ประสบการณ์แช่ตัวในพระวิญญาณฯ (Soaking in Spirit) ความหมิ่นเหม่ที่คริสเตียนพึงระวัง

คริสเตียนกลุ่มเน้นประสบการณ์ฝ่ายวิญญาณ บางกลุ่มพูดถึงประสบการณ์แช่ตัวในพระวิญญาณฯ หรือ Soaking in Spirit คืออาการนิ่งสงบ อาจเกิดขึ้นระหว่างนมัสการ หรืออธิษฐาน ทำใจให้จดจ่อที่พระเจ้าโดยไม่ให้อะไรมารบกวน จนกระทั่งเขารู้สึก "ถูกสัมผัส" ทางฝ่ายร่างกายหรือจิตใจในลักษณะเหมือนความร้อนผ่าว อบอุ่น หรือรู้สึกท่วมท้นขึ้นมาในใจ ก็จะเรียกว่าประสบการณ์ "การท่วมท้นในพระวิญญาณ"

Soaking หรือการแช่ตัวอย่างเปียกชุ่ม ให้ภาพเหมือนพระวิญญาณฯ อยู่ข้างนอกเปรียบเสมือนน้ำแล้วเอาตัวเราเข้าไปแช่ในนั้น แต่เราต้องไม่ลืมว่าประสบการณ์นี้ไม่มีในพระคัมภีร์ พระคัมภีร์มักพูดถึงประสบการณ์การเต็มล้นในพระวิญญาณฯ โดยให้ภาพเหมือนพระวิญญาณฯ อยู่ในเราอยู่แล้ว และทรงออกฤทธิ์เอ่อล้นแผ่ซ่านขึ้นมาจากภายใน และประสบการณ์การถูกเติมให้เต็ม (be filled) ด้วยพระวิญญาณฯ เพื่อการบางอย่างตามการทรงนำของพระวิญญาณบริสุทธิ์ในซึ่งเป็นประสบการณ์ที่ตรงกับพระคัมภีร์มากกว่า (กิจการของอัครทูต 4:8; 6:3; 9:17; 1 โครินธ์ 6:19)

ผู้ที่อธิบายความรู้สึกแช่ตัวมักให้มโนภาพเหมือนโยชูวาในเต็นท์นัดพบของโมเสสซึ่งยังคงไม่ออกไปจากเต็นท์แม้โมเสสจะออกไปแล้วเพื่อปรารถนาจะรับประสบการณ์เดียวกับโมเสสที่ได้สัมผัสการทรงสถิตกับพระเจ้าสองต่อสอง

อพยพ 33:11 พระ​ยาห์​เวห์​เคย​ตรัส​กับ​โมเสส​สอง​ต่อ​สอง เหมือน​มิตร​สหาย​สนทนา​กัน แล้ว​โม​เสส​ก็​กลับ​ไป​ยัง​ค่าย แต่​ผู้​รับ​ใช้​หนุ่ม​ของ​ท่าน คือ​โย​ชู​วา​บุตร​นูน ไม่​ได้​ออก​ไป​จาก​เต็นท์

ความรู้สึกดังกล่าวน่าจะอธิบายเป็นเรื่องของใจแสวงหาการทรงสถิตมากกว่าการแช่ตัวเพราะการสนทนาของพระเจ้าได้จบลงแล้วกับโมเสสและเต็นท์นั้น "ว่างเปล่าไปแล้ว"

ประสบการณ์การแช่ตัวของกลุ่มที่เชื่อแบบนี้จะสร้างบรรยากาศที่คาดหวังการทรงสถิตจากพระเจ้าแล้วรั้ง ยั้ง แช่ (หรือแช่อิ่ม) ในความรู้สึกนั้น ในการประชุมนมัสการลักษณะนี้ (Soaking Worship) อาจมีการร้องเพลงในลักษณะซ้ำท่อนวน การใช้ดนตรีที่มีการเล่นซ้ำวนไปเรื่อยๆ บางครั้งให้สมาชิกนอนราบ คุกเข่า ก้มกราบ ที่อาจใช้เวลานาน โดยเฉพาะเมื่อนอนราบอาจมีการพูดเหมือนกล่อมว่าพระวิญญาณฯ ค่อยๆ ชโลมลงมาจนเปียกชุ่ม บางครั้งหรี่หรือปิดไฟ ผู้นำพูดขณะสมาชิกหลับตาเหมือนช่วงยืดกล้ามเนื้อของโยคะ เป็นต้น

