะ เป็นที่มาของการไม่วางแผนไปด้วย หากเกิดปัญหาก็จะปล่อยให้คนลืมไปเอง หรือไม่ก็หาทางเอาตัวรอด
สิ่งที่ท้าทายในการเปลี่ยนแปลง-วางแผน เริ่มจากลงนัดหมายและกิจกรรมสำคัญในปฏิทิน และอย่าคิดว่าทุกอย่างจะเรียบร้อยเสมอไป
8. ไม่กล้าตัดสินใจและปัดความรับผิดชอบ
เนื่องจากคนไทยกลัวเกินหน้าเกินตาผู้ใหญ่ กลัวความรู้สึกว่าคนอื่นจะมองว่าก้าวร้าว ไม่กล้าแสดงความเห็น ไม่กล้าคิดนอกกรอบ ขาดการวิเคราะห์วางแผน ทั้งหมดจึงทำให้ไม่มีความรู้มากพอในการตัดสินใจ
สิ่งที่ท้าทายในการเปลี่ยนแปลง-เมื่อมีความเข้าใจต้องใช้ความกล้าและรับผิดชอบผล ไม่โทษคนอื่น และการศึกษาให้ลึกในสิ่งที่ทำช่วยได้เสมอ
9. ทำงานเป็นทีมไม่เป็น
คนไทยรักอิสระ ไม่ชอบทำงานเป็นกลุ่ม ไม่ชอบระเบียบกติกา ขาดทักษะมนุษย์ พอมีปัญหาขัดแย้งก็แยกย้ายทางใครทางมัน
สิ่งที่ท้าทายในการเปลี่ยนแปลง-ฝึกฝนทักษะมนุษย์ เพราะยังไงการทำงานเป็นทีมเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้อยู่แล้ว และหากมีการกระจายงานในทีม ขอให้ทำงานในส่วนของตัวเองให้ดีที่สุด ส่งงานตรงเวลาเสมอ
"ข่าวร้ายคือวัฒนธรรมแบบไทย ๆ ทั้งหมดนี้สามารถส่งต่อรุ่นสู่รุ่นโดยไม่เกี่ยวกับเจนไหน ๆ ข่าวดีคือเราเปลี่ยนแปลงมันได้ เริ่มตั้งแต่วันนี้ หรือเดี๋ยวนี้ยังได้เลย"
ความเก่งรายบุคคลก็เรื่องหนึ่ง แต่วัฒนธรรมเป็นตัวตัดสินความก้าวหน้าของสังคม และนั่นเป็นเรื่องที่เราควรใส่ใจ

ความคิดเห็น