ความสัมพันธ์ครอบครัวที่ปริร้าว พระเจ้าสามารถช่วยฟื้นฟูขึ้นใหม่ได้

เสียงสะท้อนในใจของการมีครอบครัวดีเป็นความฝันของทุกคน แต่ความเป็นจริงชีวิตเราอาจมีความสมหวังหรือผิดหวังคลุกเคล้ากันไป บางทีชีวิตเหมือนจะชักนำให้เข้าใจถึงสุภาษิต “คนในอยากออกคนนอกอยากเข้า” มากขึ้นทุกวัน พื้นที่ปลอดภัยที่ควรมีในครอบครัวกลับถูกล่วงล้ำคับใจ บทสนทนาระหว่างมื้ออาหารน้อยลงเรื่อย ๆ ตรงข้ามกับวิถีชีวิตที่ทุกคนต่างยุ่งก้มหน้าก้มตาดูจอใหญ่เล็กบนมือถือของตัวเอง บางทีอนาคตอาจไม่มีใครคาดเดาได้ แต่วันนี้ความสำเร็จตามฝันสามารถเริ่มต้นได้ที่คุณ พระเจ้าจะเป็นกำลังใจยิ่งใหญ่ที่จะเชื้อเชิญความฝันสวยงามนี้ให้กลับมาดีกว่าเดิม

สภาพสังคมโดยเฉพาะครอบครัวหลายครั้งแทนที่จะพยายามรักษาวิถีให้เป็นไปตามอุดมคติกลับโน้มเอียงสู่ความรุนแรง มีการใช้ความรุนแรงทางร่างกาย (Physical Abuse) ทำให้เกิดการบาดเจ็บหรือเสี่ยงต่อการบาดเจ็บ การใช้ความรุนแรงต่อจิตใจ (Emotional Abuse) ความรุนแรงทางเพศ (Sexual Abuse) สัมผัสทางเพศโดยที่อีกฝ่ายไม่ยินยอม การทารุณกรรมทางการเงิน (Financial Abuse) หรือแม้แต่การล่วงละเมิดทางจิตวิญญาณ (Spiritual Abuse) ใช้ศาสนา ความเชื่อ หรือวัฒนธรรมเป็นข้ออ้างบังคับจิตใจของอีกฝ่ายหนึ่ง ความอึดอัดเหล่านี้จึงปะทุอยู่ในจิตใจภายใต้ใบหน้าที่ยากจะแสดงความรู้สึกแท้จริงออกมา

พระคัมภีร์หลายตอนบรรยายทัศนะของพระเจ้าในเรื่องความสัมพันธ์ของสังคมและครอบครัวว่าพระองค์ทรงเข้าใจและเห็นใจเราทั้งหลาย โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คนยากจน หญิงม่าย ลูกกำพร้า คนไร้ที่พึ่งพา พระองค์ไม่ทรงเห็นชอบกับความทารุณ ความรุนแรง และความอธรรมทั้งปวง พระเจ้าจะทรงปกป้อง ช่วยเหลือ ทรงยืนข้างคนถูกกดขี่ข่มเหงเสมอมา (อพยพ 22:21-23; สดุดี 68:5, 146:9 เป็นต้น) 

อย่างไรก็ตาม เราต่างพบว่าปัญหาความแตกหักในความสัมพันธ์ที่บานปลายมักมีจุดเริ่มต้นจากเรื่องเล็กน้อยทั้งนั้น แต่หนทางที่จะกลับไปแก้ปัญหาเรื่องเล็กน้อย ณ จุดเริ่มต้นเหมือนจะเป็นไปไม่ได้เลยภายใต้สถานการณ์ลุกลามใหญ่โตที่เกิดขึ้นแล้ว คล้ายกับความพยายามดับไฟป่าทั้ง ๆ ที่รู้ว่าจุดเริ่มต้นมาจากกองไฟเล็กๆ เท่านั้น

ปัญหามากมายเกินบรรยายเหล่านี้พระคัมภีร์เปิดเผยถึงที่มาดั้งเดิมเรียกว่าความบาป ความบาปเป็นความบกพร่องทางจิตวิญญาณซึ่งหากละเลยไม่แยแสจะผลิตคนและสังคมที่ไร้มโนธรรมเป็นเหตุให้เกิดความทุกข์มากมายไปจนถึงความพินาศในนรกบึงไฟ พฤติกรรมไร้มโนธรรมนี้อาจจะถูกกดไว้ด้วยจริยธรรมภายในหรือขนบภายนอก แต่ตัวตนบาปก็พร้อมจะระเบิดออกมาอาละวาดได้ทุกเมื่อหากถูกกระทบถูกมุมถูกที่ถูกเวลา

พระเจ้าทรงเข้าใจ ทรงรักเรา ไม่ทรงทอดทิ้งเรา พระเยซูคริสต์จึงทรงลงมาเพื่อช่วยแก้ไขที่ต้นเหตุคือความบาป พระเยซูทรงยอมใช้พระองค์เองเป็นเครื่องมือในการดูดซับแบกรับบาปทั้งสิ้นของมวลมนุษยชาติ โดยยอมถูกตรึงบนไม้กางเขน ทรงสิ้นพระชนม์เพื่อให้บาปจบที่พระองค์ หลังจากนั้นวันที่สามทรงฟื้นคืนพระชนม์เอาชนะเหล็กในตัวสุดท้ายของความบาปคือความตาย เรื่องราวนี้เป็นความจริงในหน้าประวัติศาสตร์โลกและทางจิตวิญญาณ พระเยซูจึงเป็นหนทางแห่งการรื้อฟื้นสิ่งที่เสื่อมถอยให้กลับคืนมา เพราะการเชื่อวางใจในพระองค์ ผู้เชื่อจะได้รับการยกโทษบาป รับการแก้ปัญหาตั้งตนอย่างหมดจด ผลกระทบในมุมบวกจะค่อยๆ ส่งอิทธิพลจนทำให้เกิดการรื้อฟื้นความสัมพันธ์ทุกประการรวมถึงครอบครัวที่อาจจะแตกร้าวให้กลับคืนไปสู่ความตั้งใจแรกเริ่ม 

สำหรับคริสเตียนที่ปรารถนารับการฟื้นฟูความสัมพันธ์ในครอบครัวที่อาจเกิดรอยปริร้าวขึ้นแล้ว หากเรากลับมาทบทวนความผิดพลาดเหล่านั้นด้วยใจจริง ไม่ว่าใครจะเริ่มก่อน เราจะตั้งใจทำส่วนของเราต่อพระเจ้า ขอโทษพระเจ้า สารภาพบาป ตั้งต้นใหม่ รับพระประสงค์พระเจ้าในความสัมพันธ์ที่ชอบธรรมกลับมาปรับใช้จริงในคำพูดการกระทำ ยอมรับการพิสูจน์ตัวต่อพระเจ้าและครอบครัวด้วยความอดทน ขอคำปรึกษาในภาคปฏิบัติเจาะจงจากผู้ใหญ่ในคริสตจักรที่เราไว้วางใจ พระเจ้าจะเป็นผู้สนับสนุนนำการฟื้นฟูกลับมา ให้เราเริ่มต้นทันทีวันนี้ไม่ต้องรีรอ