1 ยอห์น 2:27 ส่วน​ท่าน​ทั้ง​หลาย การ​ชโลม​ซึ่ง​ท่าน​ได้​รับ​จาก​พระ​องค์​นั้น​ก็​ดำ​รง​อยู่​กับ​ท่าน และ​ไม่​จำ​เป็น​ต้อง​มี​ใคร​สอน​ท่าน เพราะ​ว่า​การ​ชโลม​ของ​พระ​องค์​นั้น​สอน​ท่าน​ให้​รู้​ทุก​สิ่ง และ​เป็น​ความ​จริง ไม่​ใช่​ความ​เท็จ การ​ชโลม​นั้น​สอน​พวก​ท่าน​แล้ว​อย่างไร ท่าน​จง​อยู่​ใน​พระ​องค์​อย่าง​นั้น

ตอนนี้ให้ภาพการเจิม หรือการสถิตของพระวิญญาณฯ เหมือนน้ำมันชโลมในชีวิต แต่คำว่าดำรง (resides-μένω) ให้ภาพของการมีอยู่แล้วและยังคงดำเนินต่อไป ไม่ใช่หมายถึงรอให้พระวิญญาณฯ ลงมาเจิมในชีวิตในสภาพที่ว่างเปล่าคือยังไม่มีพระวิญญาณฯ ในชีวิต

สิ่งที่น่าคิดหากคริสตจักรเน้นพัฒนาประสบการณ์การแช่ตัวในพระวิญญาณฯ  (Soaking) ต้องตอบคำถามบางอย่างให้ได้ก่อนว่า

1. ประสบการณ์การแช่ตัวในพระวิญญาณฯ (Soaking) เป็นเป้าหมายของการรู้จักพระเจ้าอย่างไร?

2. เป็นประสบการณ์ที่เกิดขึ้นโดยพระเจ้าหรือการจัดเตรียมของมนุษย์ในด้านการสร้างบรรยากาศ บทเพลง แสงไฟ การเร้าด้วยคำพูด ฯลฯ หรือสัดส่วนระหว่างพระเจ้าและมนุษย์อะไรมากกว่ากัน?

3. พระวจนะเพื่อการดำเนินชีวิตและการเปลี่ยนแปลงชีวิตมีบทบาทที่จุดไหนในประสบการณ์นี้?

การนมัสการที่ดีสำหรับผมคือการเน้นพระเจ้าเป็นศูนย์กลาง ความดื่มด่ำลึกซึ้งและบทเพลงจะสะท้อนออกจากความสัมพันธ์กับพระเจ้าภายในของแต่ละคน ยิ่งรักและดำเนินชีวิตกับพระเจ้ามากจะยิ่งลึกซึ้งในการนมัสการมาก และเป้าหมายของการนมัสการคือการให้พระเจ้าเข้ามาครอบครองชีวิตติดตามพระเจ้าดำเนินชีวิตในพระประสงค์ของพระองค์ เป็นต้น

การแช่ตัวอยู่ในพระวิญญาณฯ (Soaking) สำหรับผมคงยังมีอะไรต้องขบคิดอีกเยอะ และไม่คิดว่าควรเป็นประสบการณ์หลักที่คริสตจักรควรนำไปใช้แม้ในช่วงนมัสการหรืออธิษฐาน และหากจะเน้นประสบการณ์ฝ่ายวิญญาณฯ จริงๆ คริสตจักรควรเน้นประสบการณ์ที่มีคำอธิบายได้ในพระคัมภีร์ ใช้ศัพท์ให้ตรงพระคัมภีร์ เช่น หากเราเคยพูดว่า ให้เราแช่ตัว แช่อิ่มในการทรงสถิตของพระเจ้า แนะนำให้เปลี่ยนเป็น ให้เรา "ดื่มด่ำใน" การทรงสถิตของพระเจ้า หรือ ให้เรา "อยู่ใน" การทรงสถิตของพระเจ้า จะดีกว่า

มากไปกว่านั้นคริสตจักรควรเน้นการดำเนินชีวิตกลับใจจากบาป เปลี่ยนแปลงโดยชำระให้บริสุทธิ์โดยพระวิญญาณฯ (Sanctification) จะเป็นประโยชน์มากกว่า

ความคิดเห็น